การตลาดโรงแรม (Hotel Marketing) เป็นเครื่องมือและกลยุทธ์สำหรับการโปรโมตโรงแรม เพื่อดึงดูดแขกใหม่ ๆ และรักษาฐานลูกค้าเก่าเอาไว้

หากพูดถึงความหมายของการตลาดโรงแรมให้เข้าใจง่าย คือ ผู้ที่มีโอกาสมาเป็นลูกค้าต้องการเดินทางและอาจเลือกใช้บริการโรงแรมของคุณ สิ่งที่คุณควรทำคือการพรีเซนต์จุดเด่นของโรงแรมอย่างเต็มความสามารถ!

โรงแรมขนาดเล็กอาจมีทรัพยากรและงบประมาณจำกัดในการสร้างแผนการตลาดโรงแรม แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่สามารถทำการตลาดให้มีประสิทธิภาพเหมือนโรงแรมใหญ่ ๆ หรือโรงแรมเครือข่ายได้

การที่จะประสบความสำเร็จในการตลาดโรงแรม คือ ต้องมีความคิดสร้างสรรค์ ฉลาดทันเกม และนำจุดแข็งมาใช้ประโยชน์ให้เหมาะสม ยิ่งธุรกิจที่พักขนาดเล็กก็จะยิ่งทรงพลัง เพราะคุณสามารถสร้างข้อเสนอที่ช่วยสร้างความทรงจำและประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟให้กับแขกได้ผ่านแผนการตลาดของคุณ

การทำความรู้จักกับกลุ่มเป้าหมายและโรงแรมคู่แข่งให้ดีจะช่วยให้คุณถึงเป้าหมายได้เร็วขึ้น หากคุณทำแผนการตลาดโรงแรมออนไลน์สำเร็จ ยอดจองห้องพักก็จะเพิ่มขึ้นอย่างคาดไม่ถึงเลย

การตลาดในอุตสาหกรรมโรงแรม

การตลาดโรงแรมจะช่วยให้คุณเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายพร้อมโปรโมตธุรกิจได้ในคราวเดียว และหากไม่มีแผนเลยล่ะก็ การทำธุรกิจโรงแรมก็คงไม่ราบรื่นแน่นอน!

การนำกลยุทธ์การตลาดโรงแรมที่ดีมาใช้ คือ ความสำเร็จระยะยาวของธุรกิจโรงแรม เพราะสามารถช่วยพรีเซนต์เอกลักษณ์ของคุณให้โดดเด่นมากกว่าโรงแรมคู่แข่ง.

พิจารณาจากโรงแรมและที่พักกว่า 700,000 แห่งทั่วโลก การลงทุนในเวลา (และเงิน!) สำหรับบริหารจัดการการตลาดโรงแรมให้มีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญมาก ถึงแม้ว่าความต้องการของนักทองเที่ยวจะเปลี่ยนไปตามกาลเวลาและอาจมีเหตุการณ์สำคัญที่ส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมการท่องเที่ยว แต่แพทเทิร์นของแผนการตลาดโรงแรมก็ยังคงเหมือนเดิม

คู่มือแนะนำการตลาดโรงแรมในบล็อกของเราวันนี้ จะตีแผ่ทุกแง่มุมที่คุณควรรู้เกี่ยวกับวิธีทำการตลาดโรงแรมเพื่อให้การโปรโมตที่พักประสบความสำเร็จ

ความสำคัญของแผนการตลาดโรงแรม

การตลาดในภาคอุตสาหกรรมโรงแรมเป็นสิ่งสำคัญ เพราะถ้าหากไม่มีลูกค้า ธุรกิจก็ล่ม การโปรโมตห้องว่างให้แขกทราบและให้เหตุผลที่พวกเขาควรเลือกคุณมากกว่าโรงแรมคู่แข่งเป็นบทบาทของการตลาดโรงแรม

และยังมีโอกาสสร้างความน่าเชื่อถือให้แบรนด์ดูดียิ่งขึ้น หากแขกเชื่อมั่นในโรงแรมของคุณ การบอกต่อสิ่งดี ๆ ไปยังเพื่อน ๆ และครอบครัว ก็ย่อมตามมาและพวกเขาจะกลับมาพักกับคุณอีกครั้งในอนาคต

รู้จักกลุ่มเป้าหมาย

เมื่อเข้าใจสิ่งที่แขกต้องการ ก็จะยิ่งง่ายต่อการยื่นข้อเสนอให้ตรงใจพวกเขา แล้วจะมองหาความต้องการเชิงลึกของแขกได้อย่างไร?  

คุณสามารถหาคำตอบได้จากรีวิวโรงแรมออนไลน์เป็นอันดับแรกเลย! คุณจะได้รับข้อมูลเชิงลึกว่าทำไมพวกเขาถึงเลือกจองห้องพักกับคุณ อีกทั้งยังสามารถรู้ได้อีกว่าบริการแบบไหนที่พวกเขาประทับใจที่สุด จะเป็นมื้อดินเนอร์สุดหรูที่ทานตอนเข้าพักหรือเปล่า? หรือการได้พักผ่อนนวดตัวในปสา? หรืออาจจะชอบที่ความเร็วของ WiFi ก็ได้

ด้วยข้อมูลเหล่านี้ คุณสามารถสร้างข้อเสนอให้บริการตามแขกแต่ละคนต้องการได้อย่างเหมาะสม

พรีเซนต์จุดเด่นของโรงแรม

การโชว์ให้แขกเห็นว่าโรงแรมของคุณมีอะไรดีถือเป็นสิ่งสำคัญ แผนการตลาดโรงแรมอาจรวมถึงการโปรโมตสวนสวย ๆ, วิวริมชายหาดสุดตระการตาหรือจุดเด่นอื่น ๆ ภายในโรงแรม

การเสนอส่วนดีให้ผู้ที่มีโอกาสมาเป็นแขกเห็นภาพชัด ๆ เป็นจุดมัดใจที่พวกเขาดิ้นไม่หลุดเลย หรือวิธีง่าย ๆ อย่างการโปรโมตผ่านอีเมล โซเชียลมีเดีย หรือ คอนเทนต์ที่น่าสนใจ

อีกวิธีที่เวิร์ก คือ สร้างโปรโมชันและข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับการตลาดโรงแรมออนไลน์ เพราะไม่ว่าใครก็ชอบดีลดี ๆ กันทั้งนั้น และเรามั่นใจว่าแขกของคุณก็เป็นอย่างนั้นเช่นกัน! ในช่วงที่นักท่องเที่ยวน้อย การเสนอราคาต่ำหรือดีลอัปเกรดห้องพักฟรี จะช่วยดึงดูดลูกค้าให้สนใจโรงแรมของคุณมากขึ้น

สร้างปฏิสัมพันธ์กับแขก

การบริการระดับสูงคือกุญจสู่ความสำเร็จ ซึ่งการสร้างแรงกระตุ้นให้แขกกลับมาพักกับคุณอีกครั้ง ก็ต้องสร้างปฏิสัมพันธ์กับพวกเขาอยู่เสมอ ว่าแต่จะทำได้อย่างไรบ้าง? ก็ใช้เทคโนโนยีช่วยไงล่ะ! 

การตลาดดิจิทัล (Digital Marketing) ทำหน้าทีสำคัญในแง่ของการมีส่วนร่วมของลูกค้า (Customer Engagement) อย่างช่องทางโซเชียลมีเดีย คุณสามารถอัปเดตสิ่งใหม่ ๆ ให้พวกเขามองเห็นได้อยู่เสมอ และกลยุทธ์ Email Marketing ก็สามารถส่งดีลลับสุดพิเศษเฉพาะลูกค้าคนโปรดได้อย่างง่ายดาย

การตลาดโรงแรมสำหรับธุรกิจที่พักขนาดเล็ก : ควรเริ่มต้นอย่างไร?

สิ่งแรกคือหาจุดขาย/จุดเด่นที่พักของคุณให้เจอ เพื่อนำไปสร้างข้อเสนอให้กับนักท่องเที่ยวโดยที่โรงแรมคู่แข่งหรือที่พักอื่น ๆ ไม่สามารถให้ได้

อาจรวมถึง :

  • ทำเลที่ตั้ง – วิวที่พักของคุณดีที่สุดในระแวกนั้นหรือไม่ หรือ อยู่ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวดัง ๆ หรือเปล่า?
  • สถาปัตยกรรม – ที่พักของคุณเป็นสไตล์วินเทจ เน้นความแปลกใหม่มีเอกลักษณ์ หรือสไตล์โมเดิร์นกันล่ะ?
  • ดีไซน์ – คุณมีงานศิลปะ ของตกแต่ง วอลล์เปเปอร์ หรือฟีเจอร์พิเศษที่จะทำให้แขกร้อง ‘ว้าว’ หรือเปล่า?
  • สิ่งอำนวยความสะดวก – ที่พักของคุณมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่น่าสนใจหรือมีอะไรเด่น ๆ ที่แขกไม่สามารถหาได้จากที่ไหนบ้างหรือเปล่า?
  • แขกของคุณ – โรงแรมขนาดเล็กของคุณมีกลุ่มเป้าหมายเป็นแขกระดับสูงหรือคนดังหรือไม่?

เมื่อคุณหาจุดขายเจอ 2-3 ข้อ คุณก็สามารถเริ่มต้นผลักดันจุดขายนี้ให้อยู่ในแผนการตลาดโรงแรมหลักของคุณ อย่างไรก็ตาม อย่าพยายามอัดแน่นทุกอย่างในคราวเดียว ยกตัวอย่างเช่น หากคุณโพสต์บน Instagram ให้เน้นแค่จุดขายหนึ่งอย่างพร้อมลงข้อมูลโดยละเอียด

ปล. คุณสามารถดูคำแนะนำการตลาดโรงแรม B&B ได้ที่นี่

การตลาดดิจิทัลสำหรับอุตสาหกรรมโรงแรม

การใช้งานอินเทอร์เน็ตที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ เป็นจุดเปลี่ยนของโลกเลยทีเดียว ธุรกิจทุกภาคส่วนทั่วโลกต้องเผชิญกับความท้าทายใหม่: การปรับตัวหรือต้องปิดตัวลง และนี่เองที่ทำให้กลยุทธ์การตลาดเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล ผู้ประกอบธุรกิจให้ความสำคัญกับตัวตนบริษัทบนช่องทางออนไลน์และความตั้งใจซื้อของลูกค้ามากขึ้น

เพราะคนสมัยนี้ใช้เวลาส่วนใหญ่กับการท่องโลกออนไลน์ ทำให้แคมเปญการตลาดโรงแรมส่วนใหญ่ก็ประกาศลงบนอินเทอร์เน็ตด้วย ดังนั้น หากคุณไม่ปรับตัวใช้การตลาดดิจิทัลล่ะก็ คุณพลาดโอกาสทองหลาย ๆ อย่างเลย

ทำไมน่ะหรอ? ก็เพราะการตลาดดิจิทัลมีข้อดีหลายอย่าง เช่น

สามารถวัดผลการทำงานได้

การสร้างการตลาดโรงแรมออนไลน์จะช่วยให้คุณวัดผลประสิทธิภาพแคมเปญของคุณได้ ลองใช้ Google Analytics เพื่อหาข้อมูลว่าผู้เยี่ยมชมค้นพบเว็บไซต์ของคุณได้อย่างไร และยังเป็นเครื่องมือหากลุ่มเป้าหมาย, วิเคราะห์พฤติกรรมผู้ใช้, วิเคราะห์ Conversion Rate, ปรับปรุงแคมเปญโฆษณาและ เนื้อหา SEO ที่ดีมาก ๆ 

ราคาประหยัด คุ้มค่า

สมัยก่อน มีเพียงบริษัทใหญ่ ๆ เท่านั้นที่มางบในการทำการตลาด เพราะการลงโฆษณาต้องแลกกับการลงทุนเงินก้อนใหญ่ ทำให้บริษัทเล็ก ๆ ไม่สามารถสู้ได้ แต่การตลาดดิจิทัลเป็นตัวเลือกที่ราคาถูกกว่าและทุกโรงแรมสามารถเข้าถึงได้ 

ช่วยให้คุณหากลุ่มเป้าหมายเจอ

คุณสามารถหากลุ่มเป้าหมายเชิงลึกได้ผ่านการตลาดออนไลน์ โดยขึ้นอยู่กับข้อมูลประชากร, สถานที่ และความชอบส่วนตัว คุณสามารถนำข้อมูลตรงนี้ไปพัฒนากลยุทธ์และโปรโมตแคมเปญให้ถูกกลุ่มได้ง่ายขึ้น

โลกออนไลน์เป็นที่ที่คนใช้เวลาส่วนใหญ่ในแต่ละวัน

จากรายงานทั่วโลก มีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเฉลี่ยประมาณ 7 ชั่วโมง! ไม่ว่าจะเพื่อการทำงานหรือเล่นอย่างอื่น คนเรามักจะใช้เวลาส่วนใหญ่กับการท่องเว็บหลังตื่นนอน และนี่คือเหตุผลที่ว่า ทำไมอินเทอร์เน็ตจึงเป็นพื้นที่โปรโมตโรงแรมที่ดีที่สุด! เพราะหลายคนใช้อินเทอร์เน็ตเสิร์ชหาโรงแรม เปรียบเทียบราคา หรืออ่านรีวิวก่อนจองห้องพักกันทั้งนั้น

เป็นการโฆษณารายบุคคล

การตลาดออนไลน์สำหรับธุรกิจโรงแรม คุณสามารถส่งข้อความไปยังลูกค้าเฉพาะกลุ่มที่แบ่งตามความชอบและทำให้พวกเขารู้สึกว่าคุณพูดคุยสื่อสารกับเขาโดยตรง อย่าง Email marketing เป็นตัวเลือกที่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่เลือกใช้เมื่อคำนึงถึง ‘ความเป็นส่วนตัว’ เพราะคุณสามารถแบ่งกลุ่มลูกค้าพร้อมเสนอโปรโมชันและบริการแบบรายคน โดยที่สามารถดึงดูดความสนใจของแขกได้ตรงจุดอย่างแท้จริง

Image explaining hotel marketing

วิธีสร้างกลยุทธ์การตลาดโรงแรมที่มีประสิทธิภาพ

การสร้างกลยุทธ์การตลาดเป็นกุญแจที่จะทำให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมขนาดเล็กหรือโรงแรมเครือข่ายสไตล์บูติก ก็สามารถสร้างผลลัพธ์ที่ดีหรือมีแผนที่เหมาะสมได้ มาดูวิธีสร้างกลยุทธ์การตลาดโรงแรมที่มีประสิทธิภาพกันเลย:

1. สรุปรูปแบบของธุรกิจ

แผนการตลาดมีจุดประสงค์เพื่อให้ข้อมูลโรงแรมที่ชัดเจนแก่นักการตลาดและผู้เชี่ยวชาญที่รับผิดชอบกับกลยุทธ์การสื่อสาร ด้วยเหตุนี้เอง การเริ่มต้นจากระบุตัวตนของคุณให้ชัดเจน เช่น ชื่อโรงแรมและที่ตั้ง รวมถึงให้รายละเอียดพันธกิจ วิสัยทัศน์ และค่านิยมของโรงแรมของคุณด้วย

2. ค้นคว้าวิจัยตลาดในวงกว้าง

การวิเคราะห์คู่แข่งและลูกค้าอย่างครอบคลุม จะช่วยให้คุณระบุทรัพยากรที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายของคุณได้

วิเคราะห์ตลาดและโรงแรมคู่แข่ง

เริ่มต้นจากค้นหาสภาวะปัจจุบันของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว จากนั้นตัดสินใจว่าวันไหนสำคัญที่สุด และจะนำข้อมูลเหล่านี้ไปคาดการณ์แนวโน้มเทรนด์ตลาดในอนาคตและคาดการณ์การเติบโตของธุรกิจได้อย่างไร

ขั้นตอนนี้คุณสามารถใช้การวิเคราะห์ SWOT เพื่อระบุคู่แข่งของคุณ เป็นโอกาสรับรู้จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และอุปสรรคของพวกเขา และรับรู้ถึงสิ่งที่พวกเขาขาดอยู่พร้อมหาทางว่าโรงแรมคุณสามารถเติมเต็มช่องว่างตรงนั้นได้อย่างไรบ้าง

ระบุกลุ่มเป้าหมาย

ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายคือคนที่จะซื้อบริการของคุณ จึงจำเป็นต้องรู้ว่าพวกเขาคือใคร! เมื่อค้นคว้าข้อมูลทางการตลาดเรียบร้อยแล้ว จะยิ่งง่ายต่อการระบุว่าคนกลุ่มไหนจะเลือกพักที่โรงแรมของคุณ และนี่แหละคือ กลุ่มเป้าหมาย

จากข้อมูลประชากร เช่น เพศและอายุ จะช่วยให้คุณเข้าใจลูกค้ามากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม สถานที่ อาชีพ ระดับการศึกษา ความชอบและความต้องการก็เป็นสิงสำคัญที่ควรนำมาพิจารณาด้วย 

3. กำหนดเป้าหมายทางการตลาด

คุณควรมีเป้าหมายที่ชัดเจน! เพื่อให้ผู้คนเข้าใจถึงพันธกิจและสิ่งที่คุณคาดหวังจะได้รับ นอกจากนี้ การกำหนดเป้าหมายยังช่วยให้การวิเคราะห์ความสำเร็จของแคมเปญในอนาคตได้ง่ายขึ้นด้วย

วิธีการกำหนดเป้าหมาย คือ หลักการ SMART เป็นวิธีกำหนดเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง (Specific), สามารถวัดผลได้ (Measurable), ทำให้สำเร็จได้จริง (Attainable), มีความสอดคล้อง (Relevant) และมีระยะเวลาที่ชัดเจน (Time-bound)

และจะใช้หลักการ SMART กับธุรกิจโรงแรมของคุณได้อย่างไร?

สมมติว่าเป้าหมายของแคมเปญการตลาดต่อไปของคุณ คือ การเพิ่มยอดจองโรงแรมโดยตรง 15% ภายในสิ้นปี ด้วยกลยุทธ์ SMART คุณสามารถมองเห็นบางจุดได้ ดังนี้:

  • เฉพาะเจาะจง (Specific) – ถามตัวเองดูว่าใครเป็นผู้รับผิดชอบเป้าหมายของแคมเปญนี้และอะไรที่จำเป็นต้องทำให้สำเร็จ พยายามใส่รายละเอียดให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
  • สามารถวัดผลได้ (Measurable) – การกำหนดตัวเลขเป็นวิธีที่สามารถวัดผลความสำเร็จของแคมเปญที่ดีมาก ในตัวอย่างที่กล่าวไป คือ ต้องการยอดจองตรงเพิ่ม 15% ซึ่งมีความชัดเจนดีแล้ว
  • ทำให้สำเร็จได้จริง (Attainable) – กำหนดให้ชัดเจนเลยว่าจะใช้กลยุทธ์ไหนเพือให้เป้าหมายสำเร็จ อาจจะมีข้อเสนอราคาที่ต่ำกว่าสำหรับลูกค้าเก่า, แขก walk-in หรือกลุ่มลูกค้าที่ไม่ได้มาจากเว็บไซต์ OTA
  • มีความสอดคล้อง (Relevant) – เพื่อให้แผนการตลาดสำเร็จ เป้าหมายของคุณควรมีความหมายต่อบริษัท เพื่อให้คุณโฟกัสไปยังสิ่งที่สำคัญที่สุดได้อย่างถูกต้อง
  • มีระยะเวลาที่ชัดเจน (Time-bound) – จากประโยค “ภายในสิ้นปี” นี่แหละคือกรอบเวลาที่จะใช้แคมเปญเพื่อบรรลุเป้าหมาย

4. กำหนดงบประมาณ

การจัดสรรงบประมาณเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยการันตีได้ว่าคุณมีทรัพยากรพอที่จะทำให้เป้าหมายประสบความสำเร็จหรือไม่ หลังจากวิเคราะห์ตลาดและกำหนดกลุ่มเป้าหมายเรียบร้อยแล้ว ถึงเวลากำหนดงบประมาณที่คุณสามารถจ่ายเพื่อลงทุนกับการตลาดได้ ด้วยแผนการเงินที่คิดมาอย่างรอบคอบ จะช่วยให้คุณตัดสินใจเกี่ยวกับช่องทางการตลาดได้

5. ช่องทางการตลาด

ลองคิดดูว่าคุณจะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างไร หากคุณกำลังจะเริ่มต้นลงมือทำและมีงบประมาณมากพอ เราแนะนำให้ทำ Sponsored Content (โรงแรมจ่ายเงินให้ผู้จัดพิมพ์เพื่อสร้างและเผยแพร่เนื้อหา), จ่ายเงินแบบ pay-per-click หรือ Native Advertising (การแทรกโฆษณาลงในเนื้อหาอย่างแนบเนียน) แต่ถ้าคุณบริหารโรงแรมขนาดเล็กและมีงบประมาณจำกัด ให้มุ่งเป้าไปที่โซเชียลมีเดีย การทำ Email Marketing และการโฆษณารายบุคคล

ด้วยเคล็ดลับเหล่านี้ เราเชื่อมั่นว่าคุณจะสร้างแผนการตลาดที่ประสบความสำเร็จได้แน่นอน!

เคล็ดลับการตลาดโรงแรมเพื่อโปรโมตโรงแรมขนาดเล็กให้ประสบความสำเร็จ

เป้าหมายสูงสุดของการทำการตลาด คือ มีนักท่องเที่ยวค้นพบโรงแรมของคุณมากขึ้น ให้ความสนใจข้อเสนอต่าง ๆ และทำรายการจองห้องพักในที่สุด และนี่คือ 4 ขั้นตอนที่จะช่วยให้คุณโปรโมตโรงแรมขนาดเล็กได้อย่างสำเร็จ

1. ค้นหาและเข้าถึงโรงแรมได้ง่ายในช่องทางออนไลน์

มีนักท่องเที่ยวมากกว่า 3 ใน 4 ใช้ Search Engine ในการค้นหาโรงแรม การมีตัวตนบนโลกออนไลน์จึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก การพัฒนาภาพลักษณ์ของโรงแรมทางออนไลน์ จะช่วยให้คุณเข้าถึงผู้คนในวงกว้างพร้อมกับการอัปเดตข้อมูลใหม่ ๆ ให้ลูกค้าประจำของคุณ

และนี่คือสิ่งที่คุณควรมี:

ออกแบบเว็บไซต์

“หน้าแรก” ของเว็บไซต์เป็นที่ที่คุณจะพรีเซนต์โรงแรมให้กับผู้ที่มีโอกาสมาใช้บริการ ดังนั้น รูปแบบที่ใช้งานง่าย ทำให้ผู้เยี่ยมชมพบสิ่งที่กำลังมองหาได้อย่างง่ายดายเป็นสิ่งสำคัญที่สุด หน้าเว็บที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้จะช่วยให้แขกของคุณสำรวจฟีเจอร์ในโรงแรมและทำการจองห้องพักได้อย่างง่ายดาย

ทำ Content Marketing

Content Marketing คือ การทำกลยุทธ์การตลาดผ่านการสร้างเนื้อหา ซึ่งเว็บไซต์ของคุณสามารถทำได้มากกว่าการโชว์รูปภาพสวย ๆ และจองห้องพัก! ด้วยรูปแบบเว็บไซต์ที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้ คุณสามารถสร้างบล็อกและวิดีโอเพื่อพรีเซนต์บริการ สถานที่และอีเวนต์ต่าง ๆ รอบ ๆ โรงแรมได้

เริ่มต้นด้วยระบบการจัดการเนื้อหาของเว็บไซต์ (Content Management System หรือ CMS) จะช่วยจัดระเบียบและกำหนดเวลาโพสต์เนื้อหาและหลีกเลี่ยงเนื้อหาซ้ำซ้อน ข้อดีของระบบนี้คือใช้งานง่ายมาก ไม่จำเป็นต้องมีผู้เชี่ยวชาญ ก็สามารถใช้ประโยชน์ระบบ CMS ได้อย่างเต็มที่

สร้างโปรไฟล์บน Google

Google Business Profile คือกุญแจสำหรับปลดล็อกระบบของ Google หลาย ๆ ด้าน เช่น Google Search, Google Maps, Google Hotels, Display Network, YouTube และอื่น ๆ อีกมากมาย การสร้างโปรไฟล์ของคุณสามารถทำได้ง่าย ๆ และจะช่วยให้ชื่อโรงแรมของคุณแสดงผลบน Google เมื่อมีคนพิมพ์คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับโรงแรมคุณ เช่น “โรงแรมภูเก็ต = โรงแรม [สถานที่ตั้ง]” 

คุณสามารถมอง Google เป็นเหมือนสารบัญธุรกิจ, สมุดปกเหลืองยุคใหม่ และ Google Business Profile ก็คือช่องทางที่จะทำให้ชื่อโรงแรมของคุณเข้าไปอยู่ในนั้นได้และฟรีด้วย!

หลังจากตั้งค่าเรียบร้อยแล้ว สิ่งสำคัญคือการจัดการโปรไฟล์อย่างรอบคอบ โดยเฉพาะฟังก์ชันรีวิว เพราะอาจส่งผลกระทบต่อความสามารถในการดึงดูดแขกอย่างมากเลยทีเดียว

อัปเดตบนโซเชียลมีเดียอยู่ตลอดเวลา

โรงแรมเป็นธุรกิจที่เหมาะกับช่องทางโซเชียลมีเดียมาก ๆ เพราะการที่จะดึงดูดลูกค้าได้จะต้องการแสดงให้เห็นว่าโรงแรมของคุณมีอะไรดี คุ้มค่าแก่การเข้าพัก และโซเชียลมีเดียนี่แหละเป็นช่องทางที่ตอบโจทย์สุดๆ

เริ่มต้นด้วยการทำความเข้าใจว่ากลุ่มเป้าหมายของคุณมีแนวโน้มที่ใช้งานแพลตฟอร์มออนไลน์อะไรบ้าง อย่างผู้สูงอายุใช้ Facebook, วัยรุ่นใช้ TikTok และ Instagram และนักเดินทางเพื่อการทำงานสามารถพบได้บน LinkedIn แนะนำให้เลือกแพลตฟอร์มที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มเป้าหมายของคุณมากที่สุดจำนวนหนึ่งและสร้างโปรไฟล์ในนั้น

จากนั้นควรโพสต์เนื้อหาอย่างต่อเนื่อง เพื่อความต่อเนื่องจะช่วยให้การโปรโมตประสบความสำเร็จบนโลกโซเชียล หากคุณกำลังหาไอเดีย ลองเข้าชมแต่ละแพลตฟอร์มเพื่อหาแรงบันดาลใจในการสร้างเนื้อหาและไม่ต้องอายที่จะอวดจุดเด่นและของดีในพื้นที่ของคุณ โดยเนื้อหาที่นำเสนอควรมีความหลากหลาย เช่น รีวิวและคำชมจากลูกค้า, เคล็ดลับการเดินทาง, คำแนะนำจากคนในพื้นที่, วิดีโอเบื้องหลัง และอื่น ๆ

เมื่อคุณมีสิ่งเหล่านี้ในมือ ผู้คนจะสามารถมองเห็นโรงแรมของคุณบนโลกออนไลน์ได้ดียิ่งขึ้น และนักท่องเที่ยวก็มีแนวโน้มที่จะค้นพบโรงแรมของคุณมากขึ้นเช่นกัน อีกทั้งโปรไฟล์ยังง่ายต่อการดูแลและยังเพิ่มความสนุกในงานบริหารโรงแรมขนาดเล็กของคุณได้มากเลยทีเดียว

2. วางแผนว่าคุณต้องการทำการตลาดธุรกิจอย่างไรและที่ไหน

เมื่อถึงเวลานำแผนการตลาดไปใช้จริง มีอีกหลายสิ่งที่คุณควรทำแม้จะมีงบจำกัด เช่น:

  • การตลาดผ่านอีเมล (Email Marketing) Email Marketing เป็นกลยุทธ์ที่มีการใช้งานอยู่เสมอในทุก ๆ ธุรกิจ ลองแนะนำให้แขกคนล่าสุด, ผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ และผู้ติดตามใน Facebook สมัครรับข้อมูลผ่านทางอีเมลเพื่ออัปเดตข่าวสาร, ข้อเสนอใหม่ ๆ และโปรโมชันพิเศษตลอดทั้งปี
  • การตลาดบน Facebook (Facebook Marketing) Facebook เป็นที่ที่คุณสามารถเปลี่ยน ผู้ติดตามเป็นลูกค้าได้และยังดึงคนกลุ่มใหม่ ๆ ให้เข้าถึงโรงแรมผ่านโพสต์รูปภาพ คอนเทนต์ การแข่งขัน และการแจกของรางวัลจากการแชร์ต่อ ๆ กันได้อีกด้วย
  • การตลาดบน Instagram (Instagram Marketing) Instagram เป็นแพลตฟอร์มยอดนิยม สำหรับนักท่องเที่ยวที่กำลังมองหาแรงบัลดาลใจในการท่องโลก คุณสามารถใช้ประโยชน์จาก IG ได้เหมือนกับ Facebook แต่ควรติดแฮชแท็กยอดฮิตเพื่อดึงดูดสายตาผู้ที่มีโอกาสมาเป็นแขกหรือจ้างอินฟลูเอนเซอร์เพื่อเพิ่มยอดการเข้าถึง

3. รู้จักกลุ่มเป้าหมาย

การวิเคราะห์ลูกค้าปัจจุบันและลูกค้าเก่าเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อทำความเข้าใจว่ากลุ่มลูกค้าที่แท้จริงของคุณคือใคร เพราะแขกทุกคนมีความแตกต่างกัน ทั้งการจองห้องพัก, สไตล์การท่องเที่ยว, งบประมาณ หรือความชอบและแรงจูงใจในการเข้าพัก

คุณต้องทำการตลาดให้ถูกต้องเพื่อดึงดูดผู้ที่มีโอกาสมาเป็นแขกและมีแนวโน้มจองห้องพักกับคุณ และพยายามอย่าสร้างแคมเปญที่ไม่สามารถนำเสนอได้ดี เพราะจะยิ่งทำให้แขกรู้สึกผิดหวังและรีวิวเชิงลบหากสิ่งที่พวกเขาได้รับไม่เป็นไปตามที่คาดหวังไว้

ยกตัวอย่างเช่น หากสังเกตแล้วว่าแขกส่วนใหญ่ของคุณคือคู่รักวัยรุ่นหรือคู่รักทั่วไป คุณอาจเริ่มทำการตลาดโรงแรมด้วยข้อเสนอและโปรโมชัน ดังนี้:

  • แคมเปญสำหรับฮันนีมูน
  • โปรพักผ่อนสุดสัปดาห์
  • โปรวันครบรอบ
  • โปรวันวาเลนไทน์

จำไว้ว่ากลุ่มเป้าหมายของคุณจะต้องเป็นส่วนสำคัญของแผนการตลาดอยู่เสมอ

4. ดึงดูดลูกค้าผ่านเว็บไซต์โรงแรม

เรารู้ว่าเว็บไซต์โรงแรมมีความสำคัญมากขนาดไหน แต่วิธีไหนบ้างที่สามารถดึงดูดแขกมายังเว็บไซต์ของคุณได้? มาดูกัน

การทำ Search Engine Optimisation (SEO)

ครั้งสุดทายที่คุณพิมพ์ URL ฉบับเต็มเพื่อเข้าสู่เว็บไซต์โรงแรมคือเมื่อไหร่กัน? มีแนวโน้มว่าคุณจะพิมพ์ URL ก่อนกด Enter แล้วปล่อยให้เครื่องมือค้นหา (Search Engine) ทำหน้าที่ส่วนที่เหลือ ซึ่งนี่เองที่ทำให้ Google เปรียบเหมือนผู้ควบคุมการค้นหาบนอินเทอร์เน็ต

อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า การตลาดโรงแรมที่ดีคือสามารถค้นหาและเข้าถึงโรงแรมผ่านทางออนไลน์ได้ง่าย หมายความว่า ยิ่งติดอันดับสูงบน Google มากเท่าไหร่ก็ยิ่งดี ซึ่งการทำ Search engine optimisation (SEO) ก็ถูกสร้างมาเพื่อรับมือกับสิ่งนี้ โดยใช้เทคนิคต่าง ๆ มากมาย เช่น การใส่คีย์เวิร์ดไปจนถึงการทำให้เว็บไซต์ดาวน์โหลดได้อย่างรวดเร็ว

นักท่องเที่ยวเข้าใจว่า Google จะจัดอันดับตัวเลือกที่ดีที่สุดและมีความน่าเชื่อถือสำหรับคำค้นหาของพวกเขาเป็นอันดับแรกเสมอ พวกเขาจึงคิดว่า การจองห้องพักที่แสดงผลอันดันแรกน่าจะเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยที่สุดนั่นเอง

SEO คือการเอาใจอัลกอริทึมของ Google ซึ่งจะช่วยให้เว็บไซต์โรงแรมของคุณติดอันดับสูง ๆ บนแพลตฟอร์ม

  • ใช้ SEO บนเว็บไซต์ เพื่อให้ Google มองว่าคุณเป็นแหล่งที่มาข้อมูลที่ไว้ใจได้ โดยกลุยุทธ์แนะนำสำหรับการทำ SEO คือ ทำการวิเคราะห์คีย์เวิร์ด, การปรับคอนเทนต์ให้เหมาะสม และการทำ Backlink 
  • โฆษณาประเภทจ่ายเงินจะช่วยให้คุณเติบโตได้ไกลขึ้น SEO จะดึงจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์เข้ามาผ่าน Search Engine หมายความว่าคุณสามารถดึงดูดผู้เยี่ยมชมได้โดยไม่ต้องเสียเงินสักบาทเดียว แต่ด้วย Google Analytics ที่ให้ข้อมูลชัดเจนเพื่อทำความเข้าใจพฤติกรรมและจุดมุ่งหมายของผู้ใช้ จะช่วยให้คุณปรับแก้ส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ SEO ได้ เช่น คีย์เวิร์ดที่คุณกำลังเลือกอยู่ เป็นต้น

การทำโฆษณาออนไลน์

เมื่อ SEO ดึงดูดยอดผู้เยี่ยมชมแบบ ‘Organic’ (ไม่ต้องเสียเงิน) เพื่อติดอันดับต้น ๆ ของการค้นหาบน Google แต่ต้องใช้เวลาเป็นเดือน ๆ กว่าจะติดหน้าผลการค้นหา ซึ่งอีกหนึ่งทางเลือกอย่าง Google Ads คุณสามารถจ่ายเงินซื้อให้โรงแรมของคุณติดอันดับการค้นหาได้ทันทีเลย

ด้วยการเน้นไปยังคีย์เวิร์ดและข้อเสนอโปรโมชันที่เหมาะสมบนเว็บไซต์โรงแรม Google Ads สามารถดึงดูดกลุ่มเป้าหมายจำนวนมากมายังโรงแรมของคุณได้ ยกตัวอย่างเคสที่มีประสิทธิภาพในการโปรโมตโรงแรมด้วยการซื้อโฆษณาแบบ Pay-Per-Click ด้วยการใช้คีย์เวิร์ดง่ายอย่าง “[ประเภทโรงแรม] [สถานที่]” เช่น “โฮสเทลซิดนีย์”

และยังมีการโฆษณาออนไลน์รูปแบบอื่น ๆ อีกมาก: โฆษณาบนเว็บไซต์ โฆษณาในแอปพลิเคชัน และวิดีโอโฆษณาบน YouTube

โซเชียลมีเดีย

อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเหมือนจะเหมาะกับโซเชียลมีเดียอย่างมาก หากคุณมีเป้าหมายคือการสร้างแรงจูงใจให้ผู้คนเข้าพักโรงแรมของคุณ ภาพถ่ายหรือวิดีโอที่ถ่ายทอดได้อย่างสวยงามถือเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการทำเช่นนั้นได้

บนโลกโซเชียล คุณต้องมั่นใจว่าข้อความโปรโมชันของคุณควรไม่ Hard Sale จนเกินไป เพราะผู้คนใช้งาน Facebook, Instagram และ TikTok เพื่อรับความบันเทิง ไม่ได้ใช้เพื่อการซื้อขายอย่างเดียว ดังนั้นคุณควรโพสต์เนื้อหาที่ทั้งสนุกและได้โปรโมตโรงแรมไปในตัว 

การเพิ่มประสิทธิภาพ Conversion Rate

เมื่อผู้ที่มีโอกาสเป็นแขกเข้าชมเว็บไซต์โรงแรม คุณจะต้องทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้พวกเข้าออกจากหน้าเว็บโดยที่ไม่ได้จองห้องพัก

ปรับเว็บไซต์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย CRO หมายถึงการนำลูกค้าที่เข้าชมมาผ่านทางช่องทางการขายและเปลี่ยนให้พวกเขาให้กลายเป็นลูกค้าที่จ่ายเงินซื้อบริการ คุณสามารถกำหนดแคมเปญ Email Marketing และสร้างข้อเสนอพิเศษใน Landing Page หรือปรับปรุงเว็บไซต์อยู่เสมอและเชิญชวนให้ผู้เยี่ยมชมให้อยากซื้อด้วยกลยุทธ์ Calls To Action

การ Remarketing

Remarketing คือ การส่งโฆษณาซ้ำ ๆ ไปยังคนที่สนใจ ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่สามารถเพิ่ม Conversion Rate ได้

ด้วยการ Remarketing คุณจะสามารถย้ำเตือนความตั้งใจในการซื้อบริการกับผู้เข้าชมเว็บไซต์ เพื่อให้พวกเขากลับมาใช้งานและทำรายการจองให้เสร็จสิ้น ซึ่งกลยุทธ์ที่ดีที่สุด คือ แคมเปญ Email Marketing และโฆษณาบนโซเชียลมีเดีย

5. จัดการความชอบของแขกของคุณ

ธุจกิจที่มีคนเป็นศูนย์กลางอย่างธุรกิจโรงแรม การวิเคราะห์ลูกค้าเชิงลึกจะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จ เมื่อแบรนด์โรงแรมของคุณเติบโตขึ้น ฐานลูกค้าก็เติบโตขึ้นเช่นกัน ด้วยเหตุผลนี้เอง จะเพิ่มระดับความยากในการจดจำชื่อแขกทุกคน

ซอฟต์แวร์บริหารจัดการความสัมพันธ์ลูกค้า (CRM) เป็นเครื่องมือที่ตอบโจทย์ในการยกระดับความประทับใจให้แขกของคุณ นอกจากการบันทึกข้อมูลการติดต่อแล้ว ยังมีโอกาสเก็บข้อมูลจากความชอบและบันทึกประวัติการจองของพวกเขาอีกด้วย

ด้วยแพลตฟอร์ม CRM คุณจะได้รับฐานข้อมูลเพื่อให้ลูกค้าของคุณมีส่วนร่วมกับคุณอยู่เสมอ นอกจากนี้ คุณสามารถนำข้อมูลไปสร้าง Loyalty Program (เป็นโปรแกรมที่จะช่วยรักษาความสัมพันธ์ระหว่างโรงแรมและลูกค้า) และเพิ่มยอดจองจากลูกค้าเก่าได้อีกด้วย

6. ส่งอีเมลถึงแขกเป็นครั้งคราว

แคมเปญ Email Marketing เป็นกลยุทธ์ที่ราคาถูกที่สุดและเหมาะสำหรับการจองโดยตรงและการเพิ่มลูกค้าประจำ

แต่ก่อนจะส่งอีเมลไปหาลูกค้า คุณต้องได้รับความยินยอมในการรับข่าวสารเสียก่อน อย่างในยุโรป สหรัฐอเมริกา และแคนาดา มีกฎที่เข้มงวดมากในการป้องกันข้อมูลส่วนบุคคล

ระบบ CRM เป็นเครื่องมือในการสร้างแคมเปญ Email Marketing ที่สำคัญ คุณสามารถแบ่งกลุ่มลูกค้าพร้อมยื่นข้อเสนอสุดพิเศษและคุ้มค่าแบบเฉพาะเจาะจงในสิ่งที่พวกเขาชื่นชอบได้

7. ดึงดูดลูกค้าผ่านโซเชียลมีเดีย

การไถโซเชียลมีเดียกลายเป็นกิจวัตรประจำวันของคนเราไปเสียแล้ว บางครั้งเราก็อ่านข่าว เช็กโซเชียลของเพื่อน ๆ และกดติดตามดาราและไอดอลที่เราชื่นชอบไปโดยไม่รู้ตัว

มีผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียระบุว่าพวกเขารู้สึกอยากไปเที่ยวหลังจากเห็นโพสต์จองเพื่อน ๆ ผ่านโซเชียลมีเดีย และกว่า 70% กล่าวว่าพวกเขาเองก็โพสต์รูปภาพในหยุดพักผ่อนของพวกเขาบนโซเชียลมีเดียด้วย

ในแง่มุมของธุรกิจโรงแรม นี่คือโอกาสทองในการโปรโมตธุรกิจของคุณ! นอกจากการโพสต์คอนเทนต์เกี่ยวกับสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการของโรงแรมเฉย ๆ คุณสามารถสร้างข้อเสนอโปรนาทีสุดท้ายหรือข้อเสนอพิเศษจำนวนจำกัดเพื่อให้ลูกค้ามีส่วนร่วมกับแคมเปญได้ ลูกค้าจะเกิดความกลัวที่จะพลาดดีลดี ๆ และนี่แหละจะทำให้พวกเขาทำรายการจองห้องพักกับคุณ!

8. ทำงานร่วมกับแพลตฟอร์มตัวกลาง

ในฐานะเจ้าของโรงแรม แน่นอนว่าค่าคอมมิชชันเป็นสิ่งแรกที่เข้ามาเมื่อนึกถึงการพึ่งพาแพลตฟอร์มตัวกลาง แม้ว่าคุณอาจจะอยากเลี่ยงค่าคอมมิชชันและรับรายได้โดยแทนก็ตาม แต่แพลตฟอร์มเหล่านี้ก็มีข้อดีอยู่ เช่น: แพลตฟอร์มตัวกลางสามารถช่วยให้โรงแรมเป็นที่รู้จักในวงกว้างโดยที่คุณไม่ต้องดิ้นรนหาทางโปรโมตด้วยตัวเอง!

ระบบจำหน่ายห้องพักทั่วโลก (Global Distribution System หรือ GDS)

บริษัทท่องเที่ยวและผู้ประกอบการท่องเที่ยวใช้ระบบ GDS เพื่อรับข้อเสนอโรงแรมที่ดีกว่าเมื่อทำการจองโรงแรมให้กับลูกค้า สำหรับโรงแรม หมายถึงมีการกำหนดเรทสำหรับเอเจนท์, การจัดสรรห้องพัก, ช่วงเวลาการจอง และวันที่ไม่มีราคาโปรโมชันสำหรับทุกพาร์ทเนอร์ 

หากคุณเป็นมือใหม่ในอุตสาหกรรมโรงแรม ระบบ GDS อาจดูยุ่งยาก แต่ด้วยระบบจัดการโรงแรม (Channel Manager) คุณจะสามารถอัปโหลดข้อมูลสัญญาไปยังระบบได้ ทำให้ห้องว่างของคุณมีการอัปเดตอยู่เสมอ

เว็บไซต์ OTAs

ในฐานะนักท่องเที่ยว หากพวกเขาไม่ได้จองห้องพักกับบริษัททัวร์หรือโรงแรมโดยตรง ก็มีโอกาสที่พวกเขาจะใช้บริการเว็บไซต์ OTAs เช่นเดียวกับลูกค้าของคุณ!

แพลตฟอร์มยอดนิยมอย่าง Booking.com หรือ Expedia สามารถพรีเซนต์โรงแรมของคุณไปยังแขกกว่าล้านคนทั่วโลก ด้วยฟีเจอร์ตัวกรองของแพลตฟอร์ม นักท่องเที่ยวจะค้นพบโรงแรมของคุณจากการจัดอันดับตามราคา บริการ และสถานที่ตั้ง

ด้วยเหตุนี้เอง คุณควรเลือกใช้รูปภาพสวย ๆ มีความละเอียดสูง และสนับสนุนให้แขกเขียนรีวิวเชิงบวกเกี่ยวกับประสบการณ์การเข้าพักของพวกเขา เราหวังว่าคุณจะถูกจัดอันดับเหนือกว่าโรงแรมคู่แข่ง และดึงดูดผู้มีโอกาสมาเป็นแขกให้มีแนวโน้มที่จะจองห้องพักกับคุณมากขึ้น!

Metasearch

อีกหนึ่งแพลตฟอร์มตัวกลางที่ที่มีประโยชน์คือ Metasearch ว่าแต่คุณรู้จัก Metasearch หรือเปล่า? สรุปสั้น ๆ Metasearch Engine คือแพลตฟอร์มรวลรวมรายชื่อโรงแรมตามเงื่อนไข (เช่น วันที่, สถานที่) และแสดงผลการค้นหาสู่ผู้ที่มีโอกาสมาเป็นแขกของคุณ Metasearch Engine ยอดนิยม เช่น Trivago หรือ TripAdvisor เป็นต้น

สำหรับแขก Metasearch Engine เป็นแพลตฟอร์มที่ให้ข้อมูลเปรียบเทียบราคาและบริการที่ง่ายต่อการหาข้อเสนอที่ดีที่สุด แต่ข้อเสียคือใช้เวลานานเพื่อยืนยันการจองและชำระเงิน เพราะต้องเปลี่ยนเส้นทางไปยังเว็บไซต์อื่นเพื่อทำรายการจองให้เสร็จสมบูรณ์

เพื่อลดปัญหาการละทิ้งการจอง คุณควรรับประกันว่าแขกของคุณจะเห็นราคาเดียวกันสำหรับทุกประเภทห้องพักที่มีให้เลือกในโรงแรม หรือใช้กลยุทธ์ Remarketing เพราะหากกรณีที่แขกเกิดข้อผิดพลาดในการจองกลางคัน พวกเขาก็สามารถกลับมาทำรายการจองให้เสร็จสิ้นได้ง่าย

ไอเดียการตลาดสำหรับโรงแรมและที่พักขนาดเล็ก

เพื่อให้คุณได้รับแรงบันดาลใจและความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ เรามาดูวิธีทำการตลาดสำหรับที่พักขนาดเล็กกันเลย:

1. ให้รางวัลกับแขกที่แนะนำโรงแรมของคุณ

การบอกต่อปากต่อปากเป็นการตลาดที่ไม่ต้องเสียเงินจ้างแถมยังมีประสิทธิภาพสูงอีกด้วย โดยเฉพาะหากคุณสร้างแรงจูงใจด้วยรางวัลให้แขกของคุณพาเพื่อนและครอบครัวมาด้วยก็จะยิ่งดีเข้าไปใหญ่

2. โปรโมตของดีในพื้นที่

เพื่อให้แขกได้รับประสบการณ์เข้าพักที่ดีที่สุด คุณควรให้แน่ใจว่าที่พักของคุณเป็นส่วนหนึ่งของสถานที่ตั้ง อย่างการนำเสนอผลงานศิลปะท้องถิ่น อาหาร สถานที่ท่องเที่ยว และกิจกรรมทั้งในโรงแรมหรือรวมอยู่ในแพ็กเกจจองห้องพัก

3. เป็นพาร์ทเนอร์กับธุรกิจอื่นในพื้นที่

การลงมือทำเพื่อขยายการเข้าถึงโรงแรมให้กว้างขึ้นและกระตุ้นแขกในเวลาเดียวกันเป็นไอเดียที่ดีมาก ๆ คุณอาจร่วมมือกับร้านอาหาร โรงหนัง พิพิธภัณฑ์ สวนสัตว์ หรือสวนสนุก เพื่อสร้างบัตรหรือคูปองควบคู่กับแพ็กเกจของคุณ

4. ถ่ายทอดความรู้สึกให้แขกเหมือนอยู่บ้าน ไม่ใช่โรงแรม

มีแขกจำนวนมากชอบ Airbnb มากกว่าโรงแรม เพราะโรงแรมอาจรู้สึกไม่มีความอบอุ่นและไม่มีความสนใจต่อบุคคลโดยเฉพาะ คุณต้องมั่นใจว่าการตลาดของคุณจะทำให้แขกได้รับประสบการณ์ที่จริงใจ เชื่อมต่อกับวัฒนธรรมท้องถิ่นและสิ่งแวดล้อมเมื่อเข้าพักกับคุณ

5. อัปเดตบนโซเชียลมีเดียอย่างสม่ำเสมอ

ช่องทางโซเชียลมีเดียวเป็นได้มากกว่าการอัปรูปหรืออัปเดตข้อมูล ใช้โปรไฟล์ของคุณถามคำถามผู้ติดตามผ่านโพลสำรวจ ให้พวกเขามีส่วนร่วมในการเลือกเมนูค็อกเทล, จัดการแข่งขัน, และโปรโมตทั้งเนื้อหาของคุณเองและเนื้อหาที่แขกรีวิวให้คุณ

อีกทั้งยังสามารถประสานงานไปยังบล็อกเกอร์หรืออินฟลูเอนเซอร์ให้แชร์เรื่องราวเบื้องหลังการทำงาน, พาชมสถานที่ต่าง ๆ หรืออธิบายความพิเศษของโรงแรมคุณ

6. เปิดพื้นที่สำหรับทุกคน

หากคุณสามารถจัดกิจกรรมเล็ก ๆ ก็เปิดพื้นที่โรงแรมของคุณดูสิ! เช่น รับจัดวันเกิด งาน Baby Shower งานแต่งงาน งานสังคม Workshop งานศิลปะ หรือคลาสออกกำลังกาย ยิ่งมีคนเข้ามาที่โรงแรมมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีรายได้มากขึ้นเท่านั้น และอย่าลืมขอให้พวกเขาแท็กรูปภาพหรือวิดีโอมายังช่องทางโซเชียลมีเดียของโรงแรมด้วย

ยิ่งคุณโปรโมตโรงแรมผ่านทางออนไลน์และมีผู้คนเข้ามามีส่วนร่วมมากเท่าไหร่ แบรนด์ก็ยิ่งเติบโตขึ้นเท่านั้น เมื่อคุณมีตัวตนและชื่อเสียงที่น่าเชื่อถือเพียงพอ จำนวนการเข้าพักและรายได้ก็จะเพิ่มมากขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ

แนวทางวิธีใช้การตลาดโรงแรมที่ดีที่สุดสำหรับที่พักขนาดเล็ก

ไม่มีประโยชน์หากคุณมีแผนการตลาดโรงแรมดี ๆ หรือไอเดียเจ๋ง ๆ แต่ไม่ได้รับความช่วยเหลือจากระบบต่าง ๆ ดังนั้น คุณต้องให้แน่ใจว่าลิสต์แผนการตลาดของคุณผ่านหมดทุกข้อ และนี่คือแนวทางการใช้แผนการตลาดโรงแรมที่จะช่วยให้ Conversion Rate และอัตราการเข้าพักอยู่ระดับสูง:

  • ใช้งบการตลาดก่อนและระหว่างช่วงไฮท์ซีซัน – หากคุณมีงบจำกัดก็ควรใช้มันอย่างคุ้มค่า ตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการใช้ซื้อโฆษณาบน Google หรือโซเชียลมีเดียอื่น ๆ ให้เริ่มก่อนและระหว่างช่วงไฮท์ซีซันเพิ่มเพิ่มอัตราการเข้าพักเมื่อราคาห้องพักสูงขึ้นตามความต้องการของตลาด เพราะเป็นเรื่องสำคัญที่จะสร้างความสนใจให้แขกเห็นเมื่อพวกเขาแพลนทริปเที่ยวกัน
  • ใช้โปรโมชันอย่างมีประสิทธิภาพ – เน้นจัดโปรโมชันตามธีม, ฤดูกาล, กิจกรรม หรือพาร์ทเนอร์เพื่อเพิ่มความสนใจและเพิ่มมูลค่า คุณยังสามารถใช้โปรโมชันเพื่อเพิ่มจำนวนผู้เข้าพักได้ในช่วงที่มีแขกน้อยหรือโลว์ซีซัน
  • ทำการตลาดด้วยสถานที่ของคุณ – อย่าทำการตลาดไปที่ตัวโรงแรมและบริการเพียงอย่างเดียว เพราะแขกเองก็รู้สึกตื่นเต้นกับสถานที่รอบ ๆ เช่นกัน ดังนั้นอย่าลืมระบุพื้นที่น่าสนใจของคุณบนแผนที่ด้วยล่ะ
  • เพิ่มประสิทธิภาพโปรไฟล์เว็บไซต์ OTA – เป็นสิ่งสำคัญที่ผู้คนจำนวนมากจะมองเห็นและรู้สึกประทับใจในโปรไฟล์โรงแรมคุณบนเว็บไซต์ OTA บ่อยครั้งถ้าพวกเขาชอบสิ่งที่เห็น พวกเขาจะเข้าไปเยี่ยมชมเว็บไซต์โรงแรมเพื่อทำรายการจองโดยตรง
  • ให้ความสำคัญกับเว็บไซต์โรงแรม – เว็บไซต์โรงแรมควรจะสวยงาม ใช้ง่าย จองง่าย พร้อมถ่ายทอดเรื่องราวของแบรนด์ได้อย่างกลมกลืน
  • ใช้ระบบจองห้องพักออนไลน์ระบบจองห้องพักสำคัญในการรับการจองผ่านช่องทางออนไลน์ ไม่ว่าจะทางเว็บไซต์โรงแรม, Metasearch และเพจบนโซเชียลมีเดีย
  • ไม่ควรใช้รูปภาพคุณภาพต่ำ – เพื่อสร้างความประทับใจต่อลูกค้าตั้งแต่แรกเห็น จำเป็นต้องมีภาพถ่ายโรงแรมแสงสวย ๆ มุมดี ๆ ภาพสมมาตร ดูสะอาด จัดวางองค์ประกอบภาพให้เหมาะสม, และเผยมุมมองภายในห้องได้อย่างชัดเจน
  • ส่งเสริมให้แขกเขียนรีวิวเสมอ – รีวิวเป็นสิ่งที่สามารถส่งผลกระทบต่อความสำเร็จของธุรกิจโรงแรมได้เลย ดังนั้น อย่าลืมขอให้แขกเขียนรีวิวทางออนไลน์ให้คุณอยู่เสมอ ทั้งบนเว็บไซต์ เช่น TripAdvisor และโปรไฟล์โรงแรมของคุณ

สิ่งที่สำคัญที่สุด ขอให้ยึดมั่นและไม่หลุดคอนเซ็ปต์ของแบรนด์เมื่อนำไปสร้างแผนการตลาดใด ๆ ก็ตาม!

By Robin Sevilla