งานบริการและการท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมที่น่าตื่นเต้นและมีเสน่ห์ ความสนุกจากการได้มอบช่วงเวลา ดี ๆ ให้กับนักท่องเที่ยว ความสุขจากการทำให้แขกมีความสุข ความรู้สึกพึงพอใจที่ได้มาจากการหาเงินในแบบของคุณเอง ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมผู้คนมากมายจึงคิดที่จะสร้างโฮสเทลของตนเองขึ้นมา

โฮสเทลเป็นหนึ่งในรูปแบบที่พักที่เรียบง่าย และสนุกสนานที่สุดที่คุณสามารถเป็นเจ้าของได้

อย่างไรก็ตาม โฮสเทลนั้นเป็นธุรกิจที่จริงจัง และมีหลายสิ่งที่ต้องพิจารณาก่อนที่คุณจะก้าวกระโดดลงมาทำธุรกิจนี้ มีเรื่องราวมากมายที่รอท้าทายคุณอยู่ ซึ่งความท้าทายเหล่านี้เกิดขึ้นก่อนที่คุณจะต้อนรับแขกคนแรกมาเข้าพักเสียด้วยซ้ำ

ในคู่มือฉบับสมบูรณ์นี้ เราจะแนะนำคุณในทุกขั้นตอนของการเริ่มต้นทำธุรกิจโฮสเทล เพื่อให้คุณได้เพลิดเพลินไปกับความสนุก ความพึงพอใจ และผลกำไรทั้งหมดที่ธุรกิจนี้จะสามารถมอบให้คุณได้

ซอฟต์แวร์ all-in-one เพื่อให้ชีวิตโฮสเทลง่ายขึ้น

การเปิดโฮสเทลอาจวุ่นวายในช่วงแรก แต่มันจะง่ายขึ้นด้วยความช่วยเหลือของโซลูชันการจัดการโฮสเทลแบบ all-in-one อย่าง Little Hotelier

เรียนรู้เพิ่มเติม

โฮสเทล คือ อะไร?

โดยทั่วไปแล้ว คำว่า ‘โฮสเทล’ สามารถนำไปใช้กับสถานที่ให้บริการใด ๆ ก็ตามที่ให้บริการที่พักราคาย่อมเยาสำหรับผู้คนทุกประเภท – ไม่ใช่แค่นักท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ยังรวมถึงนักเรียน นักศึกษาและคนทำงานอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม โดยส่วนใหญ่แล้ว โฮสเทลจะมุ่งเป้าไปที่นักเดินทางแบ็คแพ็คและนักท่องเที่ยววัยหนุ่มสาว โดยให้บริการเตียงราคาย่อมเยา และมีบรรยากาศแบบคอมมูนิตี้ให้เข้าสังคมมากกว่าตัวเลือกที่พักอื่น ๆ อีกด้วย ซึ่งบางครั้งที่พักแบบนี้ก็มีบริการอาหารฟรี

โฮสเทลโดยทั่วไปมีลักษณะเป็นหอพัก – ห้องพักรวมที่มีหลายเตียง – แม้ว่าหลาย ๆ แห่งจะมีห้องพักส่วนตัวในราคาย่อมเยาก็ตาม ส่วนใหญ่มีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการทำอาหารแบบใช้ร่วมกันและมีพื้นที่ส่วนกลางมากมาย

การทำธุรกิจโฮสเทลมีผลกำไรหรือไม่?

คำตอบสั้น ๆ คือ “มี” ธุรกิจโฮสเทลสามารถทำกำไรได้สูง เนื่องจากรูปแบบธุรกิจโฮสเทลได้รับการออกแบบให้ใช้ต้นทุนต่ำในขณะที่สามารถรับผลกำไรสูงสุด

แน่นอนว่าโฮสเทลไม่ได้สร้างรายได้ต่อแขกหนึ่งคนมากเท่าโรงแรม แต่ค่าใช้จ่ายในการให้เช่าที่พักต่อแขกหนึ่งคนนั้นต่ำกว่ามาก และแม้ว่าห้องพักมาตรฐานขนาด 30 ตร.ม. ของโรงแรมจะได้รับการออกแบบให้รองรับผู้เข้าพักได้ถึง 2 คน แต่หอพักในโฮสเทลที่มีขนาดใกล้เคียงกันนั้นอาจสามารถรองรับผู้เข้าพักได้ถึง 6 หรือ 8 คนเลยทีเดียว คุณจึงสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้มากขึ้น

สมมติว่าคุณเปิดโฮสเทลขนาดกลางที่มีพื้นที่สำหรับ 50 คน และคิดค่าบริการ 25 ดอลลาร์ออสเตรเลียต่อเตียงในห้องพักรวมต่อคืน เมื่อมีผู้เข้าพักเต็มที่ คุณจะได้รับรายได้ 1250 ดอลลาร์ต่อคืน หรือสูงถึง 37,500 ดอลลาร์ต่อเดือนเลยทีเดียว

การสร้างบาร์เสริมขึ้นมาในที่พัก การจัดทัวร์ท่องเที่ยวในท้องที่ หรือการเสนอมื้อรับประทานอาหารค่ำร่วมกันทุกคืน ถือเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างโอกาสเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับประสบการณ์ของแขก และเพิ่มเงินเข้ากระเป๋าของคุณได้

แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าโฮสเทลทุกแห่งจะประสบความสำเร็จในทันที อยากดึงดูดแขกมาเข้าพัก คุณต้องทำทุกอย่างออกมาให้ดีที่สุด และจะเป็นไปได้ก็ต่อเมื่อคุณนำความรู้ ทักษะ และแนวความคิดที่ถูกต้องมาปรับใช้

การเป็นเจ้าของโฮสเทลนั้นเหมาะกับคุณหรือไม่?

เจ้าของโฮสเทลที่มีศักยภาพควรพึงระวัง: อาชีพนี้ถือเป็นวิถีชีวิตของคุณ มากกว่าจะเป็นอาชีพซะอีก

ในฐานะเจ้าของโฮสเทล คุณต้องมีความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ คุณต้องเตรียมพร้อมที่จะทำงานหลายชั่วโมง ในตอนกลางคืนและในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์เพื่อธุรกิจของคุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันหยุดสุดสัปดาห์นั่นแหละ

แน่นอนว่า มีโอกาสที่คุณจะได้พบกับผู้จัดการสักสองสามคนที่คุณไว้วางใจได้จริง ๆ ให้คุณได้ไปพักบ้าง แต่ในความเป็นจริงแล้ว คุณแทบต้องทำงานเกือบตลอดเวลาในช่วงหนึ่งหรือสองปีแรก (เป็นอย่างต่ำ)

สำหรับหลาย ๆ คน ความสนุก ความตื่นเต้น และความสมหวังที่ได้จากการบริหารกิจการโฮสเทลจะช่วยชดเชยความทุ่มเทกายใจที่ให้ไปกับงานนี้ได้  การได้อยู่ท่ามกลางผู้คนที่น่าสนใจ แบ่งปันเรื่องราวและพาพวกเขาชมรอบ ๆ ท้องที่ของคุณ เป็นวิถีชีวิตที่น่าอิจฉาสำหรับหลาย ๆ คน

ก่อนที่คุณจะก้าวกระโดดลงมาทำธุรกิจ ให้ถามตัวเองด้วยคำถามต่อไปนี้ หากคำตอบคือ ‘ใช่’ คุณอาจจะเหมาะกับการเป็นเจ้าของกิจการโฮสเทล:

  • คุณรับมือกับแรงกดดันได้ดีไหม?
  • คุณได้รับพลังงานจากการอยู่รอบ ๆ คนอื่นหรือไม่?
  • คุณสามารถพึงพอใจไปกับงานเดิม ๆ เช่น การทำความสะอาดหรือไม่?
  • คุณรู้จักท้องที่ของคุณเป็นอย่างดีหรือไม่?
  • คุณมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะดำเนินธุรกิจของคุณเองหรือไม่?
  • คุณพร้อมรับมือกับบางแง่มุมธุรกิจที่ไม่ค่อยมีเสน่ห์ เช่น การทำบัญชีและผู้ดูแลระบบหรือไม่?
  • คุณมีหุ้นส่วนทางธุรกิจ หรือหุ้นส่วนของชีวิตที่สามารถสนับสนุนคุณได้หรือไม่?
  • คุณพร้อมที่จะทำผิดพลาดและเรียนรู้จากมัน หรือไม่?
  • คุณสามารถทำงานหลาย ๆ อย่างไปพร้อม ๆ กันหรือไม่?
  • คุณสนุกกับงานประจำหรือไม่?
  • คุณยินดีที่จะสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ เพื่อบรรลุความสำเร็จหรือไม่?

คำถามอีกข้อที่คุณควรถามตัวเอง อาจเป็นคำถามที่ดูเรียบง่ายแต่กลับเจาะจงถึงแก่นแท้ของทุกสิ่ง คือ: ทำไม? ทำไมคุณถึงคิดที่จะเปิดโฮสเทล?

  • ทำเพราะอยากมีวิถีชีวิตแบบนี้หรือไม่? เจ้าของโฮสเทลรายใหม่จำนวนมากเริ่มต้นธุรกิจหลังการเดินทาง หลังจากพักในโฮสเทลหลายสิบแห่ง พวกเขารู้สึกว่าชีวิตของเจ้าของโฮสเทลนั้นน่าอิจฉา หากนี่คือแรงจูงใจหลักของคุณ คุณต้องเตรียมพร้อมสำหรับข้อเท็จจริงที่ว่าประสบการณ์ของผู้เข้าพักในโฮสเทลและเจ้าของโฮสเทลแตกต่างกันไป
  • ทำเพราะเงิน? ถ้าเป็นเช่นนั้น คุณจะต้องคิดตามความเป็นจริงว่าโฮสเทลของคุณสามารถทำเงินได้เท่าไร และมีโอกาสมากน้อยเพียงใดที่คุณจะประสบความสำเร็จ
  • บางที อาจจะเป็นเพราะคุณต้องการมีธุรกิจเป็นของตนเอง ในกรณีนี้ คุณควรกำหนดความหมายของความสำเร็จของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมชีวิตและการเงินของคุณ รีวิวที่ดีจากแขกที่มีความสุข รางวัลในอุตสาหกรรม หรือเพียงแค่มีธุรกิจที่มั่นคงที่สามารถหล่อเลี้ยงวิถีชีวิตของตัวคุณได้

หากคุณเข้าใจสิ่งที่คุณกำลังจะลงมือทำและแรงจูงใจในการทำ คุณก็พร้อมที่จะก้าวไปสู่ขั้นตอนต่อไป: วิธีเริ่มต้นธุรกิจโฮสเทล

วิธีเริ่มต้นโฮสเทล
วิธีเริ่มต้นโฮสเทล

วิธีพัฒนาแผนธุรกิจโฮสเทล

ขั้นตอนแรกในการเริ่มต้นทำธุรกิจโฮสเทลสำหรับแบ็คแพ็คเกอร์ คือ การพัฒนาแผนธุรกิจขั้นพื้นฐาน ซึ่งจะช่วยให้คุณเข้าใจชัดเจนยิ่งขึ้นว่าการเป็นเจ้าของโฮสเทลนั้นเหมาะสมกับคุณหรือไม่ สิ่งนี้จะทำให้คุณเห็นความเป็นจริงในบริบท เมื่อคุณเริ่มเข้าใจว่าธุรกิจดังกล่าวต้องการอะไรจากคุณ ทั้งโดยส่วนตัวและทางการเงิน

แผนธุรกิจที่มั่นคงสร้างขึ้นจากการศึกษาหาความรู้ที่จับต้องได้ ซึ่งช่วยให้คุณประเมินประเภทของโฮสเทลที่คุณสามารถสร้างได้ และประเมินประเภทประสบการณ์ของแขกที่คุณจะสามารถมอบให้ โดยเผยให้เห็นจุดตัดระหว่างความต้องการของคุณกับความต้องการของผู้เข้าพัก และช่วยให้คุณสร้างโฮสเทลที่ผสมผสานทั้งสองอย่างเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว

การรวบรวมข้อมูลสำหรับแผนธุรกิจของคุณนั้นเกี่ยวกับการเก็บข้อมูลที่ถูกต้องจากบุคคลที่เหมาะสม ค้นหากลุ่มเป้าหมายของคุณทางออนไลน์ ในสถานที่ต่าง ๆ เช่น กลุ่มบน Facebook และฟอรัม และถามพวกเขาว่าพวกเขามองหาอะไรในโฮสเทล ตามเว็บไซต์วิจารณ์ออนไลน์ยังมีคำวิจารณ์ที่สร้างสรรค์มากมาย ให้คุณเห็นว่าคุณสามารถยกระดับโฮสเทลของคุณให้เหนือกว่าที่อื่น ๆ ในพื้นที่ได้อย่างไร

ลองนึกถึงประสบการณ์ส่วนตัวของคุณด้วย คุณชอบอะไรเกี่ยวกับการเข้าพักในโฮสเทลที่น่าจดจำที่สุดของคุณ การรับประทานอาหารเย็นแบบเป็นกลุ่ม? ที่นอนที่แสนสบาย? การอาบน้ำที่น่าตื่นตาตื่นใจ? บาร์ในสถานที่ที่มีชีวิตชีวา? และอะไรที่คุณไม่ชอบเกี่ยวกับประสบการณ์โฮสเทลที่น่าจดจำน้อยที่สุดของคุณ สุขอนามัยไม่ดี? พนักงานหยาบคาย? ขาดพื้นที่จัดเก็บหรือเต้าเสียบไฟฟ้า?

นอกจากนี้ แผนธุรกิจของคุณควรระบุแขกในอุดมคติของคุณไว้ด้วย และวางแผนวิธีดึงดูดพวกเขาเข้ามา ตั้งแต่คำที่คุณแสดงบนเว็บไซต์ สถานที่ที่คุณโฆษณา ไปจนถึงบุคลิกที่คุณแสดงออกมาบนโซเชียลมีเดีย

แม่แบบแผนธุรกิจโฮสเทลขั้นพื้นฐาน

เนื่องจากเป็นเอกสารเฉพาะเจาะจงที่ออกแบบมาเพื่อทำงานเฉพาะอย่าง แผนธุรกิจจึงมีขนาด รูปร่าง และเนื้อหาแตกต่างกันไป ดังนั้น จึงมีข้อมูลบางส่วนที่ทุกแผนธุรกิจควรมีเนื้อหาครอบคลุม ลองพิจารณาดูว่ารายการต่อไปนี้สามารถนำไปปรับใช้กับธุรกิจโฮสเทลของคุณได้อย่างไร:

เป้าหมาย:

  • ทำไมคุณถึงคิดที่จะเปิดโฮสเทล? ด้วยเหตุผลทางการเงิน เหตุผลส่วนตัว หรือต้องการมีวิถีชีวิตแบบนี้?
  • คุณต้องการทำกำไรเท่าใด (ในยอดที่สมเหตุสมผล) ในอีกกี่ปีข้างหน้า?
  • เป้าหมายโฮสเทลของคุณสอดคล้องกับสถานการณ์ส่วนตัวของคุณในระยะสั้นและระยะยาวหรือไม่?

สิ่งที่จำเป็น:

  • คุณต้องมีเงินทุนเท่าไหร่ในการเริ่มต้นทำโฮสเทล และมีค่าใช้จ่ายหมุนเวียนเท่าไร?
  • มีใบอนุญาต กฎ ระเบียบและข้อบังคับประจำท้องถิ่นใดบ้างที่ถูกบังคับใช้กับโฮสเทลของคุณ ลองนึกถึงการแบ่งเขต กฎระเบียนการก่อตั้งอาคารและที่อยู่อาศัย กฎข้อบังคับด้านสุขภาพ ใบอนุญาตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และอื่น ๆ อีกมากมาย
  • คุณต้องมีประกันความคุ้มครองอะไรบ้าง?
  • คุณต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านภาษีใดบ้าง (ท้องถิ่น รัฐ และรัฐบาลกลาง) ? ขอแนะนำให้เจ้าของธุรกิจขอความช่วยเหลือจากนักบัญชีในเรื่องเหล่านี้เสมอ
  • โครงสร้างทางธุรกิจเป็นแบบใด – ผู้ค้ารายเดียว, ห้างหุ้นส่วน, ทรัสต์, กรรมสิทธิ์จำกัด (pty ltd) – และแบบไหนจะดีที่สุด?

วิเคราะห์การตลาด:

  • พิจารณาว่าแขกในอุดมคติของคุณมีลักษณะอย่างไร ทั้งจากความชอบส่วนบุคคลและจากประเภทบุคคลที่ที่พักของคุณจะดึงดูดให้เข้าพักมากที่สุด สร้าง ‘การจำลองกลุ่มลูกค้าสมมติ’ ที่อธิบายถึงแขกดังกล่าวในแง่ที่จับต้องได้มากขึ้น
  • พิจารณาความจุของโฮสเทลของคุณ และจำนวนเต็ม ที่คุณสามารถคาดหวังได้อย่างสมเหตุสมผลเมื่อพิจารณาจากตำแหน่งที่ตั้งของคุณ และสถานที่ที่แขกในอุดมคติของคุณน่าจะเดินทางมาจาก พื้นที่นี้เป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวหรือไม่? มีความต้องการโฮสเทลหรือไม่?
  • ศึกษาเกี่ยวกับความชอบของแขกในอุดมคติของคุณ นอกจากนี้ ต้องจับดูว่าปัจจัยเหล่านี้มีการเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาหรือไม่ เพื่อที่จะทำให้ธุรกิจได้ล้ำหน้ากว่าใคร 

การวิเคราะห์การแข่งขัน:

  • ศึกษาเกี่ยวกับจำนวน ราคา คุณภาพของโฮสเทล และตัวเลือกที่พักอื่น ๆ ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันในพื้นที่ของคุณ
  • พยายามทำความเข้าใจว่าโฮสเทลในท้องถิ่นเหล่านั้นทำกำไรได้อย่างไร คุณอาจต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์เพื่อที่จะทำความเข้าใจว่าธุรกิจดำเนินไปได้อย่างไร เช่น ดูว่าโฮสเทลเหล่านั้นมีจำนวนการจองเป็นอย่างไร หรือพูดคุยกับหอการค้าในพื้นที่ของคุณ
  • คู่แข่งของคุณทำการตลาดและโฆษณาตัวเองที่ไหนและอย่างไร?
  • คู่แข่งของคุณเลือกใช้เว็บไซต์จองโรงแรมใด?
  • คุณจะทำให้ตัวเองแตกต่างและโดดเด่นกว่าโฮสเทลอื่น ๆ ในพื้นที่ได้อย่างไร? ตัวเลือกต่าง ๆ ได้แก่ การสร้างแบรนด์ ระดับสิ่งอำนวยความสะดวก และกลุ่มเป้าหมาย

การบริหารจัดการ

  • พิจารณาถึงค่าใช้จ่ายล่วงหน้าและค่าใช้จ่ายหมุนเวียนสำหรับการบำรุงรักษาสิ่งอำนวยความสะดวก อุปกรณ์ วัสดุและบริการในที่พักของคุณ
  • กำหนดราคาที่มากกว่าสำหรับงานบริการ ที่ต้องจ้างบุคคลจากภายนอก เช่น การทำความสะอาด การทำสวน และซักรีด
  • พัฒนาขั้นตอนการดำเนินงานตามมาตรฐานโฮเทลของคุณ (SOPs) ขึ้นมา 

ค่าใช้จ่ายในการเริ่มต้นธุรกิจโฮสเทล

ตอนนี้ ได้เวลาพูดคุยเกี่ยวกับเงินในรูปแบบของค่าใช้จ่ายในการเริ่มต้นโฮสเทลแล้วล่ะ

ค่าใช้จ่ายหลัก ๆ ในการเปิดโฮสเทลจะขึ้นอยู่กับว่าคุณกำลังสร้างขึ้นมาใหม่ตั้งแต่ต้น ดัดแปลงจากอาคารเก่า หรือซื้อต่อโฮสเทลที่มีอยู่แล้วมาทำ นอกจากค่าใช้จ่ายหลักแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ อีกจำนวนมากที่คุณจะต้องเผชิญก่อนการเปิดโฮสเทล คุณต้องแน่ใจว่าคุณมีเงินทุนเพียงพอที่จะชำระค่าใช้จ่ายเหล่านั้น

ค่าใช้จ่ายจะแตกต่างกันไปในแต่ละโฮสเทล และในแต่ละประเทศ ซึ่งมักประกอบด้วยรายละเอียดเหล่านี้:

การแบ่งเขต

รัฐบาลท้องถิ่นของคุณจะตัดสินใจว่าความฝันในการเปิดโฮสเทลของคุณจะเป็นจริงขึ้นมาหรือไม่ หรืออาจต้องปรับเปลี่ยนแผนการเล็ก ๆ น้อย ๆ กฎระเบียบอาจจะแตกต่างกันอย่างมากในแต่ละพื้นที่ และสามารถเป็นตัวกำหนดสิ่งต่าง ๆ อาทิ จำนวนหอพัก การจัดสรรที่จอดรถ ชั่วโมงปลอดเสียง และกำหนดว่าคุณจะต้องอาศัยอยู่ในสถานที่นั้น ๆ หรือไม่ โปรดระวัง: หากคุณไม่สามารถติ๊กเครื่องหมายถูกว่าสามารถทำได้ครบทุกข้อ ธุรกิจของคุณจะผิดกฎหมาย

อาคารและสาธารณูปโภค

ไฟฟ้า ประปา และแก๊สของคุณต้องใช้งานได้ตามมาตรฐาน อาคารของคุณต้องมีโครงสร้างที่ดี พร้อมทั้งแลดูใหม่และน่าดึงดูดใจ พื้นที่กลางแจ้งควรได้รับการจัดสวนและดูแลอย่างใส่ใจ

เครื่องใช้และของตกแต่ง

ข้าวของเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จำเป็นทั้งหมด สำหรับห้องครัว บริการซักรีด ความบันเทิง เครื่องทำความร้อนและเครื่องปรับอากาศจะต้องได้รับการจัดซื้อ ติดตั้ง และบำรุงรักษา ควรเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์คุณภาพสูงที่ดูดีและทนทาน เพราะจะถูกใช้งานเป็นประจำ

ออกแบบและตกแต่งภายใน

ลูกค้าที่ไม่ได้คลั่งไคล้ในความหรูหรา ชอบที่จะเข้าพักในโฮสเทล หมายความว่า แนวทางการออกแบบและตกแต่งที่ผสมผสานความสนุกสนานเข้ากับส่วนที่สำคัญที่สุด คือ ราคาที่ย่อมเยา ถือเป็นสไตล์ที่สามารถไปได้ดีกับธุรกิจโฮเทล ทั้งยังช่วยให้คุณสามารถประหยัดเงินไปได้อีกหลายพัน

ประกันภัย

หากเกิดเรื่องเลวร้ายขึ้นคุณต้องได้รับการคุ้มครอง พิจารณาทำประกันภัย ดังต่อไปนี้เพื่อธุรกิจและตัวคุณเอง:

  • ประกันภัยอาคารและทรัพย์สิน
  • การประกันภัยความรับผิดต่อสาธารณะและนายจ้าง
  • การประกันการหยุดชะงักของธุรกิจ
  • ประกันคุ้มครองรายได้

การเปลี่ยนของที่เสียหาย

ในโฮสเทล สิ่งของต่าง ๆ อาจจะเกิดการแตกหักเสียหายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากแขกผู้เข้าพักหรือพนักงานของเราเองก็ได้ บ่อยครั้งที่กรณีเหล่านี้ไม่คุ้มค่าที่จะทำประกัน หรือประกันก็ไม่ได้ครอบคลุม ดังนั้นคุณต้องจัดสรรงบประมาณสำหรับการเปลี่ยนของที่เสียหาย อาทิ ช้อนส้อม ถ้วยชาม ผ้าปูเตียง ของตกแต่ง ต้นไม้ และอื่น ๆ

เว็บไซต์และการตลาด

การท่องเที่ยวและงานบริการเป็นอุตสาหกรรมที่มีการแข่งขันสูง คุณไม่สามารถคาดหวังว่าลูกค้าจะเข้ามาพักอาศัยได้ตั้งแต่เริ่มแรก ในทางกลับกัน คุณควรกระจายข่าวดี ๆ เกี่ยวกับโฮสเทลของคุณแทน เริ่มต้นด้วยการสร้างเว็บไซต์ซึ่งอาจเป็นกระบวนการที่เรียบง่ายและคุ้มค่าอย่างน่าประหลาดใจด้วยเครื่องมืออย่าง เครื่องมือสร้างเว็บไซต์ออนไลน์ของ Little Hotelier คุณควรทุ่มเทเวลาในการตั้งค่ารายชื่อบนเว็บไซต์จองโรงแรมออนไลน์ ช่องทางโซเชียลมีเดีย และโปรไฟล์ของ Google Business และพิจารณาลงทุนในการโฆษณาออนไลน์เพื่อให้ชื่อของคุณเป็นที่รู้จัก

ข้อกำหนดด้านความปลอดภัยในสถานที่

มีข้อกำหนดด้านสุขภาพและความปลอดภัยบางอย่างที่คุณพึงทำ แม้ว่าสิ่งเหล่านี้อาจจะเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ตั้งของคุณ อย่างน้อยที่สุด คุณจะต้องมีอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น เครื่องตรวจจับควันไฟและถังดับเพลิง แต่คุณยังอาจต้องการสัญญาณเตือนก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ ป้ายทางออก จุดรวมพลฉุกเฉิน และสิ่งอื่น ๆ ที่จะรับประกันความปลอดภัยให้แก่แขกของคุณได้

ข้าวของเครื่องใช้ในสำนักงาน 

ธุรกิจสมัยใหม่ไม่สามารถดำเนินไปได้ด้วยปากกาและกระดาษเพียงอย่างเดียว และทุกวันนี้อาจจะไม่ได้ใช้ปากกาและกระดาษเลยด้วยซ้ำ การเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างสมบูรณ์แบบ ช่วยให้คุณตัดเครื่องใช้สำนักงานบางอย่างออกไปได้ เช่น เครื่องพิมพ์ สแกนเนอร์ ตู้เก็บเอกสาร และเครื่องบันทึกเงินสด และแทนที่ข้าวของเหล่านี้ด้วยแล็ปท็อปและสมาร์ทโฟน ธุรกิจของคุณอาจจะต้องมีอุปกรณ์สำหรับการบริการผู้ค้า – อย่างเช่น การรับชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ – แต่นั่นก็สามารถทำได้ผ่านโทรศัพท์มือถือของคุณเช่นเดียวกัน 

พนักงาน

แม้ว่าโฮสเทลบางแห่งจะมีขนาดเล็กพอที่จะมีคนดำเนินการแค่ 1-2 คน แต่คุณ (อาจ) ต้องจ้างคนมาช่วยงานบางอย่างก่อนที่จะเปิดธุรกิจ ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากเพราะเหนือสิ่งอื่นใดคือ คุณต้องมีสุขภาพจิตที่ดี การมีคนมาช่วยทำงานเล็ก ๆ น้อย ๆ แทนคุณ เช่น การทำความสะอาด หรือการจัดการกะกลางคืน ซึ่งคุณไม่จำเป็นต้องทำเอง จะสามารถช่วยประหยัดเวลาอันมีค่าของคุณได้ 

การเริ่มต้นทำธุรกิจโฮสเทล

คุณมีแผนธุรกิจ คุณเข้าใจเรื่องต้นทุนและมีหลักประกันทางการเงินที่เพียงพอ ขั้นตอนต่อไปในการเริ่มต้นทำธุรกิจโฮสเทลของคุณก็คือคือ การเริ่มทำมัน 

การเริ่มทำธุรกิจโฮสเทลเป็นโอกาสที่น่าตื่นเต้น เป็นธุรกิจที่สนุกที่สามารถสร้างรายได้ให้กับคุณ และคุณสามารถปั้นมันเป็นรูปร่างอะไรก็ได้ที่คุณต้องการ มาดูขั้นตอนหลัก ๆ สองสามข้อในกระบวนการเปิดโฮสเทลของคุณเองกัน

สิ่งที่ควรมองหาเมื่อซื้อต่อโฮสเทล

วิธีการที่ง่ายที่สุด วิธีหนึ่งในการเข้าสู่เกมธุรกิจโฮสเทล คือ การซื้อต่อธุรกิจที่ทำอยู่แล้ว หากคุณซื้อโฮสเทลที่เปิดดำเนินการได้ งานพื้นฐานจำนวนมากจะเสร็จสิ้นไป ซึ่งทำให้มีงานทำน้อยลงและเส้นทางไปสู่รายได้ที่เร็วขึ้น

แต่การซื้อธุรกิจเป็นกระบวนการที่ซับซ้อน เป็นกระบวนการที่ต้องใช้ชุดทักษะเฉพาะ และผู้ซื้อจะต้องตรวจสอบสิ่งต่าง ๆ ให้ดี ก่อนตัดสินใจลงทุน:

  • กระแสเงินสดในปัจจุบัน
  • ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานรายวัน
  • ระบบที่มีอยู่เดิม
  • ซัพพลายเออร์ที่มีอยู่
  • การฝึกอบรม/การสนับสนุนใด ๆ ที่จะมีให้หลังการขาย
  • ข้อกำหนดทางกฎหมาย

นอกจากนี้ยังมีคำถามที่ไม่เจาะจงอีกหลายข้อที่คุณควรถามตัวเองก่อน ได้แก่:

  • โฮสเทลตั้งอยู่ในท้องถิ่นที่ดีหรือไม่?
  • ขนาดตัวสถานที่เหมาะสมหรือไม่?
  • จำเป็นต้องอัพเกรดหรือปรับปรุงอะไรบ้าง?
  • ลูกค้าโฮสเทลในปัจจุบันตรงกับกลุ่มลูกค้าที่คุณคาดหวังหรือไม่?
  • ธุรกิจเป็นไปตามฤดูกาลหรือไม่?
  • มีค่าใช้จ่ายก้อนโตจากการขอใบอนุญาตไปจนถึงการปรับปรุงสถานที่ที่จำเป็นต้องชำระเร็ว ๆ นี้หรือไม่?

อีกหนึ่งคำถามที่น่าสนใจ คือ เหตุใดสถานที่/ธุรกิจนี้จึงถูกขายตั้งแต่แรก บางทีเจ้าของเก่าอาจต้องการขายด้วยเหตุผลส่วนตัว หรือต้องการก้าวไปทำธุรกิจอื่นที่ท้าทายกว่า แต่ถ้าคำตอบคือ เรื่องสถานการณ์ด้านการเงิน เหตุผลนี้น่าจะเป็นสิ่งที่คุณควรกังวลใจ ความขยันในการค้นหาคำตอบเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่ไม่จำเป็นได้

ในโลกอุดมคติ คุณจะมีตัวเลือกมากกว่าหนึ่งตัวเสมอ สิ่งนี้จะช่วยให้คุณสามารถเปรียบเทียบโฮสเทลแต่ละที่ได้ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณได้รับธุรกิจที่ดีที่สุดในราคาที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

10 ข้อผิดพลาดที่ควรหลีกเลี่ยงเมื่อเปิดโฮสเทล

เช่นเดียวกับธุรกิจอื่น ๆ การทำโฮสเทลล้วนมีอุปสรรค์และหลุมบ่อเล็ก ๆ น้อยๆ ให้คุณหลบหลีก บนเส้นทางสู่ความสำเร็จของการทำธุรกิจ

แน่นอนว่า คุณอาจเคยเข้าพักในโฮสเทลหลายสิบแห่งมาก่อน และเชื่อว่านี่คือธุรกิจสำหรับคุณ คุณคงเป็นคนที่ได้รับพลังงานจากการอยู่ร่วมกับผู้อื่น แต่ความหลงใหลและบุคลิกภาพเป็นเพียงจิ๊กซอว์สองชิ้นในปริศนาที่ใหญ่กว่ามาก เจ้าของโฮสเทลในอนาคตจะต้องเปิดตาให้กว้างเพื่อมองความเป็นจริงของธุรกิจ

นี่คือ 10 ข้อผิดพลาดที่ควรหลีกเลี่ยง:

  1. เข้าไปทำแบบไม่รู้อีโหน่อีเหน่ เหมือนคนตาบอด: แน่นอนว่าคุณอาจเคยพักที่โฮสเทลมาก่อน แต่คุณรู้หรือไม่ว่า การบริหารโฮสเทลเป็นอย่างไร? ลองพูดคุยกับเจ้าของโฮสเทลในขณะที่คุณเข้าพัก ติดต่อเจ้าของต่าง ๆ ผ่าน LinkedIn ทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อให้เข้าใจว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่ก่อนที่จะก้าวกระโดดเข้าไปลงมือทำ
  2. พลาด ที่ไม่ได้ศึกษาตลาดก่อนเริ่ม: คุณไม่สามารถเปิดโฮสเทลและคาดหวังว่า จะได้ธุรกิจที่รุ่งเรือง ก่อนอื่นคุณต้องเข้าใจว่ามีความต้องการที่พักประเภทนี้ในพื้นที่ของคุณหรือไม่ คุณจำเป็นต้องทราบประเภทของแขกที่คุณกำหนดเป้าหมาย และคุณต้องคำนวนว่าโฮสเทลในฝันของคุณจะสามารถเกิดขึ้นจริงได้หรือไม่
  3. บริการดีเกินไปกว่างบ: ความปรารถนาที่จะทำให้ผู้เข้าพักมีความสุขจะฝังลึกอยู่ในเจ้าของโฮสเทลส่วนใหญ่ และแม้ว่าจะเป็นสิ่งสำคัญที่คุณควรทำ แต่คุณก็ไม่สามารถให้บริการดีเกินไปจนถึงจุดที่คุณสูญเสียเงินได้ คุณกำลังทำธุรกิจ ไม่ได้ทำการกุศล ดังนั้นคุณต้องทำให้แขกพึงพอใจในขณะที่รักษาส่วนต่างทางกำไรที่สำคัญทั้งหมดไว้ ราคาของคุณควรสะท้อนถึงคุณภาพของประสบการณ์ที่คุณมอบให้พร้อมสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น การให้บริการอาหารค่ำวันอาทิตย์ฟรี หรือ เบียร์ฟรีเมื่อเดินทางมาถึง อาจจะจุดประกายความประทับใจ (เล็กๆ น้อยๆ) ที่ทำให้โฮสเทลของคุณน่าจดจำขึ้นได้
  4. ทำอยู่คนเดียว: ต่างจากที่พักอื่น ๆ เช่น โรงแรมอพาร์ตเมนต์ และบีแอนด์บี โฮเทลเป็นธุรกิจที่มีกิจกรรมเฉพาะ แขกจะสังสรรค์กันในพื้นที่ส่วนกลาง ดื่มเครื่องดื่ม และพูดคุยกันจนดึกดื่น คุณคงไม่อยากเป็นคนที่ต้องมาปิดไฟตอนตี 2 แล้วตื่นมาทำความสะอาดตอน 6 โมงเช้า ในฐานะเจ้าของโฮสเทล คุณต้องเข้าใจคุณค่าในเวลาของคุณ จ้างพนักงานเพื่อดูแลงานที่มีมูลค่าต่ำ ดังนั้นคุณจึงมีอิสระที่จะมุ่งเน้นไปที่สิ่งที่มีค่าสูง เช่น การสร้างประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้เข้าพักและการเติบโตของธุรกิจของคุณ เครื่องมือจัดการจัดการที่พักจะช่วยลดงานอันยุ่งยากได้อย่างเห็นได้ชัด
  5. ล้มเหลวในการทำการตลาดธุรกิจของคุณ: ผู้คนจะไม่เลือกพักในโฮสเทลของคุณหากพวกเขาไม่รู้จัก ในขณะที่คุณอาจคิดว่าชื่อเสียงของคุณนั้นจะแพร่กระจายออกไปได้ง่าย ๆ โดยแขกจะไปบอกเพื่อนของพวกเขา แต่ใครจะบอกเพื่อนของตัวเองกันล่ะ โดยปกติแล้ว มันจะไม่ง่ายอย่างนั้น ในโลกของงานบริการที่มีการแข่งขันสูง คุณต้องลงทุนในด้านการตลาด เช่น Google Ads, การแสดงรายชื่อไฮไลท์บทเว็บไซต์จองโรงแรมออนไลน์, โพสต์โซเชียลมีเดียที่ได้ยิงแอด เพื่อให้ชื่อของโฮเทลของคุณโดดเด่นขึ้นมา
  6. เปิดตัวเร็วเกินไป: บทวิจารณ์สองสามเรื่องแรกของคุณมีค่ามากที่สุด เพราะถ้าคุณเริ่มต้นด้วยคะแนนห้าดาวหรือสิบเต็ม ผู้คนจะอยากรู้ว่ามีเรื่องอะไรน่าสนใจ แต่ถ้าคุณเปิดเร็วเกินไป ทั้งที่ยังไม่พร้อม คุณสามารถสร้างความเสียหายให้กับแบรนด์ของคุณได้โดยการทำให้แขกได้รับประสบการณ์ที่ไม่เรียบร้อย ไม่เป็นระเบียบ หรือไม่เป็นมืออาชีพ
  7. การขาดนโยบายในการเข้าพัก: ความเข้าใจผิดระหว่างคุณและแขกของคุณอาจเป็นเรื่องที่น่าอึดอัดใจและในบางกรณีอาจมีค่าใช้จ่ายสูง คุณต้องมีความชัดเจนในกฎเกี่ยวกับการจอง การยกเลิก การมาถึง การออกเดินทาง การชำระเงิน และกฎในสถานที่ทั้งหมดของคุณ ซึ่งอาจเป็นเรื่องง่ายเหมือนการส่งอีเมลที่ชัดเจนและรัดกุมก่อนที่จะมาถึง
  8. ไม่สามารถแยกความแตกต่างได้: โฮสเทลโดยมาตรฐานผูกมัดตัวเองเข้ากับความสำเร็จที่จำกัด คุณอาจได้รับแขกไม่กี่คน หากคุณโชคดี คุณอาจทำเงินได้เล็กน้อย แต่ในความเป็นจริง หากคุณไม่ได้โดดเด่นไปจากที่พักอื่น ๆ ในพื้นที่ แขกจะไม่มีเหตุผลในการเลือกเข้าพักกับคุณ
  9. ไม่ลงทุนในเทคโนโลยี: งานผู้ดูแลระบบนั้นเป็นเรื่องน่าเบื่อ เสียเวลา และพาคุณออกจากแง่มุมที่สนุกสนานและมีค่ามากกว่าในการบริหารโฮสเทลของคุณเอง เช่น การสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำให้กับแขกที่มาเข้าพัก โซลูชันการจัดการที่พักแบบสมบูรณ์อย่าง Little Hotelier สามารถปรับปรุงและทำให้งานทุกประเภทสำเร็จได้โดยอัตโนมัติ ตั้งแต่ซอฟต์แวร์เช็คอินที่แผนกต้อนรับไปจนถึงระบบจัดการช่องทางการขาย เพื่อให้คุณประหยัดเวลาได้ถึง 35 นาทีต่อการจอง เจ้าของโฮสเทลที่ชาญฉลาดรู้ดีว่าการลงทุนในเทคโนโลยีที่เหมาะสมจะทำให้ได้รับเงินคืนในไม่ช้า ในกรณีของ Little Hotelier คือสามารถมอบค่า ROI ได้สูงถึง 63 เท่าเลยทีเดียว
  10. บกพร่องในเรื่องทางกฎหมาย: มีงานที่น่าเบื่อมากมาย เกี่ยวกับกฎและข้อบังคับเมื่อคุณต้องการเปิดโฮสเทล แต่งานแต่ละอย่างต้องได้รับการจัดการอย่างเป็นระบบ การได้รับใบอนุญาตที่ถูกต้องจากการแบ่งเขต ไปจนถึงใบอนุญาตจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การมีประกันคุ้มครองที่เหมาะสม ผ่านการตรวจสอบ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าพนักงานทุกคนมีคุณสมบัติที่จำเป็นตั้งแต่การฝึกอบรมการปฐมพยาบาลไปจนถึงการจัดการอาหารอย่างปลอดภัย เรื่องเหล่านี้อาจจะน่าเบื่อ แต่ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก

วิธีจ้างพนักงานโฮสเทล

ตามกฎทั่วไป โฮสเทลที่มีผู้เข้าพักมากกว่า 15 คนขึ้นไป จะเป็นงานที่หนักเกินไปหากไม่มีพนักงานมาช่วยเหลือ เมื่อถึงเวลาที่จะพาใครอีกคนเข้ามา คุณสามารถใช้หนึ่งในสองวิธีนี้:

  1. หาอาสาสมัคร: คุณอาจมีคนงานที่เต็มใจและมีความสามารถมาพักที่โฮสเทลของคุณ เมื่อคุณต้องการคนเพิ่ม! โฮสเทลหลาย ๆ แห่งได้รับความช่วยเหลือเป็นพิเศษจากแขกของพวกเขา โดยปกติจะเป็นการช่วยงานสองสามชั่วโมงต่อวันแลกกับอาหารและหรือที่พักฟรี วิธีนี้ง่ายและสามารถช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย แต่อาจสะดวกน้อยกว่าการมีพนักงานที่เหมาะสมจริง ๆ เนื่องจากจะมีการเปลี่ยนตัวพนักงานอย่างต่อเนื่อง และคุณอาจประสบปัญหาในการหาคนที่มีทักษะและคุณสมบัติที่จำเป็นได้
  2. จ้างพนักงานประจำ: หากคุณเต็มใจที่จะลงทุนกับพนักงานที่เหมาะสม คุณจะได้พนักงานที่มีความมุ่งมั่นซึ่งสามารถทำทุกอย่างที่คุณต้องการได้ หากคุณจ้างงานได้ดี

ไม่ว่าคุณจะเลือกเส้นทางใดในสองเส้นทางนี้ คุณจะต้องระบุงานที่คุณต้องการลดภาระงานมากที่สุดไว้ ไม่ว่าจะเป็นงานธุรการ ฝ่ายต้อนรับส่วนหน้า งานทำความสะอาดหรือการจัดสวน จากนั้นจึงโพสต์โฆษณางานที่อธิบายตำแหน่งงาน และประเภทของพนักงานที่คุณกำลังมองหาโดยละเอียด

การกระจายข่าวเกี่ยวกับตำแหน่งงานที่คุณตามหาจะขึ้นอยู่กับประเภทของพนักงานที่คุณกำลังมองหา อาสาสมัครจำนวนมากสามารถหาได้จากในที่พักของคุณเอง ผ่านการแปะโปสเตอร์ง่าย ๆ หรือผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น WWOOF คำแนะนำส่วนบุคคลและโพสต์บนโซเชียลมีเดียนั้นมีประโยชน์สำหรับพนักงานทั้งสองประเภท ในขณะที่ LinkedIn และกระดานงานนั้นยอดเยี่ยมสำหรับการค้นหาพนักงานที่ได้รับค่าจ้าง

ในขั้นตอนการสัมภาษณ์ ให้มองหาทักษะที่จำเป็นสำหรับวิชาชีพ เช่น คุณสมบัติและประสบการณ์ และทักษะในเชิงจิตวิทยา เช่น ความน่าเชื่อถือและความเหมาะสมกับวัฒนธรรมองค์กร คนบางประเภท – รักสนุก ชอบเปิดเผย มีบุคลิกดีและเป็นมิตร – จะทำได้ดีเป็นพิเศษในงานโฮสเทล

เมื่อคุณพบพนักงานที่สมบูรณ์แบบแล้ว คุณควรทำทุกวิถีทางเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานที่พวกเขาสามารถเติบโตได้ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณ:

  • ให้ค่าตอบแทนที่ยุติธรรมแก่พนักงานของคุณ
  • มอบการฝึกอบรมและคำแนะนำทั้งหมดที่จำเป็นเพื่อให้พวกเขาประสบความสำเร็จในการทำงาน
  • เปิดช่องทางการสื่อสารไว้เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะแจ้งให้คุณทราบเมื่อประสบปัญหา และเพื่อให้คุณสามารถวิจารณ์ผลงานของพวกเขาได้อย่างสร้างสรรค์
  • มีส่วนร่วมในการตัดสินใจเพื่อให้พวกเขารู้สึกเป็นเจ้าของ
  • กล่าวขอบคุณ เน้นสิ่งที่พวกเขาทำได้ดี และให้รางวัลกับผลงานที่ดี

คำแนะนำในการทำธุรกิจโฮสเทล

คุณทำมันได้แล้ว! ตอนนี้คุณมีโฮสเทลที่รันงานได้เต็มรูปแบบพร้อมต้อนรับแขกแล้ว ความฝันกลายเป็นความจริง และคุณไม่จำเป็นที่จะต้องคิดเกี่ยวกับวิธีการเริ่มต้นธุรกิจโฮสเทลอีกต่อไป แต่ควรคำนึงว่าจะดำเนินการอย่างไรต่างหาก และในหลาย ๆ ด้าน นี่คือจุดเริ่มต้นของการทำงานจริง งานที่ทำเงิน ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

โปรโมตสถานที่พักของคุณด้วยการตลาด รับการจอง ตรวจสอบแขกเช็คอิน-เช็คเอาท์ สร้างประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมสำหรับแขกผู้เข้าพัก จัดทำงบประมาณ และวิเคราะห์รายได้ของคุณ เหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของหน้าที่ที่คุณต้องทำมันในตอนนี้

อาจรู้สึกเหมือนว่ามีเรื่องให้ต้องทำมากมาย ดังนั้นลองมาดูเทคนิคและเคล็ดลับที่จะทำให้การดำเนินงานธุรกิจโฮสเทลประจำวันเป็นเรื่องง่ายขึ้นเล็กน้อยกันเถอะ

ทำการตลาดโฮสเทลของคุณบนช่องทางออนไลน์

โฮสเทลจำเป็นต้องขยายเครือข่ายทางการตลาดออนไลน์ออกไปให้กว้างขวางมากกว่าปกติ ซึ่งมักจะกระจายไปทั่วทุกมุมโลกเพื่อค้นหาผู้เข้าพัก แต่ถ้าคุณรู้ว่าจะมุ่งทำการตลาดไปในทิศทางใด คุณจะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้ในเวลาที่พวกเขากำลังมองหาคุณพอดี

เว็บไซต์จองโรงแรมออนไลน์

นักเดินทางแบ็คแพ็คส่วนใหญ่ใช้เว็บไซต์การจองโรงแรมออนไลน์ (OTA) เพื่อค้นหาที่พักในครั้งถัดไป จากเว็บไซต์ทั่วไป เช่น Booking.com และ Expedia ไปจนถึงเว็บไซต์เฉพาะสำหรับนักเดินทางแบ็คแพ็ค เช่น Hostelworld คุณต้องแน่ใจว่าคุณมีตัวตนบนเว็บไซต์จองโรงแรมออนไลน์ที่เป้าหมายของคุณใช้ ซึ่งคุณจะต้องกำหนดให้เรียบร้อยว่า ใครคือเป้าหมายตอนทำวิจัยตลาดของคุณ คุณสามารถปรับโปรไฟล์บนเว็บไซต์การจองโรงแรมออนไลน์ให้ดูดีได้โดย:

  • แสดงผลอัตราราคาและปริมาณห้องว่างให้เป็นปัจจุบัน
  • แสดงคำอธิบายโดยละเอียดเกี่ยวกับที่พักของคุณที่ตรงกับคำถามที่พบบ่อย
  • อัปโหลดภาพถ่ายระดับคุณภาพหลาย ๆ รูปเพื่อให้โฮสเทลของคุณดูเฉิดฉายที่สุด
  • อย่าลืมใส่ข้อมูลการติดต่อและลิงค์ไปยังเว็บไซต์ของคุณ
  • ติดต่อกับผู้จัดการฝ่ายการตลาดของเว็บไซต์จองโรงแรมออนไลน์ เพื่อให้แน่ใจว่าบัญชีโฮสเทลของคุณทำงานเต็มประสิทธิภาพ

การมีช่องทางที่หลากหลายแต่ตรงเป้าหมายถือเป็นสิ่งสำคัญ แม้ว่าการจัดการรายชื่อบนเว็บไซต์จองโรงแรมหลากหลายเว็บพร้อม ๆ กันอาจฟังดูเป็นเรื่องที่ซับซ้อน แต่ซอฟต์แวร์ระบบจัดการช่องทางการขายระดับขั้นสูงนั้นสามารถทำให้มันเป็นขั้นตอนที่ง่ายดาย โดยให้คุณสามารถตัดห้องพักออกได้ตามเวลาจริงโดยอัตโนมัติในทุกช่องเมื่อห้องนั้นได้รับการจอง และยังสามารถอัปเดตราคา และสถานะห้องว่างได้ในคลิกเดียว

เว็บไซต์ของคุณ

เว็บไซต์จองโรงแรมออนไลน์จะเรียกเก็บค่าคอมมิชชั่นซึ่งกินเข้าไปในผลกำไรของคุณ เจ้าของโรงแรมที่ชาญฉลาด จะมีช่องทางการจองโดยตรง ซึ่งเป็นอีกฟังก์ชันหนึ่งที่เรียบง่าย เมื่อคุณมีเครื่องมือที่เหมาะสม นอกจากนี้ยังสามารถทำกำไรได้อย่างมหาศาล – เครื่องมือจองตรงออนไลน์ ของ Little Hotelier สามารถเพิ่มรายได้ ได้มากถึง 43% เลยทีเดียว!

การจองโดยตรงจะสามารถทำได้โดยง่ายดายบนเว็บไซต์ของคุณ การปรับปรุงรูปลักษณ์ ประสบการณ์ของผู้ใช้งาน ประสิทธิภาพและฟังก์ชันการทำงานของเว็บไซต์ของคุณ ช่วยให้คุณสามารถกระตุ้นให้แขกทำการจองโดยตรงได้มากขึ้น ในขณะเดียวกันก็สามารถดึงดูดลูกค้าได้มากขึ้นผ่านการจัดอันดับที่สูงขึ้นใน Google  ยิ่งไปกว่านั้น คุณไม่จำเป็นต้องใช้แรงกายแรงใจลงไปกับการพัฒนาเว็บไซต์อย่างมืออาชีพ: เครื่องมือสร้างเว็บไซต์ออนไลน์ ของ Little Hotelier ช่วยให้ทุกคนสามารถสร้างเว็บไซต์ที่สวยงามสมบูรณ์แบบ และใช้งานได้จริงได้อย่างง่ายดาย พร้อมความสามารถในการเปิดรับการจองโดยตรง!

เครื่องมือค้นหาเมตาเสิร์ชเอนจิน

เหนือกว่าเว็บไซต์จองโรงแรมออนไลน์ คือ เครื่องมือค้นหาเมตาเสิร์ชเอนจิน ที่รวบรวมข้อมูลที่จากเว็บไซต์จองโรงแรมออนไลน์เหล่านั้นมาแสดงผลเปรียบเทียบให้นักท่องเที่ยวอ่าน เมื่อพบข้อเสนอที่ดีที่สุด เครื่องมือค้นหาเมตาเสิร์ชเอนจินจะนำนักเดินทางไปทำการจองกับเว็บไซต์ที่เลือก ตัวอย่างของเว็บไซต์ดังกล่าว ได้แก่ Kayak, Trivago, Skyscanner และ Google ที่แสดงผลการค้นหาที่ดีเยี่ยม

การเชื่อมต่อเข้ากับเครื่องมือค้นหาเมตาเสิร์ชเอนจินสามารถเพิ่มปริมาณการเข้าชมของโฮสเทลได้อย่างมีนัยยะ ลองมองหาตัวเลือกเครื่องมือค้นหาเมตาเสิร์ชเอนจิน และพิจารณาการโฆษณาบนตัวเลือกที่กลุ่มเป้าหมายของคุณใช้

โซเชียลมีเดีย

ด้วยความที่เป็นสถานที่ ที่เต็มไปด้วยผู้คนหนุ่มสาวอันงดงาม มาใช้เวลาพักผ่อนในชีวิตของพวกเขาตอนท่องเที่ยว โฮสเทลให้ความรู้สึกว่าเป็นที่พักสำหรับการผลิตคอนเทนต์บนโซเชียลมีเดีย ในฐานะของเจ้าของโฮสเทล คุณควรพิจารณาว่าแพลตฟอร์มใดจะมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการเข้าถึงตลาดเป้าหมายของคุณ – Facebook, Instagram และ TikTok เป็นตัวเลือกที่เด่นชัด

ตั้งเป้าหมายที่จะโพสต์เนื้อหาที่เกี่ยวข้องและมีส่วนร่วมอย่างสม่ำเสมอ: ประมาณ 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์ต่อแพลตฟอร์ม แม้ว่าคุณอาจรู้สึกเหมือนมีอะไรมากมายให้แชร์ แต่การโพสต์อาจยุ่งยากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปเมื่อคุณใช้ความคิดที่ดีที่สุดของคุณจนหมด ดังนั้นนี่คือแรงบันดาลใจในการสร้างเนื้อหาบางส่วน:

  • เคล็ดลับและเทคนิคในการเดินทาง
  • บันทึกช่วงเวลาแห่งความสนุกที่โฮสเทลของคุณ
  • ข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องทำและเยี่ยมชมในพื้นที่ของคุณ
  • บทวิจารณ์และคำแนะนำเกี่ยวกับร้านอาหารและบาร์ในท้องถิ่น
  • การประกวดและโปรโมชั่น
  • ความคิดเห็นของแขก

ทำความเข้าใจกับการเดินทางของผู้เข้าพักในโฮสเทล

ความสำเร็จของโฮสเทลของคุณจะถูกตัดสินโดยแขก หากพวกเขามีช่วงเวลาที่ดี พวกเขาจะเขียนรีวิวที่ช่วยอวยยศโฮสเทลของคุณให้ พร้อมทั้งบอกต่อเพื่อน ๆ และครอบครัว และเดินทางกลับมาหาคุณเป็นประจำ ซึ่งทั้งหมดนี้จะเพิ่มโอกาสให้กับการผจญภัยบนเส้นทางธุรกิจโฮสเทลของคุณะประสบความสำเร็จ

เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขามีช่วงเวลาที่ดี คุณควรสวมบทบาทลองเป็นแขกดู แล้วทำตามขั้นตอนการค้นหา จอง และการเข้าพักที่โฮสเทลของคุณ:

  1. การมองเห็นชื่อโฮสเทลของคุณ: นักท่องเที่ยวแบ็คแพ็คเกือบทุกคนจะค้นหาและหวังว่าจะพบสถานที่ให้บริการของคุณทางออนไลน์ ดังนั้นคุณต้องแน่ใจว่ามีคนเห็นคุณ ลอง Google ใส่คีย์เวิร์ด “โฮสเทล [ตำแหน่งที่ตั้งที่พักของคุณ]” และตรวจสอบว่าชื่อของคุณปรากฎขึ้นมาหรือไม่ หากไม่มีชื่อที่พักของคุณ ให้พิจารณาลงทุนในการปรับแต่งเว็บไซต์ให้ติดอันดับบนเครื่องมือการค้นหา (SEO) และทำเช่นเดียวกันบนเว็บไซต์การจองโรงแรมออนไลน์ และหากคุณไม่ได้แสดงชื่ออยู่ในอันดับสูง ๆ ให้พิจารณาการจ่ายเงินทำบูสโพสต์เพื่อให้อยู่ในอันดับต้น ๆ
  2. เว็บไซต์: ไม่ว่าพวกเขาจะหาคุณเจอจากที่ใด ลูกค้าที่ให้การสนใจมักจะไปที่เว็บไซต์ของคุณเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโฮสเทลของคุณ และบางที เพื่อดูว่าพวกเขาจะได้รับข้อเสนอที่ดีจากการจองโดยตรงหรือไม่ เว็บไซต์โฮสเทลที่ดีที่สุดนั้นสวยงาม สะอาดตา ใช้งานง่าย เต็มไปด้วยข้อมูลที่มีประโยชน์และมีการจัดระเบียบอย่างดี และช่วยให้แขกทำการจองได้ในทันที ข่าวดีก็คือด้วยความช่วยเหลือจาก Little Hotelier คุณสามารถสร้างเว็บไซต์ของคุณเอง ที่ตรงโจทย์ได้ทุกข้อเลย
  3. ก่อนเดินทางมาถึง: เมื่อทำการจองเสร็จสิ้น ผู้เข้าพักมักจะมีคำถามสองสามข้อที่อยากรู้: ฉันจะไปที่นั่นได้อย่างไร? ฉันสามารถทำกิจกรรมอะไรได้บ้าง? ฉันควรจัดกระเป๋าอย่างไร? ฉันควรรับประทานอาหารที่ไหน นี่เป็นโอกาสที่ดีสำหรับโฮสเทลของคุณในการช่วยผู้เข้าพักสร้างประสบการณ์การเดินทางที่ดี โดยส่งอีเมลข้อมูลทั้งหมดที่จำเป็นสำหรับการเข้าพักที่สะดวกสบาย สนุกสนาน และน่าจดจำให้กับพวกเขา การติดต่อสื่อสารล่วงหน้าในรูปแบบนี้ ทำให้คุณสามารถตอบคำถามเฉพาะที่พวกเขาอาจมีได้อีกด้วย
  4. การเข้าพัก: เมื่อแขกมาถึง ขึ้นอยู่กับคุณว่าคุณอยากจะมอบบริการต้อนรับอันแสนอบอุ่น เป็นมิตรและเป็นส่วนตัวประหนึ่งให้พวกเขารู้สึกเหมือนอยู่บ้านหรือไม่ พยายามทำให้มากกว่านั้นและเท่าที่จะทำได้ และห้ามแสดงออกมาว่าคุณมีวันที่แย่หรือเครียด ติดต่อกับแขกเสมอหลังจากเช็คเอาต์: ขอบคุณพวกเขาสำหรับการเข้าพัก ขอให้พวกเขาเขียนรีวิว และพิจารณาเสนอส่วนลดพิเศษหากพวกเขากลับมาพักอีกครั้ง เนื่องจากลูกค้าที่กลับมาเป็นลูกค้าที่มีค่าที่สุด

10 เคล็ดลับการจัดการโฮสเทล

ทำไมโฮสเทลบางแห่งถึงประสบความสำเร็จมากกว่าที่อื่น? มีปัจจัยมากมายที่อาจทำให้โฮสเทลอยู่ในขาขึ้นและขาลง ซึ่งหลายปัจจัยอยู่นอกเหนือการควบคุมของเจ้าของโฮสเทล แต่ยังมีสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ มากมาย ที่เมื่อนำมารวมกันแล้ว จะสามารถนำไปสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืนได้อย่างแท้จริง

ต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับ 10 ข้อในการจัดการโฮสเทลของคุณให้ประสบความสำเร็จมากที่สุด

  1. โปรโมตจุดหมายปลายทางและที่พักของคุณ: หากมีกิจกรรมดี ๆ ในพื้นที่ของคุณ ต้องบอกให้โลกรู้นะ! หากคุณสามารถดึงดูดผู้คนให้เข้ามาในพื้นที่ได้มากขึ้น อุตสาหกรรมในท้องที่ทั้งหมดก็จะชนะไปด้วยกัน
  2. เรียนรู้เทคโนโลยีการจัดการโฮสเทล: จากรายงานข้อมูลเชิงลึกของโรงแรมที่ช่วยให้การตัดสินใจทางธุรกิจดีขึ้น ไปจนถึงการใช้ระบบอัตโนมัติเพื่อจัดการช่องทางการขายของคุณ เทคโนโลยีช่วยให้งานของคุณง่ายขึ้นและช่วยให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จได้มากขึ้น ผู้นำเทคโนโลยีมาปรับใช้รายแรก ๆ มักจะได้รับผลประโยชน์สูงสุด เนื่องจากเทคโนโลยีดังกล่าวมอบความได้เปรียบในการแข่งขันในระดับที่สูงกว่าที่ด้านล่างสุดของเส้นกราฟ adoption curve
  3. เรียนรู้เทคโนโลยีที่ช่วยเสริมประสบการณ์ให้กับแขก: อย่าใช้เทคโนโลยีเพื่อแทนที่บริการส่วนบุคคล แต่เพื่อปรับปรุงบริการให้ดีขึ้น ลองนึกถึงระบบการจองห้องพักโดยตรงที่มอบประสบการณ์จองที่ราบรื่นและนำเสนอราคาที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ หรือแอพมือถือที่ช่วยให้นักท่องเที่ยวแบ็คแพ็คสามารถหาข้อมูลและโต้ตอบกับโฮสเทลของคุณได้ตามสะดวก
  4. สร้างสัมพันธ์กับเจ้าของรายอื่น: แม้จะมีการแข่งขันโดยธรรมชาติ แต่อุตสาหกรรมงานบริการและการท่องเที่ยวก็ยินดีต้อนรับรายใหม่ ๆ เป็นพิเศษ และคุณอาจประหลาดใจที่เจ้าของธุรกิจรายอื่นเปิดกว้างเกี่ยวกับการแบ่งปันเคล็ดลับและเทคนิคให้กับคุณ สร้างเครือข่ายความสัมพันธ์ด้วยการค้นหาบนแพลตฟอร์มโซเชียลเช่น Facebook และ LinkedIn และเข้าร่วมสมาคมธุรกิจในท้องถิ่น
  5. จัดสรรเวลาสำหรับโซเชียลมีเดีย: ความสำเร็จบนโซเชียลมีเดียนั้นสร้างขึ้นจากความสม่ำเสมอในระยะยาว… จะได้ผลิดอกออกผลเป็นรางวัลในอนาคต ความสำคัญของการโพสต์เนื้อหาบนโซเชียลมีเดียจึงเป็นงานที่ต้องทำไปตลอด อย่างไรก็ตาม เจ้าของโฮสเทลที่ประสบความสำเร็จรู้ดีถึงพลังของโซเชียลมีเดีย และจัดสรรเวลาในการโพสต์ตารางประจำสัปดาห์
  6. ยืดหยุ่นเท่าที่คุณจะทำได้: เจ้าของโฮสเทลหลายคนกลัวคำขอเช็คอินก่อนเวลาหรือเช็คเอาต์หลังเวลาที่กำหนด แม้ว่าจะมีความรู้สึกอยากปฏิเสธคำขอเหล่านั้น ให้ลองพิจารณาถึงความพึงพอใจที่แขกจะได้รับเมื่อคุณตอบว่า “ทำได้” คุณอาจจะสามารถเปลี่ยนแขกสองสามคนให้เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ที่บอกต่อเพื่อนของพวกเขาเกี่ยวกับความเมตตาและความเอื้ออาทรของโฮสเทลของคุณก็เป็นได้ 
  7. เตรียมของที่นักเดินทางมักจะลืมเอามาไว้: นักเดินทางส่วนใหญ่อาจทำสิ่งของสำคัญหายระหว่างเดินทางหรือลืมจัดกระเป๋าตั้งแต่แรก คุณสามารถทำให้ชีวิตของทุกคนง่ายขึ้นด้วยเงินเพียงเล็กน้อย ด้วยการเตรียมซื้อของใช้ทั่วไป อาทิ แปรงสีฟัน ยาสีฟัน ระงับกลิ่นกาย ผลิตภัณฑ์สุขอนามัยของผู้หญิง ผ้าเช็ดตัว และที่ชาร์จโทรศัพท์ ไว้ให้แขก
  8. จัดกิจกรรมให้แขกมารวมตัวกัน: แง่มุมทางสังคมของโฮสเทลอาจเป็นจุดดึงดูดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดก็เป็นได้ – การพักอยู่ในห้องรวมทำให้ง่ายต่อการพบปะผู้คนที่มีนิสัยใจคอเหมือน ๆ กัน คุณสามารถช่วยอำนวยความสะดวกในการเสริมปฏิสัมพันธ์เหล่านี้ได้ด้วยการจัดทัวร์กลุ่ม อาหารค่ำ และกิจกรรมยามค่ำคืนสำหรับแขกของคุณ
  9. ยกระดับสิ่งที่รวมอยู่ในแพคเกจ: โฮสเทลมีชื่อเสียงในการเป็นตัวเลือกที่พักราคาถูกและร่าเริงที่สุด ซึ่งเล็งให้เห็นถึงโอกาสสำหรับเจ้าของโฮสเทลในการยกระดับโฮสเทลของคุณด้วยการบริการของฟรีเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น ผ้าเช็ดตัว ชาและกาแฟ ส่วนผสมพื้นฐานในการทำอาหาร แชมพู ครีมนวดผม และครีมอาบน้ำ
  10. สร้างกิจวัตรที่ดีต่อสุขภาพ: คุณสามารถเป็นเจ้าของที่ดีที่สุดได้ก็ต่อเมื่อคุณรู้สึกดีที่สุดเท่านั้น หลีกเลี่ยงการทำงานหนักเกินไปโดยจ้างคนมาช่วย พยายามสร้างกิจวัตรทุกครั้งที่ทำได้ และทำสิ่งที่คุณทำได้เพื่อวางแผนวันพรุ่งนี้ก่อนสิ้นสุดวันนี้

เคล็ดลับในการขายโฮสเทล

หลังจากประสบความสำเร็จในการบริหารโฮสเทลในช่วงหลายปีที่ผ่านมา อาจถึงเวลาที่คุณพร้อมที่จะขายกิจการและไปต่อ กระบวนการนี้ไม่ง่ายเหมือนการติดป้าย ‘FOR SALE’ บนสนามหญ้าหน้าบ้านของคุณ – มีหลายขั้นตอนในกระบวนการขาย ซึ่งเราจะอธิบาย (สั้น ๆ) ด้านล่างนี้:

  1. เตรียมบันทึกทางการเงินของคุณ: ผู้ซื้อที่มีศักยภาพจะต้องการดูบัญชีทางการเงินโดยละเอียดก่อนตัดสินใจซื้อ ดังนั้นควรทำงานร่วมกับนักบัญชีเพื่อให้บัญชีภาษีและบัญชีการเงิน ตลอดจนการบัญชีรายรับรายจ่ายของคุณมีมาตรฐาน
  2. จัดระเบียบการตรวจสอบทรัพย์สิน: เพื่อให้การขายดำเนินไปด้วยความเรียบร้อยและเพื่อให้คุณได้ราคาที่คุณคาดหวัง ทุกอย่างจะต้องเป็นไปตามระเบียบ รับการตรวจสอบทรัพย์สินของคุณ: ให้ครบถ้วนตั้งแต่ฐานรากไปจนถึงระบบสาธารณูปโภค
  3. ตั้งราคาธุรกิจของคุณอย่างยุติธรรม: ไม่สำคัญว่าคุณคิดว่าธุรกิจโฮสเทลของคุณมีมูลค่าเท่าใด แต่สำคัญที่ตลาดคิดว่าธุรกิจโฮสเทลของคุณมีมูลค่าแค่ไหน ก่อนลงจะประกาศขายที่พักของคุณ ให้หาตัวแทนหรือผู้ประเมินราคาเพื่อให้คำแนะนำว่าราคาที่เหมาะสมควรเป็นอย่างไร และให้พวกเขาแสดงให้คุณเห็นว่าใช้วิธีใดในการประเมินราคา เนื่องจากผู้ซื้อที่มีศักยภาพจะขอหลักฐานนี้ด้วย
  4. จบให้สวยงาม: การเตรียมขายอสังหาริมทรัพย์ของคุณอาจเป็นสิ่งที่ทำให้ไขว้เขวอย่างมากจากการทำงานประจำวันของคุณ แต่คุณไม่สามารถปล่อยให้มาตรฐานในการบริหารกิจการลดลงได้ เพราะสิ่งนี้จะส่งผลต่อราคาที่ธุรกิจของคุณสามารถดึงมาได้ คุณจึงควรทำทุกอย่างให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดแทน เมื่อมีการจองจำนวนมาก บทวิจารณ์ที่ยอดเยี่ยม และการเงินที่แข็งแกร่ง ทำให้ผู้ที่สนใจซื้อเล็งเห็นถึงคุณค่าของธุรกิจที่จะอยากมาลงทุน
  5. ขายพร้อมเฟอร์นิเจอร์ครบชุด: ตั้งแต่เตียงสองชั้นไปจนถึงโซฟาขนาดใหญ่พิเศษ เฟอร์นิเจอร์หลายอย่างของคุณน่าจะออกแบบมาเฉพาะสำหรับโฮสเทลนี้แล้ว และมีมูลค่าจำกัดหากคุณจะอยากเอาไปใช้ที่อื่น คุณควรขายโฮสเทลพร้อมเฟอร์นิเจอร์ครบครันเพื่อทำให้ชีวิตของคุณและผู้ซื้อง่ายขึ้นเล็กน้อย
  6. ค้นหามืออาชีพที่เหมาะสม: การขายโฮสเทลเป็นงานที่ไม่เหมือนใคร ดังนั้นควรทำงานร่วมกับตัวแทนหรือนายหน้าธุรกิจที่มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมงานบริการ – และควรเป็นผู้ที่เคยขายโฮสเทลมาก่อน ตรวจสอบรายชื่อปัจจุบันของตัวแทน/นายหน้าเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาเป็นตัวจริงมืออาชีพจริง และจะช่วยโฆษณาธุรกิจของคุณไปในทิศทางที่ถูกต้อง
  7. อดทนอย่างใจเย็น: ตลาดธุรกิจ อาทิ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ มีทั้งช่วงขาขึ้นและขาลง และมักจะถูกกำหนดโดยปัจจัยทางเศรษฐกิจภายนอก การซื้อกิจการธุรกิจก็เป็นเรื่องซับซ้อนที่ต้องใช้เวลา หากธุรกิจของคุณไม่ดึงดูดความสนใจหรือไม่สามารถขายออกได้ในทันที อย่าเพิ่งท้อใจ รู้เพียงว่าหากเป็นธุรกิจที่ดีในราคายุติธรรม คุณจะพบกับผู้ซื้อที่เหมาะสมในที่สุด

ประเด็นสำคัญ

  • โฮสเทลเป็นธุรกิจที่สนุกสนานและน่าตื่นเต้นที่สามารถทำกำไรได้อย่างไม่น่าเชื่อ
  • การเป็นเจ้าของโฮสเทลเป็นวิถีชีวิตพอ ๆ กับเป็นอาชีพ
  • เจ้าของโฮสเทลมักจะเป็นบุคคลที่มีพลังงานสูง มีเสน่ห์ และมีความเป็นผู้ประกอบการ
  • ทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่ก่อนที่จะก้าวกระโดดลงมาทำธุรกิจนี้
  • หากคุณตัดสินใจที่จะก้าวไปข้างหน้า เริ่มต้นด้วยการพัฒนาแผนธุรกิจโฮสเทลก่อน
  • พิจารณาต้นทุนที่ต้องชำระล่วงหน้าและต้นทุนหมุนเวียนเพื่อให้แน่ใจว่าคุณมีเงินทุนเพียงพอ
  • รู้ ว่าควรตั้งคำถามอะไร เมื่อต้องการซื้อต่ออสังหาริมทรัพย์หรือธุรกิจโฮสเทลที่จัดตั้งขึ้นแล้ว
  • เรียนรู้จากความผิดพลาดของผู้อื่น ดีกว่าก่อความผิดพลาดนั้นขึ้นเอง
  • ทำความเข้าใจว่าคุณต้องการดึงดูดใคร และจำลองว่าคนเหล่านั้นจะหาโฮสเทลของคุณเจอได้อย่างไร
  • ลงทุนด้านการตลาดตั้งแต่เนิ่น ๆ และกำหนดเป้าหมายความพยายามของคุณไปที่ลูกค้าในอุดมคติคนนั้น
  • ขอคำแนะนำด้านการจัดการจากผู้ที่เคยทำธุรกิจโฮเทลมาก่อน
  • ใช้ระบบการจัดการเทคโนโลยีที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง เพื่อทำให้การบริหารโฮเทลของคุณง่ายดายและสร้างผลกำไรได้มากขึ้น

By Dean Elphick

Dean is the Senior Content Marketing Specialist of Little Hotelier, the all-in-one software solution purpose-built to make the lives of small accommodation providers easier. Dean has made writing and creating content his passion for the entirety of his professional life, which includes more than six years at Little Hotelier. Through content, Dean aims to provide education, inspiration, assistance, and, ultimately, value for small accommodation businesses looking to improve the way they run their operations (and live their life).