ที่พักแบบ bed and breakfast คืออะไร?

Bed and Breakfast หรือเรียกย่อๆ ว่า B&B คือที่พักขนาดเล็กที่มาพร้อมอาหารเช้าที่มักบริหารโดยทีมในครอบครัวเล็กๆ ที่อาศัยอยู่ในที่พักนั้นด้วย โดยทั่วไปจะมีห้องพักให้บริการไม่เกิน 10 ห้อง

แขกที่มาพัก B&B มักคาดหวังบรรยากาศอบอุ่นเหมือนอยู่บ้าน ความหรูหราแบบเรียบง่าย สัมผัสเรื่องราวและเอกลักษณ์เฉพาะตัว รวมถึงอาหารและเครื่องดื่มที่มีเสน่ห์แบบโฮมเมด B&B เป็นที่นิยมสำหรับทริปพักผ่อนวันหยุดสุดสัปดาห์ ทริปโรแมนติก หรือโอกาสพิเศษ เช่น การเดินทางไปงานแต่งงาน

จากผลวิจัยในอังกฤษพบว่า ที่พักแบบ B&B ได้คะแนนรีวิวสูงกว่าโรงแรมด้วยซ้ำ โดย B&B ได้คะแนนความพึงพอใจจากแขกประมาณ 89.6% ในขณะที่โรงแรมได้ประมาณ 80.8% เหตุผลที่ได้คะแนนสูงนั้นชัดเจน: นักท่องเที่ยวชอบการบริการที่เป็นกันเองแบบส่วนตัวที่พบได้ในที่พักแบบ B&B

อย่างไรก็ตาม การเปิด B&B ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ในชั่วข้ามคืน โดยเฉพาะถ้าคุณเพิ่งเริ่มต้นในวงการธุรกิจที่พัก มีปัจจัยมากมายที่ต้องพิจารณาก่อนเปิดให้บริการ และยังมีเรื่องต้องจัดการอีกมากในการบริหารธุรกิจแต่ละวัน ซึ่งอาจทำให้รู้สึกท้อได้ง่ายๆแต่คุณไม่จำเป็นต้องล้มเลิกความฝันนั้นไป บทความนี้จะแนะนำขั้นตอนการเปิดและบริหาร B&B อย่างละเอียด เพื่อให้คุณเริ่มต้นได้อย่างมั่นใจและเห็นผลสำเร็จเร็วขึ้น

All-in-one online tool to help you get started

Want to easily run your B&B? Explore how you can stay on top of daily bed and breakfast operations with easy-to-use software for beginners.

Learn more

การเปิดธุรกิจ B&B bed and breakfast เหมาะกับคุณหรือไม่?

ก่อนจะตื่นเต้นไปกับไอเดียนี้ คุณควรเข้าใจก่อนว่าพร้อมสำหรับการลงทุนครั้งใหญ่นี้หรือยัง เพราะการบริหารธุรกิจที่พักขนาดเล็กอย่าง Bed and Breakfast ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

ก่อนจะเริ่มต้น ลองตอบคำถาม 13 ข้อนี้เพื่อดูว่าถึงเวลาเหมาะสมสำหรับคุณแล้วหรือยัง:

  1. ทำไมคุณถึงอยากเปิด B&B?
  2. ความสำเร็จในแบบของคุณคืออะไร?
  3. คุณต้องการหรือคาดหวังรายได้เท่าไหร่?
  4. คุณรับมือกับความกดดันได้ดีแค่ไหน?
  5. คุณชอบเข้าสังคมและพบปะผู้คนทุกวันหรือไม่?
  6. คุณชอบงานประจำวันอย่างการทำอาหารและทำความสะอาดไหม?
  7. คุณรู้จักสถานที่ท่องเที่ยวในพื้นที่ดีแค่ไหน?
  8. คุณชอบการเป็นเจ้าของกิจการไหม?
  9. คุณมีคนที่พร้อมสนับสนุนคุณหรือเปล่า?
  10. คุณพร้อมเรียนรู้จากความผิดพลาดหรือไม่?
  11. คุณทำหลายอย่างพร้อมกันได้ไหม?
  12. คุณชอบการทำงานเป็นกิจวัตรหรือเปล่า?
  13. คุณพร้อมลองใช้กลยุทธ์และเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อความสำเร็จหรือไม่?

โดยทั่วไป การรักในสิ่งที่ทำคือสูตรสำเร็จที่จะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดี ความสำเร็จของแต่ละคนอาจไม่เหมือนกัน บางคนอาจมีความสุขแค่ได้รีวิวดีๆ และพอมีกำไรบ้าง ในขณะที่บางคนอาจตั้งเป้าให้ที่พักของตัวเองได้รับรางวัล

นี่คือ 4 คุณสมบัติสำคัญที่คุณควรมีถ้าต้องการเริ่มต้นธุรกิจ Bed and Breakfast:

1. บุคลิกภาพ

ตามข้อมูลจาก BedandBreakfast.com นี่คือปัจจัยสำคัญที่สุดที่จะกำหนดความสำเร็จของคุณ เพราะแขกที่เลือกพักที่นี่ต้องการประสบการณ์พิเศษที่แตกต่างจากเครือโรงแรมทั่วไป เจ้าของ Bed and Breakfast ควรมีคุณสมบัติดังนี้:

  • เข้าถึงง่าย ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ และพร้อมช่วยเหลือแขก
  • ยืดหยุ่น ปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว
  • เป็นมิตร มีน้ำใจ และเปิดรับไอเดียใหม่ๆ

ทำให้แขกกล้าที่จะแสดงความคิดเห็นกับคุณ ไม่ว่าจะเป็นข้อติชมที่ดีหรือไม่ดี ให้นำทุกความเห็นมาพัฒนาที่พักของคุณ

2. แรงผลักดัน

การบริหาร Bed and Breakfast ต้องใช้ใจอย่างมาก และสิ่งนี้ต้องมาจากภายในตัวคุณเอง

ลองคิดดูว่า:

  • คุณต้องมีความมุ่งมั่นที่จะทำให้ที่พักของคุณโดดเด่นท่ามกลางคู่แข่งที่มีมากขึ้นเรื่อยๆ
  • ต้องศึกษาข้อมูลท้องถิ่นให้ดีว่าพื้นที่นั้นมีความต้องการที่พักแบบ Bed and Breakfast หรือไม่
  • ต้องทุ่มเทเวลา เงิน และทรัพยากรอื่นๆ ในการทำการตลาดเพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์
  • ต้องพร้อมอุทิศทั้งชีวิตส่วนตัวและการทำงานให้กับธุรกิจ ซึ่งมักหมายถึงการสละวันหยุดสุดสัปดาห์และวันหยุดพิเศษ

นอกจากนี้ คุณยังต้องมีพลังงานเหลือพอที่จะบริการแขกและดูแลที่พักให้อยู่ในสภาพดีที่สุด! ซึ่งนำเราไปสู่หัวข้อถัดไป…

3. จิตใจรักงาน

ในฐานะเจ้าของ/ผู้ดูแลที่พักขนาดเล็ก คุณจะต้องรับผิดชอบหลายอย่างและต้องสวมหลายหมวกในแต่ละวัน

ช่วงเช้าคุณต้องเป็นเชฟทำอาหารเช้า นอกจากนั้นยังต้องบริหารธุรกิจ ดูแลการจอง และติดต่อสื่อสารกับแขกทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต คุณยังต้องทำหน้าที่แม่บ้านคอยดูแลความสะอาดห้องพักทุกวัน

มีงานให้ทำตลอดเวลา และคุณต้องทำทุกอย่างด้วยรอยยิ้ม!

4. มีทีมงานที่ไว้ใจได้

สมาชิกในครอบครัวต้องเข้าใจและพร้อมสนับสนุนคุณ โดยเฉพาะในกรณีที่คุณจะปรับเปลี่ยนบ้านที่อยู่ร่วมกันให้เป็น Bed and Breakfast

คุณควรมีทีมที่พร้อมช่วยงานด้านต่างๆ รวมถึงคนที่สามารถทำงานแทนคุณได้เมื่อคุณไม่สะดวก

เมื่อคุณตัดสินใจเปิด Bed and Breakfast แล้ว สิ่งสำคัญคือต้องทำให้งานต่างๆ ง่ายขึ้นและใช้ระบบอัตโนมัติให้มากที่สุด เพื่อให้คุณมีเวลาและสมาธิสำหรับด้านอื่นๆ ที่สำคัญ เช่น การสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แขก และคำนึงถึงกลยุทธ์การสร้างรายได้

ข้อดีและข้อเสียของการเปิด Bed and Breakfast 

การเป็นเจ้าของ Bed and Breakfast อาจดูเหมือนชีวิตในฝัน แต่ก็ต้องทุ่มเทเวลาดูแลตลอด 24 ชั่วโมง ตลอด 7 วันทั้งสัปดาห์

มาดูข้อดีและข้อเสียกัน:

ข้อดี

  • มีอิสระในการเป็นเจ้าของกิจการ
  • งานแต่ละวันมีความหลากหลาย
  • ได้พบปะผู้คนที่น่าสนใจมากมาย
  • ได้เป็นส่วนหนึ่งของชุมชนท้องถิ่น
  • สร้างรายได้ด้วยความสามารถของตัวเอง

ข้อเสีย

  • งานบางอย่าง เช่น ทำความสะอาด อาจน่าเบื่อ
  • อาจมีเวลาส่วนตัวน้อย
  • การดูแลลูกค้าตลอดเวลาอาจทำให้เหนื่อยล้า
  • มีงานเอกสารและงานจัดการมากมาย
  • ธุรกิจอาจไม่แน่นอนและควบคุมได้ยาก

นี่เป็นเพียงตัวอย่างบางส่วนที่จะช่วยให้คุณเห็นภาพว่าต้องเจออะไรบ้าง

Bed and Breakfast ทำกำไรได้จริงหรอ?

ทุกธุรกิจมีโอกาสทำกำไรได้ และนั่นคือเป้าหมายที่ทุกคนคาดหวัง หากสามารถสร้างประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมให้แขกและเป็นที่นิยม ที่พักของคุณก็มีโอกาสทำกำไรได้ด้วยการบริหารและกลยุทธ์ที่เหมาะสม แต่ก่อนจะถึงจุดนั้น คุณต้องสร้างรายได้ที่มั่นคงก่อน นั่นหมายถึงต้องดึงดูดการจองห้องพักอย่างสม่ำเสมอ

กลับมาที่คำถาม: คุณจะมีรายได้จากการทำ Bed and Breakfast หรือไม่?

เมื่อดูตัวเลขจริงๆ แล้ว การหวังว่าจะมีรายได้ทั้งหมดจากที่พัก B&B อย่างเดียวอาจไม่สมเหตุสมผล ลองดูตัวอย่างที่พัก 6 ห้อง ราคาคืนละ 3,000 บาท:

  • ถ้าเต็มทุกห้องจะได้ 18,000 บาทต่อคืน
  • ใน 1 ปีมี 365 คืน รวมเป็น 2,190 ห้องต่อคืน
  • ถ้าเต็มทุกห้องทุกคืน รายได้รวมต่อปีจะเท่ากับ 6.57 ล้านบาท
  • แต่โดยทั่วไป B&B มีอัตราการเข้าพักประมาณ 50% รายได้จึงลดลงเหลือประมาณ 3.28 ล้านบาท
  • หลังจากนั้นต้องหักค่าใช้จ่ายและภาษีที่อาจสูงมาก ก่อนจะเหลือเป็นรายได้สุทธิ

รายได้ที่คาดหวังได้ขึ้นอยู่กับขนาดที่พัก ทำเลที่ตั้ง และระดับความหรูหรา แต่ท้ายที่สุดแล้ว การทำ Bed and Breakfast ไม่ใช่ธุรกิจที่จะรวยเร็วแน่นอน

ถ้าคุณหวังจะรวยเร็วจากธุรกิจนี้ คุณอาจต้องผิดหวัง เพราะการเปิด B&B เป็นเรื่องของการเลือกวิถีชีวิตมากกว่าการลงทุนทางธุรกิจ

อีกครั้ง มันขึ้นอยู่กับว่าการทำ Bed and Breakfast เหมาะกับคุณหรือไม่ ถ้าคุณประสบความสำเร็จในอาชีพอื่นมาก่อนและต้องการลงทุนทำอะไรสักอย่างเพื่อเป็นรายได้เสริม นี่อาจเป็นสิ่งที่ใช่สำหรับคุณ

ต้องใช้เงินเท่าไหร่ในการเริ่มต้นธุรกิจ Bed and Breakfast?

ต้นทุนในการเปิด Bed and Breakfast แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ขนาดและทำเลที่ตั้ง สิ่งอำนวยความสะดวกที่ต้องการมี และการรีโนเวทตกแต่งใหม่ที่จำเป็น

อย่างไรก็ตาม โดยทั่วไปคุณอาจต้องใช้เงินตั้งแต่ 5 แสนถึง 5 ล้านบาทหรือมากกว่านั้นเพื่อเริ่มต้นธุรกิจ

ถ้าไม่มีเงินทุนตั้งต้น การเริ่มธุรกิจอาจเป็นเรื่องยาก แม้ว่าคุณจะได้รับมรดกเป็นสถานที่ที่เหมาะสมก็ตาม

การเริ่มต้นธุรกิจ Bed and Breakfast: สิ่งที่ต้องพิจารณาและขั้นตอนสำคัญ

คุณอาจเริ่มต้นธุรกิจ Bed and Breakfast ได้หลายรูปแบบ เช่น ซื้อที่ดินเพื่อสร้างใหม่ ดัดแปลงบ้านของคุณเอง หรือซื้อกิจการที่มีอยู่แล้ว

เมื่อเริ่มต้นจากศูนย์และเปิดธุรกิจใหม่ คุณต้องพิจารณาค่าใช้จ่ายหลายอย่างที่อาจเกิดขึ้น ค่าใช้จ่ายจะแตกต่างกันไปตามแต่ละที่ นี่คือ 10 ลิสที่สำคัญ:

1. ค่าใช้จ่ายส่วนตัว

เมื่อเป็นเจ้าของกิจการ ค่าใช้จ่ายที่สำคัญที่สุดคือประกัน ไม่ว่าจะเป็นประกันสุขภาพ ประกันทุพพลภาพ ประกันชีวิต หรือประกันธุรกิจและเงินกู้ การปกป้องคุณและครอบครัวในกรณีที่คุณไม่สามารถทำงานได้เป็นเรื่องสำคัญ

ควรปรึกษาเจ้าของกิจการคนอื่นๆ ที่ปรึกษาการเงิน และตัวแทนประกันเพื่อขอคำแนะนำ อีกด้านหนึ่งคือค่าใช้จ่ายเล็กๆ น้อยๆ เช่น ของขวัญ การดูแลตัวเอง เสื้อผ้า งานอดิเรก และความบันเทิง ที่มักถูกมองข้าม ควรรวมค่าใช้จ่ายเหล่านี้ไว้ในงบประมาณตั้งแต่แรก

2. บริการรับชำระเงิน

ถ้าจะทำธุรกิจ Bed and Breakfast อย่างจริงจัง คุณต้องมีระบบรับชำระเงินผ่านบัตรเครดิต การคำนวณอัตราค่าธรรมเนียมที่แท้จริงอาจยาก เพราะมีบัตรหลายประเภท ทั้งบัตรธุรกิจ บัตรสะสมคะแนน บัตรต่างประเทศ ซึ่งแต่ละประเภทมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม

วิธีง่ายๆ คือใช้ระบบชำระเงินแบบครบวงจรที่มาพร้อมกับระบบจัดการที่พัก

3. อาหารเหลือทิ้ง

ถึงจะมีวิธีนำอาหารที่ยังไม่ได้เสิร์ฟไปใช้ต่อได้หลายวิธี แต่สิ่งที่ท้าทายคือทำอย่างไรให้แขกทานอาหารหมดจาน

วิธีแก้ปัญหานี้คือ ตอนแขกจองควรสอบถามเรื่องอาหารที่แพ้หรือไม่ชอบ แล้วจดบันทึกไว้สำหรับวางแผนเมนู นอกจากนี้ควรสังเกตว่าอาหารจานไหนที่แขกมักทานไม่หมด อาจเป็นเพราะปริมาณมากเกินไป หรือมีการตกแต่งจานที่ไม่จำเป็น

4. การดูแลผ้าปูที่นอนและผ้าเช็ดตัว

เนื่องจากเป็นที่พักให้บริการ ผ้าปูที่นอนและผ้าเช็ดตัวต้องดูใหม่และสะอาดอยู่เสมอ ไม่เหมือนการใช้งานในบ้านทั่วไป คุณจึงต้องวางแผนงบประมาณสำหรับซื้อผ้าใหม่มาทดแทนอย่างสม่ำเสมอ

เคล็ดลับจากโรงแรมใหญ่ๆ คือการใช้ผ้าสีขาวล้วน เพราะหาซื้อทดแทนได้ง่าย ไม่ต้องกังวลเรื่องการแยกสี และที่สำคัญคือช่วยให้เห็นคราบสกปรกได้ชัดเจน ทำให้จัดการซักได้อย่างมีประสิทธิภาพ

5. เว็บไซต์

เว็บไซต์ต้องการการดูแล อัพเดท และปรับปรุงอยู่เสมอหากต้องการให้มียอดจองเข้ามา คุณต้องมั่นใจด้วยว่าเว็บไซต์มีความปลอดภัย ทั้งหมดนี้มีค่าใช้จ่ายทุกครั้งที่ต้องการเปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตาม การใช้โปรแกรมสร้างเว็บไซต์จากบริษัทเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมโรงแรมจะช่วยประหยัดเวลา ความยุ่งยาก และค่าใช้จ่ายได้มาก

6. เฟอร์นิเจอร์และการตกแต่งห้อง

การเริ่มต้นธุรกิจ Bed and Breakfast ต้องเตรียมพร้อมเรื่องระบบพื้นฐานให้ครบถ้วน ทั้งระบบไฟฟ้า ประปา และการจัดสวน โดยทุกส่วนต้องได้มาตรฐานความปลอดภัยและสร้างความประทับใจให้กับแขกที่มาเข้าพัก

ลำดับถัดมาคือการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ให้ลงตัว พร้อมดูแลงานสีให้เรียบร้อยสวยงาม และไม่ควรลืมติดตั้งป้ายต้อนรับที่ดูดีไว้บริเวณด้านหน้าที่พัก

7. ระบบตรวจจับควันและสัญญาณเตือนไฟไหม้

อุปกรณ์เหล่านี้เป็นสิ่งที่กฎหมายกำหนด และมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความปลอดภัยของผู้ประกอบการและแขกผู้เข้าพัก

8. อุปกรณ์สำหรับบริหารธุรกิจ

ในยุคดิจิทัล การบริหารจัดการต้องพึ่งพาเทคโนโลยี จำเป็นต้องมีคอมพิวเตอร์และเครื่องพิมพ์ รวมถึงอุปกรณ์พกพาอย่างแท็บเล็ต เพื่อความคล่องตัวในการบริหารงานแม้ไม่ได้อยู่ที่พัก

9. อุปกรณ์ครัว

จำเป็นต้องมีช้อนส้อม จาน แก้วน้ำ เพียงพอสำหรับแขกทุกห้อง พร้อมของสำรองสำหรับกรณีชำรุดเสียหาย รวมถึงอุปกรณ์ประกอบอาหารและทำความสะอาดที่จำเป็นทั้งหมด

10. การจัดโซนพื้นที่

การแบ่งโซนบางส่วนของที่พักอาศัยคุณสำหรับทำธุรกิจ Bed and Breakfast ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของหน่วยงานท้องถิ่น ซึ่งแต่ละพื้นที่มีกฎระเบียบที่แตกต่างกัน โดยอาจครอบคลุมประเด็นต่างๆ เช่น จำนวนห้องพักที่สามารถให้บริการได้ ข้อกำหนดเรื่องเจ้าของกิจการต้องพักอาศัยในที่พัก การจัดการพื้นที่จอดรถ การควบคุมการจราจรและเสียงรบกวน เป็นต้น หากละเลยข้อกำหนดเหล่านี้ อาจต้องเสียค่าปรับจำนวนมากจากการดำเนินธุรกิจที่ผิดกฎหมาย

และทั้งหมดนี้ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายด้านการโฆษณาและการตลาด หรือกรณีที่ต้องจ้างพนักงานเพิ่มเติม!

ทำเลไหนเหมาะสำหรับเปิด Bed and Breakfast?

การเลือกทำเลเปิด Bed and Breakfast ขึ้นอยู่กับรูปแบบที่พักที่คุณต้องการและกลุ่มลูกค้าที่คุณตั้งเป้าไว้

ตำแหน่งที่ตั้ง

ทุกประเทศหรือภูมิภาคสามารถเป็นทำเลที่ดีสำหรับธุรกิจ B&B ได้ โดยเฉพาะหากมีปัจจัยเหล่านี้:

  • อยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยว เช่น อุทยานแห่งชาติ สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ย่านท่องเที่ยวยอดนิยม ร้านอาหารดัง หรือไร่องุ่น
  • มีธรรมชาติสวยงามและกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น เส้นทางเดินป่า เส้นทางปั่นจักรยาน กิจกรรมทางน้ำ หรือจุดชมสัตว์
  • มีเสน่ห์ทางวัฒนธรรมที่โดดเด่น เช่น ย่านศิลปะ เทศกาลท้องถิ่น อนุสรณ์สถาน และพิพิธภัณฑ์

นอกจากนี้ ที่พักควรเดินทางสะดวก มีตัวเลือกการเดินทางให้นักท่องเที่ยว

สิ่งสำคัญอีกประการคือการสร้างจุดเด่นที่ชัดเจน เพื่อให้ลูกค้าเห็นความพิเศษของที่พัก และตัดสินใจได้ว่าตรงกับสิ่งที่แขกต้องการหรือไม่ เช่น การมีธีมที่ไม่เหมือนใคร อย่างที่พักรักษ์โลก ที่พักที่เป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยง หรือที่พักสำหรับคู่รัก

ควรศึกษาข้อมูลที่พัก Bed and Breakfast ในละแวกที่คุณเล็งไว้ ดูอัตราความสำเร็จ และโอกาสทางการตลาดที่ยังมีอยู่ เพื่อหาจุดยืนที่เหมาะสม

มีเงินสนับสนุนสำหรับการเปิด Bed and Breakfast หรือไม่?

ในบางประเทศและภูมิภาค มีเงินสนับสนุนสำหรับผู้ที่ต้องการเปิดธุรกิจ B&B

ส่วนในสหรัฐอเมริกา แม้จะไม่มีทุนเฉพาะสำหรับ B&B แต่มีตัวเลือกเช่น:

  • ทุนพัฒนาชนบทจาก USDA สำหรับสนับสนุนธุรกิจและการพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่ชนบท
  • ทุน SBA สำหรับผู้ประกอบการ (มีเงื่อนไขคุณสมบัติเฉพาะและการแข่งขันสูง)
  • ทุนจาก National Endowment for the Arts (NEA) สำหรับ B&B ที่เน้นการอนุรักษ์ประวัติศาสตร์หรือมีองค์ประกอบทางศิลปะ
  • ทุนจากหน่วยงานการท่องเที่ยวและพัฒนาเศรษฐกิจระดับรัฐ
  • ทุนพัฒนาชุมชนสำหรับธุรกิจที่ช่วยฟื้นฟูชุมชนหรือพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น

ข้อผิดพลาดที่ควรหลีกเลี่ยงในการเริ่มทำ Bed and Breakfast

สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นธุรกิจ B&B อาจพบเจอปัญหามากมายหากไม่ระมัดระวัง แม้การเป็นคนรักงานบริการจะสำคัญ แต่นั่นยังไม่เพียงพอ

คุณจำเป็นต้องเรียนรู้วิธีการทำตลาดและขาย รวมถึงค้นหาวิธีที่เหมาะกับธุรกิจของคุณ ไม่เช่นนั้น คุณอาจมีใจรักงานบริการเต็มเปี่ยม แต่กลับไม่มีลูกค้าให้บริการ

นี่คือ 10 ข้อผิดพลาดที่ควรหลีกเลี่ยง:

1. ไม่เข้าใจตลาด

การพิมพ์โบรชัวร์หรือติดป้ายโฆษณาอาจดูเป็นไอเดียที่ดี แต่ถ้ากลุ่มเป้าหมายของคุณเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติล่ะ? นี่คือเหตุผลที่คุณต้องรู้จักกลุ่มลูกค้าในอุดมคติของคุณ ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ต้องการสัมผัสและเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับประเทศที่พวกเขามาเยือน

ลองคิดว่าอะไรจะช่วยดึงดูดลูกค้า โดยทั่วไปการทำการตลาดออนไลน์มักได้ผลดีกว่าวิธีอื่น

2. ให้บริการเกินตัวแต่ตั้งราคาต่ำเกินไป

ความตื่นเต้นในการต้อนรับแขกอาจทำให้คุณให้บริการเกินมาตรฐานทั่วไป แม้จะได้รีวิวดีๆ แต่หากกระทบต่อกำไร ธุรกิจก็ไม่สามารถอยู่รอดได้ในระยะยาว

อย่ากลัวที่จะตั้งราคาให้สมกับคุณภาพบริการ หากคุณให้บริการระดับพรีเมียม ก็ควรได้ค่าตอบแทนที่เหมาะสม

3. พยายามทำทุกอย่างเอง

การดูแล B&B มีงานมากมาย จึงแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะจัดการทุกอย่างคนเดียว แม้จะอยากทำก็ตาม แนะนำให้หาผู้ช่วย ไม่ว่าจะเป็นหุ้นส่วนหรือพนักงาน พร้อมทั้งใช้ระบบจัดการที่พักเพื่อช่วยจัดการงานเอกสารและงานจัดการ

4. ไม่ศึกษาข้อมูลให้เพียงพอ

การเริ่มธุรกิจโดยไม่ศึกษาข้อมูลให้รอบด้าน เท่ากับเสี่ยงกับความล้มเหลวตั้งแต่ก้าวแรก คุณต้องวิเคราะห์อย่างละเอียดเกี่ยวกับทำเลที่จะเปิด คู่แข่งที่มี กลุ่มเป้าหมายที่เป็นไปได้ และสิ่งที่แขกคาดหวังจากที่พักของคุณ ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้คุณวางแผนได้ชัดเจน

5. รีบเปิดให้บริการเร็วเกินไป

ความประทับใจแรกมีผลต่อภาพลักษณ์ระยะยาว และยากที่จะแก้ไขหากพลาดพลั้งไป หากเปิดให้บริการทั้งที่ยังไม่พร้อมจริงๆ แขกอาจพบเจอความไม่เป็นระเบียบหรือการบริการที่ไม่เป็นมืออาชีพ ซึ่งจะสร้างชื่อเสียงในแง่ลบตั้งแต่เริ่มต้น และธุรกิจใหม่ไม่ควรเสี่ยงกับเรื่องนี้

6. ดำเนินงานโดยไม่มีกฎระเบียบที่ชัดเจน

การกำหนดกฎและนโยบายที่ชัดเจนจะช่วยป้องกันการเอาเปรียบและความเข้าใจผิดระหว่างที่พักกับแขก นอกจากการกำหนดกฎที่ชัดเจนแล้ว ยังต้องแจ้งให้แขกทราบทั้งก่อนและระหว่างเข้าพัก

วิธีที่ดีที่สุดคือส่งอีเมลก่อนเช็คอินเพื่อแจ้งนโยบายต่างๆ เช่น เรื่องการคืนเงิน การนำสัตว์เลี้ยงเข้าพัก ความเสียหายต่อทรัพย์สิน การเช็คอินก่อนเวลา และการเช็คเอาท์สาย

7. เริ่มธุรกิจโดยไม่รู้จริง

สำคัญมากที่คุณต้องเข้าใจลักษณะงานและอุตสาหกรรมนี้อย่างถ่องแท้ เพราะหากไม่ใช่งานที่ใช่ คุณอาจหมดไฟได้ในเวลาอันสั้น

8. ไม่สร้างความแตกต่าง

ถ้าที่พักของคุณไม่มีจุดเด่นที่แตกต่าง แขกก็ไม่มีเหตุผลที่จะเลือกพักที่นี่ ลองสำรวจคู่แข่งในตลาด แล้วคิดสร้างสรรค์บริการพิเศษที่จะทำให้ที่พักของคุณโดดเด่นและเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งของย่านนั้น

9. ยึดติดกับการจัดการแบบดั้งเดิม

ปัจจุบันเราอยู่ในยุคเทคโนโลยี ผู้ที่ยังใช้วิธีจดบันทึกด้วยปากกาและกระดาษจะเสียเปรียบ ทั้งยังเสียเวลากับงานเอกสารและเจอปัญหาความผิดพลาดจากการทำงานแบบแมนวล

การลงทุนในเทคโนโลยี เช่น ระบบจัดการที่พัก ระบบจัดการช่องทางขาย และระบบสร้างเว็บไซต์ จะช่วยพัฒนาทั้งการดำเนินธุรกิจและภาพลักษณ์ในสายตาแขก

ระบบเหล่านี้มาพร้อมประโยชน์ของระบบคลาวด์ ทั้งการทำงานอัตโนมัติที่ช่วยลดเวลาทำงานเอกสาร การกระจายห้องพักผ่านช่องทางออนไลน์เพื่อเข้าถึงตลาดที่กว้างขึ้น และการมีเว็บไซต์ที่สวยงามใช้งานง่ายพร้อมรองรับการค้นหาของ Google

10. ไม่ดูแลให้ครบทุกด้าน

ก่อนเปิดให้บริการ คุณต้องมั่นใจว่าธุรกิจถูกกฎหมายและปลอดภัย นั่นหมายถึงการดูแลเรื่องการใช้พื้นที่ตามกฎหมาย การจัดที่จอดรถให้เพียงพอ การขอใบอนุญาตต่างๆ การผ่านการตรวจสอบตามข้อบังคับ การมีใบรับรองและการอบรมที่จำเป็น เช่น การปฐมพยาบาลและสุขอนามัยอาหาร รวมถึงการทำประกันภัยให้ครบถ้วน

สิ่งที่ต้องพิจารณาเมื่อซื้อกิจการ Bed and Breakfast

การซื้อกิจการ B&B ที่ดำเนินการอยู่แล้วมีข้อดีหลายประการ เพราะมีการวางรากฐานไว้แล้วและสามารถสร้างรายได้ได้ทันที

อย่างไรก็ตาม มีข้อมูลมากมายที่ต้องตรวจสอบและทำความเข้าใจก่อนตัดสินใจซื้อ เริ่มต้นจากการศึกษาข้อมูลต่อไปนี้:

  • กระแสเงินสดของธุรกิจ
  • ต้นทุนการดำเนินงาน
  • ระบบหลักที่ใช้บริหารธุรกิจ
  • รายชื่อซัพพลายเออร์ที่ใช้อยู่
  • การฝึกอบรมหรือการสนับสนุนหลังการขาย
  • ข้อกำหนดทางกฎหมายในการดำเนินธุรกิจ

ทั้งหมดนี้เกี่ยวข้องกับการหา B&B ที่เหมาะกับคุณ และตรงกับเป้าหมายและไลฟ์สไตล์ที่คุณวางไว้

คำถามเพิ่มเติมที่ควรถามตัวเอง:

  • ทำเลดีหรือไม่?
  • ขนาดที่พักเหมาะสมหรือไม่?
  • การตกแต่งยังอยู่ในสภาพดีหรือต้องปรับปรุง?
  • มีลูกค้ากลุ่มไหนมาพักบ้าง?
  • ธุรกิจเป็นแบบตามฤดูกาลหรือทำเงินได้ตลอดปี?
  • ต้องปรับปรุงซ่อมแซมเมื่อไหร่?

ปัจจัยสำคัญอีกอย่างที่จะมีผลต่อการตัดสินใจซื้อคือเหตุผลที่เจ้าของต้องการขาย เป็นเพราะปัญหาการเงิน เหตุผลทางครอบครัว หรือต้องการเงินลงทุนก้อนใหญ่? จำเป็นต้องรู้สาเหตุการขายเพื่อประเมินความเสี่ยงของคุณเอง

สิ่งสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งคือการมองภาพรวมของโอกาสทางธุรกิจ บางทีคุณอาจเจอที่พักในฝัน แต่ในพื้นที่นั้นมีธุรกิจแบบเดียวกันอยู่เต็มไปหมด

ควรสำรวจคู่แข่งในพื้นที่ก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อดูโอกาสในการสร้างจุดเด่นและดึงดูดลูกค้าประจำ

ที่ดีที่สุดคือควรมีตัวเลือกหลายที่แล้วค่อยๆ คัดกรอง ไม่ควรจำกัดตัวเองไว้ที่ตัวเลือกเดียว จากนั้นจึงเปรียบเทียบโอกาสในการสร้างรายได้ของแต่ละที่

วิธีเปิด Bed and Breakfast พร้อมทีมงานที่ใช่

ที่พักที่มีห้องตั้งแต่ 5 ห้องขึ้นไป ยากที่จะดูแลได้โดยลำพัง เมื่อคุณตัดสินใจว่าต้องการผู้ช่วย การหาคนที่เหมาะสมก็ไม่ใช่เรื่องง่าย

เริ่มจากพิจารณาทักษะที่คุณต้องการ – จะเป็นงานบัญชี ทำความสะอาด หรือทำอาหาร? หรือคุณต้องการคนที่ทำได้หลายอย่าง? อย่าลืมว่าเวลาของคุณควรทุ่มเทไปกับการดูแลแขกและวางแผนการตลาด เมื่อรู้แน่ชัดว่าต้องการอะไร จึงค่อยเขียนรายละเอียดงานให้ชัดเจน

ขั้นตอนต่อไปคือการประกาศรับสมัครงานไปยังกลุ่มคนที่มีความสามารถ ลงประกาศในโซเชียลมีเดีย บอกต่อผ่านครอบครัวและเพื่อน ในเว็บบอร์ดสมาคมต่างๆ และเว็บไซต์หางานทั่วไป

ระหว่างสัมภาษณ์ผู้สมัคร สิ่งสำคัญคือต้องดูให้ออกว่าใครเหมาะกับตำแหน่งและสามารถทำงานร่วมกับคุณได้จริง ตั้งคำถามปลายเปิดเพื่อดูตัวตนที่แท้จริง ขอการรับรองจากที่ทำงานเก่า และอาจทดสอบภาคปฏิบัติหากจำเป็น ควรจ้างเฉพาะคนที่คุณไว้ใจได้

จากนั้นคุณต้องรักษาความสัมพันธ์ที่ดีในการทำงานกับผู้ที่ผ่านการคัดเลือก

5 วิธีสำคัญในการดูแลพนักงานให้มีความสุข:

  1. ให้ค่าตอบแทนที่เป็นธรรม นี่คือพื้นฐานสำคัญของการเริ่มต้นที่ดี
  2. พยายามช่วยให้พนักงานทำงานได้ดีขึ้น ถามว่าอะไรที่ทำให้พนักงานหงุดหงิดและคุณจะช่วยอย่างไรได้บ้าง
  3. จัดประชุมสม่ำเสมอเพื่อติดตามความคืบหน้า สื่อสารเรื่องผลงานอย่างตรงไปตรงมา (แต่ไม่ใช่การกดดัน)
  4. ให้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจทั้งเรื่องใหญ่และเล็ก ไม่ว่าจะเป็นการเลือกวอลล์เปเปอร์หรือเปลี่ยนเมนูอาหารเช้า ให้รู้สึกว่าความคิดเห็นของพนักงานมีคุณค่า
  5. กระตุ้นให้พนักงานภูมิใจในผลงาน กล่าวขอบคุณ และใส่ใจรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่พนักงานทำ

วิธีบริหาร Bed and Breakfast ให้ประสบความสำเร็จ

เมื่อเปิดกิจการแล้ว ก็ถึงเวลาที่ต้องลงมือบริหารจัดการที่พักอย่างจริงจัง

การทำการตลาด รับจอง เช็คอินเช็คเอาท์ พัฒนาบริการ รักษาความสัมพันธ์กับลูกค้า จัดทำรายงานผลการดำเนินงาน และบริหารงบประมาณ คือสิ่งที่คุณต้องดูแลในฐานะผู้ประกอบการ B&B การบริหารที่พักไม่ได้มีแค่การทำอาหารเช้าและแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวให้แขก

แม้จะมีหลายอย่างที่ต้องจัดการ แต่เรามีเคล็ดลับที่จะช่วยคุณได้!

การใช้การตลาดออนไลน์ช่วยบริหาร B&B

การขายห้องพักผ่านช่องทางออนไลน์เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการดึงดูดแขก นักเดินทางยุคนี้มักค้นหาข้อมูลและจองที่พักผ่านเว็บไซต์ท่องเที่ยว คุณจึงต้องทำให้ที่พักของคุณโดดเด่นในช่องทางเหล่านี้

การลงขายห้องพักในหลายช่องทางจะช่วยเพิ่มโอกาสในการเพิ่มอัตราการเข้าพัก ช่องทางยอดนิยม (ที่วงการเรียกว่า OTA) รวมถึง Booking.com และ Expedia ส่วน Airbnb ก็เหมาะกับที่พักขนาดเล็ก นอกจากนี้ยังมีช่องทางเฉพาะกลุ่มที่เหมาะกับที่พักหรือกลุ่มลูกค้าบางประเภท สิ่งสำคัญคือการมีช่องทางที่หลากหลายและลงขายห้องพักทุกห้องพร้อมกัน

โดยปกติ การทำแบบนี้ต้องใช้เวลามากในการอัพเดทข้อมูลเมื่อมีการจอง และเสี่ยงต่อการจองซ้ำ แต่หากใช้ระบบ Channel Manager กระบวนการเหล่านี้จะเป็นอัตโนมัติและอัพเดทแบบเรียลไทม์ ช่วยลดความกังวลไปได้มาก

แม้ต้องจ่ายค่าคอมมิชชั่นให้ OTA เมื่อมีการจองผ่านช่องทางของ OTA แต่นี่ไม่ใช่เหตุผลที่จะไม่ใช้บริการ เพราะยังมีโอกาสได้การจองตรงจากช่องทางเหล่านี้ หากลงข้อมูลที่พักครบถ้วน ผู้สนใจสามารถคลิกจากหน้า OTA มายังเว็บไซต์ของที่พัก และอาจจองห้องพักโดยตรงโดยไม่ต้องจ่ายค่าคอมมิชชั่น

คุณสามารถทำให้การจองง่ายขึ้นและน่าสนใจขึ้นโดยปรับปรุงดีไซน์ ความเร็ว และฟังก์ชันของเว็บไซต์ พร้อมติดตั้งระบบจองออนไลน์ เช่นเดียวกับระบบจัดการที่พักและ Channel Manager ระบบสร้างเว็บไซต์และระบบจองถูกออกแบบมาเพื่อให้การจองง่ายขึ้นสำหรับแขกและราบรื่นสำหรับคุณ พร้อมช่วยให้คุณนำเสนอจุดเด่นของที่พักและสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงได้ดียิ่งขึ้น

ข้อดีที่สำคัญของเทคโนโลยีเหล่านี้คือ ทุกระบบทำงานร่วมกันเพื่อให้ติดอันดับบน Google ทำให้ที่พักของคุณเข้าถึงได้ง่าย และมอบกระบวนการจองที่สะดวกให้กับแขก

เคล็ดลับในการทำหน้าข้อมูลที่พักบน OTA ให้น่าสนใจ:

  • ใส่ข้อมูลแนะนำที่พัก
  • แสดงราคาและห้องว่างที่เป็นปัจจุบัน
  • ระบุที่อยู่และช่องทางติดต่อให้ชัดเจน
  • ใส่ลิงก์เว็บไซต์ของที่พัก
  • อัพโหลดรูปถ่ายที่พักชัดๆสวยๆให้ครบทุกมุม
  • ประสานงานกับผู้จัดการฝ่ายการตลาดของ OTA เพื่อให้ข้อมูลทันสมัยและดึงดูดใจอยู่เสมอ

นอกจากนี้ยังรับจองผ่าน Facebook และ Instagram โดยเชื่อมกับระบบจองของที่พักได้ เนื่องจากนักท่องเที่ยวใช้เวลาบนแพลตฟอร์มเหล่านี้บ่อย จึงเป็นช่องทางสำคัญในการขาย ควรทุ่มเทสร้างฐานผู้ติดตามและกระตุ้นการมีส่วนร่วมด้วยการโพสต์เนื้อหาที่น่าสนใจอย่างสม่ำเสมอ

ตัวอย่างเนื้อหาที่ควรนำเสนอ:

  • บทความเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวในพื้นที่
  • เคล็ดลับการเดินทาง
  • รีวิวและแนะนำร้านอาหาร บาร์ในละแวกใกล้เคียง
  • แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวรอบๆ ที่พัก
  • กิจกรรมชิงรางวัลและโปรโมชั่น
  • รีวิวจากแขกที่เคยเข้าพัก

สองกลยุทธ์ล่าสุดในการเพิ่มช่องทางขายออนไลน์คือการใช้อุปกรณ์มือถือและเว็บไซต์เมตาเสิร์ช เทคโนโลยีมือถือส่งผลต่อการขายออนไลน์มาหลายปีและยังคงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นอกจากต้องมีเว็บไซต์ที่ใช้งานบนมือถือได้ดีแล้ว ยังต้องร่วมมือกับตัวแทนจำหน่ายที่รู้วิธีดึงดูดผู้ใช้มือถือด้วย

แขกที่ใช้มือถือหรือแท็บเล็ตเข้าชมเว็บไซต์ต้องการเห็นปุ่มจองขนาดใหญ่ชัดเจน ฟอร์มจองที่ใช้งานง่าย และระบบชำระเงินที่ปลอดภัย

เว็บไซต์เปรียบเทียบราคาที่พักอย่าง Google Hotel Ads, Trivago หรือ Kayak กำลังมีบทบาทสำคัญมากขึ้น การนำที่พักไปอยู่บนแพลตฟอร์มเหล่านี้สามารถเพิ่มโอกาสการมองเห็นและยอดจองได้อย่างมาก เพราะเว็บไซต์เหล่านี้รวบรวมข้อมูลห้องว่างและราคาจากที่พักต่างๆ ในแต่ละพื้นที่มาแสดงแบบเรียลไทม์ ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเปรียบเทียบราคา ดูรูปภาพ และเช็คสิ่งอำนวยความสะดวกได้ในที่เดียว

ปัจจุบัน การอยู่บนแพลตฟอร์มเหล่านี้ไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่เป็นสิ่งจำเป็นในการทำการตลาดออนไลน์ ผู้ประกอบการควรศึกษาและเลือกใช้แพลตฟอร์มที่เหมาะกับที่พักของตนเอง เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย

บริหาร Bed and Breakfast ยังไงให้ปัง?

ที่พักในฝันของแขกคือที่พักที่ให้ประสบการณ์ดีๆ ตั้งแต่ต้นจนจบ โดยไม่มีปัญหาหรือความผิดหวังใดๆ นี่จึงเป็นสิ่งที่เจ้าของที่พักต้องพยายามทำให้ได้

ลองมาดูขั้นตอนต่างๆ ตั้งแต่แขกเริ่มหาข้อมูลจนถึงการเข้าพัก:

โดยทั่วไป แขกจะเห็นที่พักของคุณทางออนไลน์เป็นครั้งแรก อาจผ่านการค้นหาใน Google การดูในเว็บจองที่พัก การท่องโซเชียลมีเดีย หรือการค้นหาหลังจากได้รับคำแนะนำ ความประทับใจแรกนี้ต้องสร้างความว้าว ดังนั้นคุณต้องมีรูปถ่ายที่สวยงามเพื่อดึงดูดสายตาและจุดประกายจินตนาการ

เมื่อแขกรู้จักที่พักของคุณแล้ว มีโอกาสสูงที่พวกเขาจะเข้าชมทั้งเว็บไซต์และโซเชียลมีเดียหากความประทับใจแรกเป็นบวก ในมุมมองของแขก พวกเขามีตัวเลือกมากมาย จึงต้องการรู้ข้อมูลทั้งหมดอย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องค้นหานาน

การออกแบบเว็บไซต์จึงสำคัญมาก ควรมีปุ่มจองที่เห็นชัดเจน เมนูที่เข้าใจง่าย เช่น ‘เกี่ยวกับเรา’ หรือ ‘สถานที่ท่องเที่ยว’ รูปภาพที่พัก ราคา และห้องว่าง ทั้งหมดต้องเข้าถึงได้จากหน้าแรก ถ้าทำให้ง่ายสำหรับแขก โอกาสที่จะได้การจองก็มีมากขึ้น

เมื่อแขกยืนยันการจองแล้ว ทั้งสองฝ่ายเริ่มเตรียมตัวสำหรับการเข้าพัก แขกจะรู้สึกตื่นเต้นและเริ่มวางแผนทริป ทั้งกิจกรรมที่จะทำ สิ่งที่ต้องเตรียม ร้านอาหารที่จะไป ฯลฯ ในฐานะเจ้าของที่พัก คุณควรทราบข้อมูลของแขกให้มากที่สุดเพื่อให้บริการได้ดีขึ้น และพร้อมช่วยตอบคำถามต่างๆ

ส่งอีเมลก่อนเข้าพักเพื่อตอบโจทย์ทั้งสองอย่าง แขกมักยินดีที่ได้รับการติดต่อจากที่พักก่อนเดินทาง และจะยิ่งดีใจหากคุณแนบคำแนะนำและเคล็ดลับมาด้วย คุณยังใช้โอกาสนี้ถามความต้องการพิเศษของแขกได้

เมื่อแขกเช็คอินแล้ว ทุกอย่างอยู่ในมือคุณ แขกต้องการบริการที่อบอุ่นและเป็นกันเอง ขณะที่พักผ่อนในบรรยากาศที่ดีและสำรวจพื้นที่โดยรอบ คอยดูแลความต้องการและพร้อมช่วยเหลือเมื่อแขกต้องการ

หากยังขาดข้อมูลติดต่อใด ควรขอเพิ่มเพื่อรักษาการติดต่อกับแขก หลังจากแขกเช็คเอาท์ คุณอาจส่งข้อความขอบคุณ ขอรีวิว เชิญกลับมาพักอีกพร้อมส่วนลด หรือแจ้งกรณีลืมของไว้

เป้าหมายสูงสุดของการต้อนรับแขกคือการได้ลูกค้าประจำที่จะกลับมาพักทุกปี

9 เคล็ดลับบริหาร Bed and Breakfast ให้ประสบความสำเร็จ 

แน่นอนว่าแต่ละธุรกิจมีระดับความสำเร็จที่แตกต่างกันด้วยหลายปัจจัย แต่คุณสามารถลดข้อผิดพลาดได้ด้วยการทำตามแนวทางการบริหารจัดการ B&B ที่ได้ผลจริง

นี่คือ 9 วิธีบริหาร B&B ที่จะช่วยเพิ่มโอกาสความสำเร็จ:

1. โปรโมทจุดหมายปลายทาง ไม่ใช่แค่ที่พัก

แขกจะมีประสบการณ์ที่ดีขึ้นเมื่อคุณช่วยแนะนำมากกว่าแค่การเดินทางมาที่พัก นักท่องเที่ยวต้องการประสบการณ์ใหม่ๆ และมองหาคำแนะนำว่าควรไปเที่ยวที่ไหน ทำอะไรในละแวกใกล้เคียง

2. รีบนำธุรกิจเข้าสู่ระบบออนไลน์

อุตสาหกรรมกำลังก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัล และคู่แข่งของคุณก็กำลังใช้ช่องทางออนไลน์หาลูกค้าใหม่ นี่เป็นสิ่งจำเป็นในโลกเทคโนโลยี

3. เข้าร่วมสมาคมหรือองค์กรที่เกี่ยวข้อง

มีเครื่องมือและทรัพยากรมากมายที่ช่วยผู้ที่กำลังคิดจะเปิดหรือเพิ่งซื้อ B&B อย่าพยายามทำคนเดียว มีผู้ประกอบการหลายพันคนที่ผ่านประสบการณ์มาก่อนและพร้อมช่วยเหลือผู้ประกอบการใหม่

4. อย่าละเลยโซเชียลมีเดีย

โซเชียลมีเดียเป็นหน้าต่างสำคัญสู่โลกภายนอก เป็นเครื่องมือการตลาดที่ยอดเยี่ยมและช่วยขยายการเข้าถึงด้วยงบประมาณไม่มาก นักท่องเที่ยวยุคใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มมิลเลนเนียล ต้องการเชื่อมต่อผ่านโซเชียลมีเดีย

5. ยืดหยุ่นเรื่องเวลาเช็คอินและเช็คเอาท์

แม้นักท่องเที่ยวจะคุ้นเคยกับการเช็คอินช่วงบ่ายและเช็คเอาท์ช่วงสาย แต่บางครั้งอาจไม่สะดวกสำหรับแขกยุคใหม่ B&B มีข้อได้เปรียบในการให้บริการแบบส่วนตัว สามารถให้แขกเลือกเวลาเช็คอินและเช็คเอาท์ที่สะดวกได้

6. เตรียมของใช้สำรองให้แขก

นักเดินทางมักลืมของบางอย่าง ซึ่งอาจทำให้รู้สึกไม่สะดวก การมีของใช้สำรองให้แขกยืมจะช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีขึ้น เช่น แปรงสีฟัน ยาสีฟัน ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย ผลิตภัณฑ์สำหรับผู้หญิง และที่ชาร์จโทรศัพท์

7. เพิ่มข้อมูลท้องถิ่นในพื้นที่ส่วนกลาง

แขกมักขอคำแนะนำเรื่องร้านอาหาร กิจกรรมท่องเที่ยว และประวัติของพื้นที่ ลองวางหนังสือของนักเขียนท้องถิ่น คู่มือนำเที่ยว และโบรชัวร์ส่วนลดกิจกรรมท่องเที่ยวใกล้เคียงไว้ในสวนหรือห้องนั่งเล่นส่วนกลาง

8. สร้างกิจวัตรที่ช่วยในการทำงาน

ารดูแลตัวเองก่อนดูแลแขกเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้บริการได้ดีที่สุด ควรวางแผนงานในแต่ละวันตั้งแต่คืนก่อน

9. ใช้เทคโนโลยีเสริมประสบการณ์ของลูกค้า

เทคโนโลยีไม่ควรมาแทนที่การปฏิสัมพันธ์กับแขก แต่ควรช่วยเสริมกลยุทธ์การบริหารกิจการ B&B

ระบบจัดการที่พักที่มีระบบจองออนไลน์จะช่วยให้แขกจองกับคุณโดยตรงผ่านอินเทอร์เน็ต แอพมือถือช่วยให้แขกติดต่อกับที่พักได้สะดวกและมีประโยชน์

อุตสาหกรรมที่พักเป็นธุรกิจที่มีนวัตกรรมและน่าตื่นเต้น มีวิธีใหม่ๆ ในการพัฒนากลยุทธ์การบริหารที่พักอยู่เสมอ

การเขียนแผนธุรกิจ Bed and Breakfast

สิ่งแรกที่ต้องทำคือการประเมินว่าธุรกิจ B&B เหมาะกับคุณและครอบครัวหรือไม่ โดยการจัดทำแผนธุรกิจอย่างละเอียดจะช่วยให้คุณเห็นภาพรวมที่ชัดเจน

ขั้นตอนการวางแผนธุรกิจต้องอาศัยการค้นคว้าข้อมูลมาก คุณจำเป็นต้องมองให้ออกว่าที่พักของคุณจะมีอะไรดึงดูดลูกค้าได้บ้าง ลองถามตัวเองว่าลูกค้าต้องการอะไร และคุณจะผสมผสานความต้องการของทั้งสองฝ่ายเข้าด้วยกันได้อย่างไร

คุณควรเข้าร่วมกลุ่มและเว็บบอร์ดออนไลน์ เพราะที่เหล่านี้เต็มไปด้วยผู้มีประสบการณ์ตรงที่คุณกำลังมองหา เช่นเดียวกับองค์กรและสมาคมการท่องเที่ยวในพื้นที่

เว็บรีวิวเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ คุณสามารถใช้ข้อมูลเหล่านี้รับฟีดแบ็คที่มีค่า และเรียนรู้วิธีบริหารธุรกิจและบริการลูกค้าให้ดีขึ้น

อย่าลืมประสบการณ์จริงของตัวคุณเองด้วย ตลอดหลายปีที่ผ่านมา คุณคงเคยพักที่พักแบบเดียวกับที่คุณจะทำ อะไรที่คุณจำได้ว่าดีหรือแย่? ใช้คำตอบเหล่านี้พัฒนาธุรกิจของคุณ

ธุรกิจ B&B เกี่ยวข้องกับความคาดหวังของลูกค้า สิ่งสำคัญที่สุดคือการสื่อสารกับลูกค้าให้ตรงจุด คุณต้องกำหนดว่าแบรนด์ของคุณจะมีภาพลักษณ์อย่างไรในสายตานักท่องเที่ยว ปรับเว็บไซต์ให้สื่อสารตรงใจกลุ่มลูกค้าในอุดมคติ เน้นที่พวกเขา ไม่ใช่ตัวคุณ

อย่าพยายามเอาใจลูกค้าทุกกลุ่ม แต่ให้มุ่งเน้นตอบโจทย์ลูกค้าในอุดมคติให้ลึกซึ้ง เมื่อรู้ชัดว่าจะให้บริการใคร ก็ลองถามพวกเขาว่าต้องการอะไรเพิ่มเติมจากคุณ แล้วพัฒนาสินค้าและบริการตามความต้องการนั้น

เทมเพลตแผนธุรกิจ B&B

ต่อไปนี้คือแนวทางพัฒนาแผนธุรกิจของคุณ พิจารณาแต่ละหัวข้อตามสถานการณ์ของคุณ:

เป้าหมาย

  • ทำไมคุณถึงสนใจเปิด B&B? เป็นเพราะความต้องการด้านการเงินหรือเหตุผลอื่น?
  • คุณตั้งเป้ากำไรสุทธิไว้เท่าไหร่ในกี่ปี?
  • เป้าหมายธุรกิจ B&B สอดคล้องกับเป้าหมายครอบครัวทั้งระยะสั้นและระยะยาวหรือไม่?

ความต้องการพื้นฐาน

  • เงินทุนที่ต้องใช้สำหรับเริ่มต้นและดำเนินการต่อ
  • ใบอนุญาตและเอกสารที่ต้องจัดการในพื้นที่ของคุณ (ท้องถิ่น อำเภอ หรือจังหวัด): การแบ่งโซน มาตรฐานอาคาร กฎด้านสุขอนามัย การจัดเก็บภาษี ฯลฯ
  • ประมาณการค่าประกันความรับผิดและประกันอื่นๆ
  • ข้อกำหนดด้านภาษี (ท้องถิ่น จังหวัด ประเทศ) ที่ต้องปฏิบัติตาม อาจเป็นประโยชน์หากปรึกษานักบัญชีหรือผู้เชี่ยวชาญด้านภาษี
  • รูปแบบธุรกิจแบบไหนที่เหมาะกับคุณที่สุด – เจ้าของคนเดียว หุ้นส่วน บริษัท หรือแบบอื่น

การวิเคราะห์ตลาด

  • ศึกษาลักษณะทางเศรษฐกิจและสังคมของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย พิจารณาว่าจะเน้นกลุ่มลูกค้าประเภทไหน และกลุ่มไหนที่มีโอกาสเข้าพักมากที่สุด
  • ประเมินจำนวนและที่มาของลูกค้าที่อาจเข้าพัก พวกเขาจะเดินทางมาไกลแค่ไหน? พื้นที่ของคุณดึงดูดนักท่องเที่ยวมากพอหรือไม่? มีความต้องการที่พักในรูปแบบที่คุณจะทำหรือเปล่า?
  • พิจารณาระยะทางและเส้นทางไปยังสถานที่สำคัญใกล้เคียงกับ B&B ของคุณ
  • ศึกษาเทรนด์และความชอบของลูกค้า B&B

การวิเคราะห์คู่แข่ง

  • ศึกษาจำนวนและคุณภาพของ B&B และสถานที่ท่องเที่ยวในละแวกเดียวกัน
  • B&B ในพื้นที่มีกำไรเป็นอย่างไร? มีแนวโน้มอย่างไร? แม้อาจไม่ได้ข้อมูลโดยตรง แต่ลองสอบถามข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับความมั่นคงของธุรกิจ B&B ในพื้นที่
  • คู่แข่งโฆษณาที่ไหนบ้าง?
  • คุณจะวางตำแหน่งทางการตลาดเทียบกับ B&B อื่นอย่างไร? แบรนด์ของคุณเป็นแบบไหน? หรูหรา ประหยัด ที่พักสำหรับคู่รัก ที่พักสำหรับคนรักการผจญภัย ฯลฯ

การบริหารจัดการ

  • ค่าใช้จ่ายในการเริ่มต้นและดำเนินการ (สิ่งอำนวยความสะดวก อุปกรณ์ วัสดุสิ้นเปลือง และบริการต่างๆ)
  • การกำหนดราคาสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการ เช่น แม่บ้าน (หากวางแผนจะจ้างภายนอก)
  • การจัดการบัญชีสินค้าคงคลังและค่าเสื่อมราคา
  • ขั้นตอนการดำเนินงานมาตรฐานของ B&B

เคล็ดลับการขายกิจการ Bed and Breakfast

สักวันหนึ่ง แม้อาจไม่ใช่เร็วๆ นี้ คุณอาจต้องการขายกิจการ B&B ของคุณ แต่มันไม่ง่ายเหมือนแค่ติดป้าย “ขาย”

ในการเตรียมตัวขาย คุณมีงาน 7 อย่างที่ต้องทำ:

1. จัดเตรียมข้อมูลการเงิน

ผู้ที่สนใจซื้อย่อมอยากรู้สถานะการเงินของธุรกิจ ดังนั้นควรทำงานร่วมกับนักบัญชีเพื่อจัดระเบียบเอกสารภาษี บัญชี ค่าสาธารณูปโภค และใบเสร็จต่างๆ

2. ตรวจสอบสภาพที่พัก

ผู้ตรวจสอบจะดูทุกอย่างตั้งแต่หลังคา ฐานราก ระบบไฟฟ้า ไปจนถึงบันได การตรวจสอบให้แน่ใจว่าที่พักได้มาตรฐานและไม่มีปัญหา จะช่วยป้องกันไม่ให้มีข้อบกพร่องในรายงานตรวจสอบของผู้ซื้อที่อาจทำให้คุณต้องลดราคาขาย

3. ตั้งราคาให้เหมาะสม

มีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาขาย และการตั้งราคาเองนั้นทำได้ยาก ควรปรึกษานายหน้าและผู้ประเมินราคา

ไม่ว่าจะตั้งราคาเท่าไร คุณต้องมีเอกสารรับรอง ทั้งแบบแสดงรายการภาษีและเอกสารอื่นๆ ที่แสดงศักยภาพในการสร้างรายได้ของธุรกิจ รวมถึงต้นทุนการดำเนินงาน

4. ยกระดับการบริการ

ช่วงที่กำลังจะขาย ยิ่งต้องดูแลให้ธุรกิจดำเนินไปอย่างดี คุณค่าที่ผู้ซื้อรับรู้จะช่วยให้ขายได้ง่ายขึ้น ผู้ที่สนใจซื้อต้องการเห็นการจองที่สม่ำเสมอและคะแนนรีวิวที่ดี เพื่อให้มั่นใจว่าไม่ได้กำลังซื้อธุรกิจที่กำลังซบเซา

5. เสนอขายพร้อมเฟอร์นิเจอร์

การขายพร้อมเฟอร์นิเจอร์อาจง่ายกว่าสำหรับคุณ และยังเป็นแรงจูงใจสำหรับผู้ซื้อ จึงเป็นผลดีกับทั้งสองฝ่าย

6. ทำงานกับมืออาชีพ

หานายหน้าที่มีความรู้และประสบการณ์ในอุตสาหกรรมที่พักและการโรงแรม จะดีมากถ้าหาคนที่เชี่ยวชาญเรื่อง B&B โดยเฉพาะ เมื่อพร้อมลงประกาศขาย การทำการตลาดจะเป็นกุญแจสำคัญ

มีช่องทางออนไลน์มากมายที่ช่วยขายธุรกิจ แต่การทำงานกับนายหน้าจะช่วยให้มั่นใจว่าประกาศขาย B&B ของคุณจะเข้าถึงผู้ที่สนใจซื้อจริงๆ

7. ใจเย็น

เหมือนกับการขายบ้าน บางช่วงเวลาเหมาะกับการขายกิจการ B&B มากกว่าช่วงอื่น โดยช่วงต้นปีมักเป็นช่วงที่คนมองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ไม่ว่าจะขายช่วงไหน ให้ใช้ประโยชน์จากช่วงนั้น

เช่น ถ้าขายช่วงปลายปีซึ่งเป็นไฮซีซั่น ก็ตกแต่งที่พักให้สวยงามด้วยไฟประดับและต้นคริสต์มาส หรือถ้าขายช่วงสงกรานต์ ก็จัดสวนให้ร่มรื่นด้วยไม้ดอกนานาพันธุ์ เพื่อสร้างบรรยากาศที่ชวนประทับใจ

การเริ่มธุรกิจ B&B เป็นการลงทุนที่น่าตื่นเต้น เพราะคุณได้สร้างพื้นที่เล็กๆ ให้กลายเป็นที่พักที่อบอุ่นสำหรับแขก พร้อมทั้งสร้างรายได้จากสิ่งที่คุณรัก

อย่างไรก็ตาม ถ้าไม่วางแผนและเตรียมการให้รอบคอบตั้งแต่แรก อาจทำให้ธุรกิจไปไม่รอด การใช้ระบบจัดการที่พักแบบครบวงจรอย่าง Little Hotelier จะช่วยให้คุณบริหาร B&B ได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสบความสำเร็จ

By Dean Elphick

คณบดีเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดเนื้อหาอาวุโสของ Little Hotelier ซึ่งเป็นโซลูชันซอฟต์แวร์แบบ All-in-One ที่สร้างขึ้นเพื่อให้ชีวิตของผู้ให้บริการที่พักขนาดเล็กง่ายขึ้น คณบดีได้สร้างการเขียนและสร้างเนื้อหาความหลงใหลของเขาที่มีต่อชีวิตการทำงานทั้งหมดของเขาซึ่งรวมถึงกว่าหกปีที่ Little Hotelier ผ่านเนื้อหาคณบดีมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้การศึกษาแรงบันดาลใจความช่วยเหลือและในที่สุดความคุ้มค่าสำหรับธุรกิจที่พักขนาดเล็กที่ต้องการปรับปรุงวิธีการดำเนินงานของพวกเขา (และใช้ชีวิต)