การทำ SEO สำหรับโรงแรม คือการปรับแต่งเว็บไซต์โรงแรมให้ติดอันดับต้นๆ บนเว็บค้นหายอดนิยมอย่าง Google และ Bing โดย SEO หรือ การทำเว็บให้ติดหน้าแรก เป็นเทคนิคที่ช่วยเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าเห็นเว็บไซต์ของคุณแบบออร์แกนิก (ไม่ต้องจ่ายเงินโฆษณา)

หลักการของ SEO คือ คนส่วนใหญ่มักคลิกดูเฉพาะเว็บไซต์ที่อยู่ในหน้าแรกของผลการค้นหา นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมคุณต้องพยายามทำให้เว็บไซต์ติดหน้าแรกของ Google

สร้างเว็บไซต์โรงแรมที่เหมาะกับ SEO ได้อย่างรวดเร็ว

ใช้ตัวสร้างเว็บไซต์ของ Little Hotelier เพื่อสร้างเว็บไซต์โรงแรมที่สวยงาม ครบวงจร และปรับแต่งเพื่อการค้นหาได้ในไม่กี่คลิก

ศึกษาเพิ่มเติม

ทำไม SEO ถึงสำคัญสำหรับโรงแรม?

การทำ SEO ที่มีประสิทธิภาพจะช่วยให้โรงแรมของคุณมีโอกาสปรากฏบนผลการค้นหามากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมขนาดไหน ก็จำเป็นต้องมีกลยุทธ์ SEO ที่ดี

เพราะอะไรกันล่ะ? เพราะนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะค้นหาที่พักผ่าน Google ก่อนจอง และอันดับการค้นหาจะเป็นตัวกำหนดว่านักท่องเที่ยวจะเห็นโรงแรมของคุณหรือไม่

แม้จะยากที่จะแข่งกับเว็บจอง OTA ขนาดใหญ่ แต่ยังมีอีกหลายวิธีที่จะช่วยให้โรงแรมของคุณโดดเด่นและแซงหน้าคู่แข่งได้

วิธีทำ SEO โรงแรมให้ได้ผล 

การจะติดอันดับต้นๆ บน Google คุณต้องเข้าใจพื้นฐาน SEO ก่อน

มาดูปัจจัยสำคัญในการทำเว็บโรงแรมกัน:

1. การใช้คีย์เวิร์ด SEO สำหรับโรงแรม

คีย์เวิร์ดคือคำหรือวลีที่ลูกค้าใช้ค้นหาที่พัก แทนที่จะใช้คำทั่วไปแบบ “โรงแรม” ให้เลือกคีย์เวิร์ดที่อธิบายจุดเด่นและทำเลที่ตั้งของคุณ เช่น “โฮมสเตย์ เชียงใหม่ ธรรมชาติ”

สิ่งสำคัญคือต้องใส่คีย์เวิร์ดให้เป็นธรรมชาติ ไม่ยัดเยียดจนเกินไป เพราะจะทำให้ Google มองว่าเป็นการพยายามบังคับติดอันดับ และส่งผลเสียต่อการจัดอันดับของเว็บไซต์

อย่าลืมใส่คีย์เวิร์ดในข้อมูล meta ของเว็บด้วย:

  • Meta title: ชื่อหน้าเว็บที่จะแสดงเป็นลิงก์บน Google ความยาวไม่เกิน 60 ตัวอักษร
  • Meta description: คำอธิบายหน้าเว็บที่จะแสดงใต้ลิงก์ ไม่มีผลต่ออันดับโดยตรง แต่มีผลต่อการตัดสินใจคลิกเข้าเว็บ ควรเขียนให้น่าสนใจและไม่ควรยาวเกิน 155 ตัวอักษรรวมเว้นวรรค
Hotel SEO example

2. วิธีสร้างลิงก์ (Link Building) เพื่อให้ติดอันดับ Google 

ลิงก์ที่จะช่วยให้เว็บโรงแรมติดอันดับดีมี 2 แบบ:

ลิงก์ภายใน (Internal links) : การเชื่อมโยงระหว่างหน้าเว็บของคุณเอง เช่น ลิงก์จากบทความหนึ่งไปอีกบทความหนึ่ง

ลิงก์ภายนอก (External links): ลิงก์จากเว็บอื่นที่ลิงก์มาที่เว็บคุณ ยิ่งมีเว็บอื่นลิงก์มาหาเว็บคุณมาก Google ก็จะยิ่งให้ความสำคัญกับเว็บคุณมากขึ้น

เทคนิคการสร้างลิงก์ให้ได้ผล

  • สร้างการเชื่อมโยงระหว่างหน้าต่างๆ ในเว็บ เช่น บล็อก หน้าแลนดิ้ง หน้าติดต่อ หรือหน้าจองห้องพัก
  • ติดต่อเว็บท่องเที่ยวในพื้นที่และบล็อกเกอร์ด้านท่องเที่ยวให้ช่วยแชร์ลิงก์เว็บโรงแรมคุณ เพราะการได้ลิงก์จากเว็บที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวจะช่วยดันอันดับใน Google ได้ดีกว่า
  • ลงทะเบียนธุรกิจบน Google, TripAdvisor Agoda และแพลตฟอร์มท่องเที่ยวยอดนิยมในไทย
  • สร้างโซเชียลมีเดียที่นักท่องเที่ยวนิยมใช้ เช่น Facebook, Instagram และ Twitter

3. การสร้างคอนเทนต์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวและติดอันดับ Google

คอนเทนต์ที่สดใหม่ ถูกต้อง และมีประโยชน์เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการทำ SEO ควรอัปเดตเว็บอย่างสม่ำเสมอและสร้างคอนเทนต์ที่น่าสนใจเพื่อดึงดูดผู้เข้าชม และแสดงให้ Google เห็นว่าเว็บคุณมีคุณภาพ

วิธีที่ง่ายที่สุดคือการเขียนบล็อก สัปดาห์ละ 1 โพสต์ ในแต่ละโพสต์ควรใส่คีย์เวิร์ดเป้าหมายอย่างน้อย 1 ครั้ง (เช่น “บูทีค โฮเทล ภูเก็ต”) และอย่าลืมใส่ลิงก์ภายในที่เชื่อมไปยังหน้าอื่นๆ ในเว็บคุณด้วย

การใส่คีย์เวิร์ดในคอนเทนต์ต้องทำอย่างแนบเนียน ต้องวางคีย์เวิร์ดในจุดที่สำคัญ แต่ต้องให้อ่านแล้วเป็นธรรมชาติ

Google ให้ความสำคัญกับคอนเทนต์ที่มีคุณภาพและตรงประเด็น ดังนั้นอย่าพยายามยัดเยียดคีย์เวิร์ดมากเกินไป

โดยทั่วไป ควรใส่คีย์เวิร์ดเป้าหมายอย่างน้อย 2 ครั้งในคอนเทนต์ โดยครั้งแรกควรอยู่ในย่อหน้าแรกๆ และควรใช้คีย์เวิร์ดในรูปแบบที่หลากหลายกระจายในเนื้อหา

4. การทำเว็บโรงแรมให้ใช้งานง่ายและน่าใช้

เว็บที่ใช้งานง่ายและแสดงผลได้ดีในทุกอุปกรณ์มีความสำคัญมากในการติดอันดับ Google ลองตรวจสอบเว็บคุณว่าไม่มีลิงก์เสีย หรือหน้าที่เข้าไม่ได้ ใช้ Google Search Central (ใช้ฟรี) วิเคราะห์เว็บและรับคำแนะนำในการปรับปรุง

ลองประเมินประสบการณ์การจองห้องพักออนไลน์ของลูกค้าดูว่าเป็นอย่างไร ข้อแรกที่สำคัญคือ ลูกค้าสามารถจองห้องพักผ่านเว็บคุณได้หรือไม่? การมีระบบจองที่ให้ลูกค้าจองห้องพักได้ทันทีจะช่วยให้นักท่องเที่ยวอยู่ในเว็บคุณ ไม่ต้องไปจองผ่านเว็บอื่น หากต้องการดูตัวอย่างระบบจองที่ว่า ลองดูวิดีโอสาธิตของเราได้

5. รีวิวออนไลน์กับการทำ SEO สำหรับโรงแรม

สำหรับโรงแรมขนาดเล็ก การสะสมรีวิวเชิงบวกมีความสำคัญมากข้อมูลน่าสนใจ:

  • 49% ของนักท่องเที่ยวจะไม่จองโรงแรมที่ไม่มีรีวิว
  • 81% ของนักท่องเที่ยวให้ความสำคัญกับรีวิวจากผู้ใช้จริง
  • 70% ของผู้บริโภคทั่วโลกบอกว่ารีวิวออนไลน์เป็นสิ่งที่น่าเชื่อถือเป็นอันดับ 2 ในด้านการโฆษณา

ที่สำคัญ รีวิวออนไลน์เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ Google ใช้จัดอันดับ ดังนั้นการมีรีวิวที่ดีจึงเป็นส่วนสำคัญของการทำ SEO เชิญชวนให้แขกรีวิวหลังเข้าพัก และอย่าลืมลงทะเบียนธุรกิจบนแพลตฟอร์มสำคัญอย่าง TripAdvisor, Google Business Profile และ Facebook

6. การทำ SEO ให้โรงแรมติดอันดับการค้นหาในพื้นที่ (Local SEO)

เมื่อคนหาที่พักมักจะค้นหาโดยระบุสถานที่ เช่น ค้นหาโรงแรมใน Google Maps หรือพิมพ์ “โรงแรม [ชื่อเมือง]” ใน Google การทำให้เว็บโรงแรมติดอันดับการค้นหาในพื้นที่จึงสำคัญมาก

ปกติแล้วคนมักจะหาโรงแรมโดยใส่ชื่อสถานที่ที่ต้องการไป ดังนั้นมาดูวิธีทำให้เว็บโรงแรมคุณติดอันดับต้นๆ เวลาคนค้นหาในพื้นที่กัน:

  • โปรไฟล์ธุรกิจบน Google: สิ่งสำคัญที่สุดคือการลงทะเบียนและตั้งค่าข้อมูลธุรกิจบน Google ให้ครบถ้วน เพราะจะทำให้โรงแรมคุณแสดงบน Google Maps และผลการค้นหาแบบพิเศษ ควรอัปเดตข้อมูล รูปภาพ และตอบรีวิวอย่างสม่ำเสมอ
  • ใช้คีย์เวิร์ดที่มีชื่อสถานที่: ส่ชื่อสถานที่หรือย่านที่ตั้งในทุกคอนเทนต์ ทั้งเนื้อหาเว็บ บล็อก และโซเชียลมีเดีย เช่น “โรงแรม นิมมาน ราคาถูก” “ที่พักใกล้สวนสัตว์เปิดเขาเขียว” เพื่อให้ติดอันดับเมื่อคนค้นหาที่พักในละแวกนั้น

นอกจากนี้ การรู้จักและเข้าใจคู่แข่งในพื้นที่เดียวกันก็สำคัญ คุณสามารถใช้เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูล Little Hotelier’s Insights เพื่อดูราคาและกลยุทธ์ของคู่แข่ง ช่วยให้ปรับกลยุทธ์การแข่งขันได้ดีขึ้น

7. การตั้งชื่อและใส่ข้อมูลหลังบ้านของเว็บโรงแรม

Google จะอ่านข้อมูลจากชื่อเพจและหัวข้อต่างๆ เพื่อจัดอันดับเว็บคุณ ดังนั้นควรใส่คีย์เวิร์ดเป้าหมายในชื่อเพจ และใช้คีย์เวิร์ดในรูปแบบที่หลากหลายในหัวข้อต่างๆ

ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณมีโรงแรมบูทีคในเชียงใหม่ ควรตั้งชื่อแบบนี้:

  • ชื่อเพจ: โรงแรมบูทีคในเชียงใหม่ ใกล้นิมมานเหมินทร์
  • หัวข้อ H1: เที่ยวเชียงใหม่พักที่ไหนดี? พบกับโรงแรมบูทีคสไตล์ล้านนาย่านนิมมาน

อย่าลืมใส่ข้อมูล meta ด้วย! แม้ลูกค้าจะไม่เห็นข้อมูลส่วนนี้บ่อยนัก แต่ Google ให้ความสำคัญมากในการจัดอันดับต้นๆ

  • คำแนะนำในการใส่ข้อมูล Meta Description: ความยาวไม่เกิน 156 ตัวอักษร ใส่คีย์เวิร์ดในประโยคแรก มีการเชิญชวนให้คลิก (Call-to-action)
  • สำหรับ Meta Keywords: รวมทุกคำไม่เกิน 25 คำ ใช้คีย์เวิร์ดที่หลากหลายแต่เกี่ยวข้องกัน รวมคำที่คนอาจพิมพ์ผิดหรือสะกดต่างกันด้วย

ควรเช็ค Google Analytics บ่อยๆ เพื่อดูว่าคีย์เวิร์ดไหนกำลังมาแรง และเลือกใช้คีย์เวิร์ดที่เหมาะกับโรงแรมคุณ

8. ใช้โปรแกรมสร้างเว็บที่เน้นเรื่อง SEO

สำหรับเจ้าของโรงแรมขนาดเล็ก การทำ SEO อาจดูเป็นเรื่องยาก แต่ถ้าใช้เครื่องมือที่เหมาะสม ก็ทำได้ง่ายกว่าที่คิด: ถ้าคุณกำลังมองหาวิธีปรับปรุงเว็บไซต์ โปรแกรมสร้างเว็บสำหรับโรงแรมอาจเป็นคำตอบที่ใช่

โปรแกรมสร้างเว็บที่ใช้งานง่ายและเข้าใจได้ทันที ช่วยให้ทุกคนสร้างเว็บโรงแรมที่สวยงามได้ ไม่ว่าจะมีความรู้ด้านเทคนิคมากน้อยแค่ไหน – แค่ลากและวางองค์ประกอบต่างๆ ลงไป และที่สำคัญ ทุกเทมเพลตถูกออกแบบมาให้เหมาะกับ SEO อยู่แล้ว คุณจึงมั่นใจได้ว่าจะติดอันดับ Google ได้ดี

9. การทำ SEO สำหรับผู้ใช้มือถือ

ปัจจุบันคนจองโรงแรมผ่านมือถือเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ถ้าเว็บคุณใช้งานบนมือถือได้ไม่ดี Google อาจลดอันดับเว็บคุณ ทำให้เสียโอกาสในการเข้าถึงลูกค้าจำนวนมาก

ตัวเลขต่อไปนี้แสดงให้เห็นความสำคัญของการทำเว็บให้เหมาะกับมือถือ:

  • จาก 156 ล้านคนในสหรัฐที่ใช้งานคอนเทนต์ท่องเที่ยวดิจิทัล 90% ใช้สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตในการท่องเว็บ
  • สองในสามของผู้เข้าชมเว็บท่องเที่ยวในอังกฤษใช้มือถือ และที่น่าสนใจคือ 25% เลิกใช้คอมพิวเตอร์ไปเลย หันมาดูข้อมูลท่องเที่ยวผ่านมือถือเท่านั้น
  • ครึ่งหนึ่งของนักท่องเที่ยวในสหรัฐวางแผนจะจองผ่านแท็บเล็ต และ 29% จะจองผ่านสมาร์ทโฟน – ตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นทุก 6 เดือน
  • ในอังกฤษ 70% ของคนที่เคยจองผ่านสมาร์ทโฟนจะกลับมาจองผ่านมือถืออีก และในสหรัฐตัวเลขนี้สูงถึง 80%
  • ทั้งในสหรัฐและอังกฤษ 90% ของคนที่จองผ่านแท็บเล็ตบอกว่าจะใช้วิธีเดิมอีก

สิ่งที่ต้องทำให้เว็บโรงแรมเหมาะกับการใช้งานบนมือถือ:

  • เว็บแบบ Responsive: ต้องปรับขนาดให้เข้ากับทุกหน้าจอโดยอัตโนมัติ ทั้งมือถือ แท็บเล็ต และคอมพิวเตอร์
  • โหลดเร็ว: ความเร็วในการโหลดเว็บสำคัญมากต่อการจัดอันดับ คนส่วนใหญ่ไม่ชอบรอ และจะออกจากเว็บทันทีถ้าโหลดช้า ต้องมั่นใจว่าใช้ระบบจัดการเว็บ (CMS) ที่ดี โหลดเร็ว และอัปเดตคอนเทนต์ได้รวดเร็ว
  • ใช้งานง่าย: จัดโครงสร้างและเมนูของเว็บให้เป็นระเบียบ ง่ายต่อการใช้งาน เพราะนอกจากจะช่วยให้ลูกค้าหาข้อมูลได้ง่ายแล้ว ยังช่วยให้ Google เข้าใจและจัดอันดับเว็บคุณได้ดีขึ้นด้วย
  • ให้ข้อมูลครบ: นำเสนอที่พักของคุณผ่านรูปภาพสวยๆ วิดีโอที่น่าสนใจ และคำอธิบายที่ชวนให้อยากเข้าพัก พร้อมทั้งใส่ข้อมูล Meta ที่ตรงใจคนค้นหา เช่น ระบุว่าเป็นที่พักประเภทไหน อยู่ย่านอะไร ใกล้สถานที่สำคัญอะไรบ้าง
  • ระบบจองห้องพัก: ทำให้ลูกค้าสามารถดูห้องว่างและจองห้องพักได้ง่ายๆ เพียงไม่กี่ขั้นตอน ไม่ต้องกดหลายครั้ง

จำไว้ว่า สิ่งสำคัญคือต้องทำให้ลูกค้าเรียนรู้เกี่ยวกับที่พักและจองห้องได้ง่ายที่สุด ไม่ว่าจะใช้อุปกรณ์อะไรเข้าเว็บก็ตาม

เทคนิคการทำ SEO สำหรับโรงแรมที่คุณต้องรู้

  • เน้นการทำ SEO ในพื้นที่: เมื่อลูกค้าหาโรงแรม มักจะพิมพ์คำว่า “โรงแรม [ชื่อสถานที่]” ใน Google ดังนั้นควรใส่ชื่อพื้นที่ เมือง ย่าน หรือละแวกของคุณเป็นคีย์เวิร์ดทั่วทั้งเว็บไซต์ และช่องทางออนไลน์อื่นๆ เพื่อเพิ่มโอกาสให้เว็บคุณปรากฏเมื่อลูกค้าค้นหาด้วยคำเหล่านี้
  • สร้างคอนเทนต์ที่น่าสนใจและไม่ซ้ำใคร: การเขียนบล็อกแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวหรือร้านอาหารเด็ดๆ ในละแวกคุณ จะช่วยดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาที่เว็บอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสดีในการสร้างแบรนด์ด้วยการแชร์ความรู้เกี่ยวกับท้องถิ่น และใช้คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องให้ติดอันดับใน Google ได้ดี
  • มีระบบจองห้องพักโดยตรง: เมื่อดึงดูดผู้เข้าชมมาที่เว็บได้แล้ว ขั้นต่อไปคือทำให้เขากลายเป็นลูกค้า ทุกเว็บโรงแรมควรมีระบบจองที่ลูกค้าสามารถทำการจองได้ทันที เพราะนอกจากจะควบคุมได้ง่ายแล้ว ยังช่วยประหยัดค่าคอมมิชชั่น 15-25% ที่ต้องจ่ายให้ OTA
  • ติดตามการเข้าชมเว็บ: ลูกค้าเจอเว็บคุณได้อย่างไร? กลุ่มลูกค้าเป็นแบบไหน? จำนวนคนเข้าชมเพิ่มขึ้นไหม? การติดตามข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้คุณปรับกลยุทธ์ SEO ได้ดียิ่งขึ้น

การติดตามผลกลยุทธ์ SEO ของโรงแรม

การทำ SEO เป็นศาสตร์ที่วัดผลได้ โดยมีเป้าหมายชัดเจนคือผลักดันให้เว็บคุณติดอันดับต้นๆ ใน Google สำหรับคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะช่วยเพิ่มคนเข้าเว็บ เนื่องจากเป็นกลยุทธ์ระยะยาว คุณต้องแน่ใจว่าการทำ SEO เป็นไปในทิศทางที่ถูกต้อง ไม่เสียทรัพยากรไปกับผลลัพธ์ที่ไม่คุ้มค่า

ควรติดตามตัวชี้วัดต่อไปนี้เพื่อดูว่าการลงทุนทำ SEO คุ้มค่าหรือไม่:

  • อันดับคีย์เวิร์ด: ตรวจสอบว่าคีย์เวิร์ดสำคัญที่เลือกไว้ติดอันดับดีขึ้นหรือไม่ พยายามทำให้ติดหน้าแรก และดีที่สุดคืออันดับ 1
  • การเข้าชมแบบออร์แกนิก (Organic traffic): ดูว่ามีคนเข้าเว็บผ่านการค้นหาเพิ่มขึ้นไหม แต่ต้องระวังว่าอาจมีปัจจัยอื่นช่วยด้วย เช่น โซเชียลมีเดีย ต้องตรวจสอบที่มาของการเข้าชมให้ดี
  • การเปลี่ยนเป็นลูกค้า (conversion): การดึงคนเข้ามาที่เว็บได้นั้นเป็นแค่จุดเริ่มต้น สิ่งสำคัญคือต้องทำให้ผู้เข้าชมเว็บกลายเป็นลูกค้า (conversion) ซึ่งอาจเป็นได้หลายรูปแบบ เช่น การสมัครรับข่าวสาร การกรอกแบบฟอร์มติดต่อผ่านเว็บ หรือการจองห้องพัก คุณควรวัดผลและวิเคราะห์แยกแต่ละประเภท เพื่อดูว่าอะไรได้ผลดีที่สุด
  • รายได้: เป้าหมายสุดท้ายของการทำ SEO คือผลตอบแทนที่คุ้มค่า จากตัวชี้วัดข้างต้น ลองดูว่าการเข้าชมจาก SEO ช่วยเพิ่มรายได้หรือไม่ คุณสามารถใช้ Google Analytics ช่วยตรวจสอบได้

By Robin Sevilla