แผนกต้อนรับส่วนหน้าโรงแรมคืออะไร?
แผนกต้อนรับส่วนหน้า หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า “ฟร้อนโรงแรม” คือเคาน์เตอร์บริการและพื้นที่ต้อนรับที่มีพนักงานโรงแรมคอยให้บริการแขกในเรื่องการเช็คอิน เช็คเอาท์ ตอบข้อสงสัย และบริการอื่นๆ ตลอดระยะเวลาที่แขกเข้าพัก
ในคู่มือนี้ เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับงานส่วนหน้าโรงแรมอย่างละเอียด: หน้าที่ความรับผิดชอบ วิธีปรับปรุงการบริการให้ดียิ่งขึ้น และความแตกต่างที่ระบบแผนกบริการส่วนหน้าที่ทันสมัยอย่าง Little Hotelier จะช่วยยกระดับการบริการของโรงแรมคุณให้ดียิ่งขึ้น
ประหยัดเวลาอันมีค่าที่เคาน์เตอร์ต้อนรับด้วยซอฟต์แวร์ของ Little Hotelier
Little Hotelier ช่วยทำงานที่น่าเบื่อและต้องทำด้วยตนเองให้เป็นระบบอัตโนมัติ ช่วยประหยัดเวลาสูงสุดถึง 35 นาทีต่อการจองหนึ่งครั้ง เพื่อให้คุณมีเวลามากขึ้นในการมอบประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมให้แก่แขกของคุณ
เรียนรู้เพิ่มเติม
ทำไมงานในแผนกต้อนรับส่วนหน้าจึงสำคัญ?
ความประทับใจแรกสำคัญมาก และ “ฟร้อนโรงแรม” คือด่านแรกที่แขกจะได้พบเจอ ถ้าอยากให้แขกมีความสุขตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามา เราต้องทำให้ความประทับใจแรกนี้เป็นเรื่องที่ดี
งานส่วนหน้าโรงแรมไม่ได้สำคัญแค่ตอนเช็คอินเท่านั้น แต่ยังรวมถึง:
- การพูดคุยกับแขก: หลังจากสร้างบรรยากาศที่ดีให้กับแขกแล้ว พนักงานแผนกต้อนรับส่วนหน้าสามารถต่อยอดความสัมพันธ์นี้ ทำให้ทุกการเข้าพักเป็นเรื่องพิเศษที่น่าจดจำ
- การแก้ไขปัญหา: แผนกบริการส่วนหน้าต้องจัดการกับปัญหาและข้อร้องเรียนต่างๆ เพื่อให้แขกได้พักผ่อนอย่างสบายใจ
- การประสานงานภายใน: ฟร้อนโรงแรมต้องทำงานร่วมกับแผนกอื่นๆ เช่น แม่บ้านและช่างซ่อมบำรุง เพื่อดูแลความต้องการของแขกได้ทันท่วงที
- การเพิ่มรายได้: พนักงานงานส่วนหน้าโรงแรมยังเป็นนักขายได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นการเสนออัพเกรดห้อง ขายบริการเสริม หรือแนะนำบริการอื่นๆ ที่จะช่วยเพิ่มรายได้ให้โรงแรม
จริงๆแล้วงานหลักของพนักงานแผนกต้อนรับส่วนหน้าคืออะไร?
มีผู้เชี่ยวชาญด้านการบริการหลายประเภทที่ทำงานในแผนกนี้ ดังนั้นคำอธิบายงานส่วนหน้าโรงแรมจึงแตกต่างกันไปตามบทบาท คำอธิบายงานของพนักงานต้อนรับจะแตกต่างจากพนักงานคอนเซียช เป็นต้น
แต่โดยรวมแล้ว หน้าที่ของแผนกบริการส่วนหน้ามักเกี่ยวกับการเช็คอินและเช็คเอาท์ การจัดการการจองห้องพัก และการประสานงานกับแผนกอื่นๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของแขก – เดี๋ยวเราจะพูดถึงเรื่องนี้ให้ละเอียดขึ้นในตอนต่อไป
เคล็ดลับช่วยให้แผนกต้อนรับส่วนหน้าทำให้แขกประทับใจมากขึ้น
หน้าที่ของแผนกต้อนรับส่วนหน้าไม่ได้มีแค่การเช็คอินและเช็คเอาท์เท่านั้น “ฟร้อนโรงแรม” เปรียบเสมือนหน้าตาของโรงแรม และเป็นจุดที่แขกจะได้สัมผัสกับบริการสำคัญๆหลายจุดด้วยกัน
การพบปะแรกและการพบกันครั้งสุดท้ายมีผลอย่างมากต่อความรู้สึกของแขกที่มีต่อโรงแรมเรา รอยยิ้มที่เป็นมิตรตอนเช็คอินช่วยให้การเข้าพักเริ่มต้นอย่างดี ส่วนการพูดคุยดีๆ ตอนเช็คเอาท์ก็ช่วยให้แขกอยากเขียนรีวิวดีๆ ซึ่งจะช่วยดึงดูดลูกค้าใหม่ๆ ให้มาใช้บริการเราอีกด้วย
งานส่วนหน้าโรงแรมจะช่วยเพิ่มความพึงพอใจให้แขกได้อย่างไร? มาดูเคล็ดลับกัน
การจัดการเช็คอินและเช็คเอาท์
เรื่องแรกและสำคัญที่สุด แผนกบริการส่วนหน้าต้องดูแลเรื่องการเช็คอินและเช็คเอาท์ของแขก รวมถึงจัดการเรื่องที่จอดรถ และจัดการคำขอพิเศษต่างๆ สำหรับห้องพัก
ถ้าเช็คอินล่าช้าหรือสับสนวุ่นวาย แขกจะรู้สึกหงุดหงิดและเริ่มต้นการพักไม่สวย แต่ด้วยระบบที่ดีและเทคโนโลยีอย่างการเช็คอินอัตโนมัติหรือตู้เช็คอินด้วยตัวเอง จะช่วยให้แขกไม่ต้องรอนานและเริ่มต้นการพักผ่อนได้เร็วขึ้น
การสื่อสารที่ชัดเจนเป็นสิ่งสำคัญมากตอนเช็คอิน แขกควรได้รับข้อมูลครบถ้วน ทั้งรหัส Wi-Fi สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เวลาอาหารเช้า และอื่นๆ อีกมากมาย
นอกจากนี้ พนักงานต้อนรับส่วนหน้ายังต้องสามารถตอบคำถามเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวในละแวกนั้นได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารดีๆ ซูเปอร์มาร์เก็ตหรือร้านขายยาที่ใกล้ที่สุด รวมถึงเส้นทางและข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมท้องถิ่นต่างๆ
ฟร้อนโรงแรมยังต้องจัดการและเตรียมพร้อมสำหรับการจองที่จะเข้ามา ซึ่งอาจมีอีเมลและคำถามจากลูกค้าที่สนใจเข้าพักในอนาคต ทั้งเรื่องห้องว่างและสิ่งอำนวยความสะดวก จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องตอบกลับให้เร็วและชัดเจนที่สุด
การจัดการข้อร้องเรียน
แผนกต้อนรับส่วนหน้ามีหน้าที่แก้ไขปัญหาต่างๆ ของแขก ซึ่งมักต้องประสานงานกับแผนกอื่นๆ หรือบริษัทภายนอก
เช่น ถ้าแขกมีปัญหากับทีวีหรือพบว่ามีน้ำรั่วในห้องน้ำ พนักงานงานส่วนหน้าโรงแรมต้องรีบแจ้งฝ่ายซ่อมบำรุงให้มาดูแลโดยเร็ว หรือถ้าแขกอยากย้ายห้อง ก็ต้องจัดการให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น
การแก้ปัญหาอย่างรวดเร็วและด้วยความเข้าใจ จะช่วยเปลี่ยนประสบการณ์แย่ๆ ให้กลายเป็นดีได้ สิ่งนี้อาจต้องอาศัยการฝึกฝนทักษะด้านมนุษยสัมพันธ์ เช่น การฟังอย่างตั้งใจ การคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา และการควบคุมอารมณ์ และหลังจากแก้ปัญหาแล้ว แผนกบริการส่วนหน้าควรติดตามสอบถามแขกด้วยว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีหรือไม่
การบริการที่ปรับให้เข้ากับแขกแต่ละท่าน
การปรับการบริการให้เข้ากับความต้องการของแขกแต่ละราย ทำให้พวกเขารู้สึกว่าได้รับการดูแลอย่างใส่ใจ
อาจเป็นเรื่องง่ายๆ แค่เรียกชื่อแขก แต่ถ้าทำได้มากกว่านั้น เช่น จำได้ว่าแขกชอบอะไรจากครั้งที่แล้วที่มาพัก เสนออัพเกรดห้องในโอกาสพิเศษ หรือแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่ตรงกับความชอบของแขก ก็จะยิ่งเพิ่มความประทับใจได้มากขึ้น
พนักงาน “ฟร้อนโรงแรม” ควรจดบันทึกข้อมูลลงในระบบ CRM หรือระบบจัดการลูกค้าของโรงแรม เกี่ยวกับความชอบและความสนใจของแขกแต่ละคน เพื่อให้บริการครั้งต่อไปได้ดียิ่งขึ้น
การประสานงานกับแม่บ้านเรื่องห้องพัก
วิธีง่ายๆ ที่ช่วยสร้างความพึงพอใจให้แขกคือการให้เช็คอินเร็วหรือเช็คเอาท์ช้ากว่าปกติเมื่อมีโอกาส และรับคำขอพิเศษเกี่ยวกับการทำความสะอาด (เช่น ใช้น้ำยาที่ไม่ก่อให้เกิดภูมิแพ้)
พนักงานต้อนรับส่วนหน้าต้องประสานกับแม่บ้านเพื่อให้แน่ใจว่าห้องพร้อมตามเวลา หรือถ้าแขกอยากเช็คอินเร็ว ต้องเช็คว่าห้องจะพร้อมได้เร็วแค่ไหน พนักงานแผนกต้อนรับส่วนหน้าที่ดียังช่วยแม่บ้านได้ด้วยการแจ้งเมื่อแขกเช็คเอาท์เร็วกว่ากำหนด เพื่อให้แม่บ้านเริ่มทำความสะอาดห้องได้เลย โดยไม่ต้องรอจนถึงเวลาเช็คเอาท์ปกติ
นอกจากนี้ พนักงานต้อนรับส่วนหน้ายังมีหน้าที่ดูแลล็อบบี้ให้สะอาดเรียบร้อย พร้อมหนังสือพิมพ์ใหม่ๆ แผ่นพับท่องเที่ยว และมุมกาแฟไว้บริการแขก

หน้าที่และความรับผิดชอบของแผนกต้อนรับส่วนหน้า
หน้าที่และความรับผิดชอบของแผนกต้อนรับส่วนหน้าและพนักงานต้อนรับโรงแรม มีความละเอียดอ่อนและหลากหลายมากกว่าที่คนภายนอกคิด นี่เป็นเหตุผลที่ทำไมการมีเช็คลิสต์สำหรับฟร้อนโรงแรม จึงเป็นวิธีเดียวที่จะช่วยจัดการกับงานมากมายในแต่ละวัน สัปดาห์ เดือน และปี
หน้าที่หลักของแผนกบริการส่วนหน้าในโรงแรม:
- เช็คอินและเช็คเอาท์สำหรับแขก รวมถึงการรับเงินมัดจำ และแนะนำเรื่องที่จอดรถ
- ประสานงานกับทีมแม่บ้านเพื่อตรวจสอบว่าห้องพักพร้อมหรือยัง และจัดการเรื่องการนำของเพิ่มเติม เช่น ผ้าเช็ดตัวเพิ่ม ตามที่แขกต้องการ
- ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ซ่อมบำรุงเพื่อแก้ไขปัญหาภายในห้องพักและพื้นที่ส่วนกลางที่อาจเกิดขึ้น
- ดูแลระบบการจองสำหรับการจองในอนาคต
- สื่อสารกับแขกที่จะมาในอนาคตเกี่ยวกับการจองของแขกที่จะเข้าพัก
- จัดเตรียมคีย์การ์ดและแพ็คเกจข้อมูลเช็คอินล่วงหน้า
- ติดตามกิจกรรมท้องถิ่นปัจจุบันเพื่อให้บริการแขกได้ดียิ่งขึ้น
- เรียนรู้เกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวและสิ่งอำนวยความสะดวกในท้องถิ่น รวมถึงซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านอาหาร บาร์ และพื้นที่สาธารณะ เพื่อให้บริการแขกได้ดีขึ้น
- ดูแลพื้นที่สาธารณะต่างๆ เช่น สระว่ายน้ำ ล็อบบี้ และฟิตเนส
- จัดการข้อร้องเรียนและคำถามของแขก
- ให้บริการฝากกระเป๋าสำหรับแขกที่กำลังเช็คอินและเช็คเอาท์
- ดูแลล็อบบี้และบริเวณทางเข้าให้สะอาดเรียบร้อย
เช็คลิสต์สำหรับงานส่วนหน้าโรงแรม
เมื่อต้องทำงานมากมายหลายอย่างแบบนี้ การมีเช็คลิสต์ไว้เป็นตัวช่วยสำหรับพนักงานฟร้อนโรงแรมจึงเป็นสิ่งจำเป็น ช่วยให้งานต่างๆ ไม่ตกหล่นและทำงานได้ครบถ้วนตลอดทั้งวัน
ข้อดีของเช็คลิสต์คือสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามต้องการ ไม่ใช่ว่าสิ่งไหนทำแล้วต้องทำตลอดไป งานบางอย่างถ้าไม่จำเป็นต้องทำทุกวัน ก็แยกออกไปไว้ในเช็คลิสต์รายสัปดาห์หรือรายเดือนได้เลย
สำหรับผู้จัดการหรือเจ้าของโรงแรม บางทีการมีเช็คลิสต์ประจำวันเพียงชุดเดียวอาจสะดวกกว่า
ลองทดลองใช้เช็คลิสต์หลายๆ แบบดู เพื่อหาสิ่งที่เหมาะกับโรงแรมของคุณมากที่สุด ไม่ต้องกลัวที่จะปรับแต่งเช็คลิสต์มาตรฐานให้เข้ากับสไตล์การทำงานของคุณ จะสลับงานจากกะเย็นไปกะเช้า หรือจากกะเช้าไปกะเย็นก็ได้ ขอแค่ให้การทำงานลื่นไหลและตอบโจทย์ความต้องการของโรงแรมคุณได้ดีที่สุด
เช็คลิสต์แผนกบริการส่วนหน้า
กำลังมองหาเช็คลิสต์สำหรับแผนกต้อนรับส่วนหน้าเพื่อเริ่มต้นใช่ไหม? นี่คือเช็คลิสต์มาตรฐานของโรงแรมและสิ่งที่มักจะรวมอยู่ในนั้น
1. เช็คลิสต์กะเช้า
- เปิดแล็ปท็อป/คอมพิวเตอร์และเข้าสู่ระบบทุกระบบของแผนกต้อนรับ
- จัดเตรียมโต๊ะสำหรับแขก (พร้อมแผ่นพับ แผนที่ บัตรส่วนลด ฯลฯ)
- เช็ดเคาน์เตอร์ให้สะอาด
- นำเงินออกจากตู้เซฟ
- นับเงินในลิ้นชักและเช็คเงินทอน
- เปิดเพลงในล็อบบี้
- ปลดล็อคประตูด้านหน้า
- เปลี่ยนโทรศัพท์จากช่วงนอกเวลาทำการเป็นการโทรปกติ
- ตอบอีเมลใหม่ทั้งหมด
- บันทึกคำขอจองใหม่
- เช็คห้องว่างสำหรับแขกที่วอคอิน
- โทรปลุกและแจ้งเตือนตามที่แขกต้องการ
- เช็คว่าพื้นที่ส่วนรวมเรียบร้อยดี
- แจกจ่ายหนังสือพิมพ์ประจำวันในแผนกต้อนรับ
- เช็คดูว่าแขกได้เช็คเอาท์ตามเวลาเช็คเอาท์ของพวกเขา
- ประสานงานกับทีมแม่บ้านเพื่อจัดลำดับความสำคัญของห้องสำหรับการทำความสะอาดและจัดการคำขอพิเศษสำหรับวันนั้น
- เช็คเอาท์แขกและเรียกเก็บเงินตามที่จำเป็น
- เช็คบันทึกที่กะดึกทิ้งไว้
- จัดเตรียมแพ็คเกจสำหรับการเข้าพักในกะเย็น (รวมถึงการทำคีย์การ์ด)
- เช็คการเข้าพักในวันนั้นเพื่อดูคำขอพิเศษหรือแขก VIP
- ยืนยันกับแม่บ้านว่าทุกห้องพร้อมสำหรับการเช็คอิน
2. เช็คลิสต์กะเย็น
- นับเงินทอน
- เช็คห้องว่างสำหรับแขกที่วอคอิน
- เพิ่มงานที่ยังไม่เสร็จจากกะกลางวันลงในเช็คลิสต์กะเย็น
- เช็คอีกครั้งว่าแพ็คเกจสำหรับการเข้าพักพร้อมสำหรับแขกที่จะเช็คอิน
- จัดการคำขอจองใหม่
- ตอบอีเมลทั้งหมด
- พิมพ์รายการสถานะห้อง (ในกรณีฉุกเฉินกลางคืนเพื่อให้รู้ว่าใครพักอยู่ในโรงแรม)
- เตรียมคำแนะนำสำหรับการเช็คอินกลางคืน/ดึก
- ออกจากระบบและปิดคอมพิวเตอร์สำหรับคืนนั้น
- จัดระเบียบเคาน์เตอร์ต้อนรับและพื้นที่ให้เรียบร้อย
- ปิดเพลงในล็อบบี้
- ล็อคประตูด้านหน้าและพื้นที่ส่วนรวมที่ปิดในช่วงกลางคืน
- เปลี่ยนโทรศัพท์ไปที่เครื่องตอบรับ
- สรุปยอดเงินในลิ้นชักและปิดบัญชีประจำวัน
- นำเงินทอนและเงินในลิ้นชักเข้าตู้เซฟสำหรับคืนนั้น
- ทิ้งบันทึกไว้สำหรับกะเช้าที่จะมาถึงตามความจำเป็น (สิ่งที่ต้องติดตาม งานสำคัญ ฯลฯ)
3. เช็คลิสต์การต้อนรับแขก
โปรดทราบว่าเช็คลิสต์นี้อาจแตกต่างกันไปในแต่ละที่ขึ้นอยู่กับกระบวนการเช็คอินและซอฟต์แวร์ของโรงแรมคุณ
- เช็คว่าได้จัดสรรห้องพักทั้งหมดสำหรับแขกที่จะเข้าพักในวันนั้นแล้ว
- เช็คว่าแพ็คเกจต้อนรับแต่ละชุดพร้อมพร้อมคีย์การ์ดหรือรหัสที่ตั้งไว้
- เช็คกับแม่บ้านว่าห้องพักพร้อมเรียบร้อยแล้ว
- เช็คบันทึกการจองสำหรับคำขอพิเศษต่างๆ
- ต้อนรับแขกด้วยรอยยิ้มและสอบถามชื่อที่จอง
- เปิดการจองของพวกเขาในระบบและยืนยันรายละเอียดการเข้าพัก (จำนวนคืน จำนวนแขก ประเภทห้อง)
- ขอบัตรประจำตัวและบัตรเครดิต
- เช็คว่าบัตรประจำตัวเป็นของแขกและบัตรเครดิตตรงกัน
- คืนบัตรประจำตัวและรับเงินมัดจำค่าเสียหายจากบัตรเครดิต
- แจ้งให้แขกเข้าใจเรื่องเงินมัดจำค่าเสียหายและบัตรอาจจะถูกเรียกเก็บเงินในกรณีที่มีความเสียหาย
- อธิบายกฎและข้อควรทราบของโรงแรม (รวมถึงช่วงเวลาห้ามส่งเสียงดัง เวลาเปิดของบริการต่างๆ เช่น ฟร้อนโรงแรม ฟิตเนส สระว่ายน้ำ)
- อธิบายข้อมูลจำเป็นต่างๆ เช่น วิธีเข้าโรงแรมหลังเวลาทำการ เวลาและสถานที่สำหรับอาหารเช้า
- มอบคีย์การ์ดและคำแนะนำสำหรับห้องพัก (เช่น จะหารหัส WiFi ได้ที่ไหน)
- ถามว่าพวกเขามีคำถามอะไรไหมและให้คำตอบ
- ถามว่าพวกเขามีรถหรือไม่และให้รายละเอียดเกี่ยวกับที่จอดรถระหว่างการเข้าพัก รวมถึงค่าใช้จ่ายถ้ามี และตัวเลือกในการชำระเงิน
- ให้คำแนะนำแขกเกี่ยวกับการเช็คเอาท์
- อวยพรให้แขกมีความสุขกับการเข้าพัก และบอกพวกเขาว่าควรทำอย่างไรหากมีคำถามเพิ่มเติม
4. เช็คลิสต์การเช็คเอาท์ของแขก
ส่วนใหญ่แล้ว แขกมักจะเช็คเอาท์ง่ายๆ ด้วยการเก็บของออกจากห้องและวางคีย์การ์ดทิ้งไว้ แต่สำหรับโรงแรมที่ต้องการให้แขกเช็คเอาท์ที่ฟร้อนโรงแรม นี่คือขั้นตอนที่ควรทำ:
- ปริ้นท์รายชื่อการเช็คเอาท์ประจำวันเพื่อให้คุณรู้ว่าห้องไหนเช็คเอาท์บ้าง
- ทักทายแขกด้วยรอยยิ้มเมื่อพวกเขาเข้ามาที่เคาน์เตอร์ต้อนรับ
- ถามชื่อในการจองและเปิดข้อมูลในระบบจัดการโรงแรมของคุณ
- ชำระค่าใช้จ่ายที่ค้างอยู่ เช่น รูมเซอร์วิสและค่าจอดรถ
- สอบถามว่ามีปัญหาใดๆ กับห้องพักที่คุณควรทราบหรือไม่ เช่น งานซ่อมบำรุงที่ต้องแก้ไข
- เช็คเอาท์แขกออกจากระบบ
- ถามว่าพวกเขาต้องการฝากกระเป๋าไว้ตลอดวันหรือไม่ หรือมีสิ่งอื่นใดที่คุณสามารถช่วยได้ก่อนที่พวกเขาจะไป เช่น เส้นทาง
- แจ้งแม่บ้านว่าห้องว่างและพร้อมสำหรับการทำความสะอาด
- ดำเนินการงานซ่อมบำรุงใดๆ สำหรับห้องที่ว่าง
- เช็คว่าแขกทั้งหมดออกจากห้องตามเวลาเช็คเอาท์ โทรไปยังห้องเพื่อตรวจสอบตามความจำเป็น
5. เช็คลิสต์ล็อบบี้และพื้นที่ส่วนกลาง
แต่ละโรงแรมมีพื้นที่ส่วนกลางไม่เหมือนกัน เช็คลิสต์ของคุณก็เลยอาจต้องปรับไปตามสิ่งที่มีในโรงแรม ไม่ว่าจะเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกหรือลักษณะพื้นที่ต่างๆ อย่างไรก็ตาม คุณสามารถใช้เช็คลิสต์ล็อบบี้และพื้นที่ส่วนกลางนี้เป็นแนวทางได้
- เช็คพื้นที่ส่วนกลางสำหรับขยะ ของส่วนตัว หนังสือพิมพ์เก่า หรือสิ่งของที่ไม่อยู่ในตำแหน่งที่ควรอยู่
- รายงานปัญหาที่ต้องแก้ไขไปยังฝ่ายซ่อมบำรุงทันที
- ปลดล็อค/เปิดพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมดตามเวลาที่กำหนด
- เปิดไฟ เพลง และ/หรือโทรทัศน์ทั้งหมด
- อัปเดตข้อมูลประจำวันบนบอร์ด เช่น รายงานสภาพอากาศและกิจกรรม
- วางหนังสือพิมพ์ประจำวัน
- เช็คและเติมเครื่องจ่ายน้ำและสถานีชาและกาแฟถ้ามี
- รดน้ำต้นไม้ถ้ามี
- เทถังขยะ
- เช็คว่ารถเข็นกระเป๋าอยู่ในที่ที่ถูกต้อง ถ้ามี
- จัดเรียงและเติมแผ่นพับท่องเที่ยวตามที่ต้องการ
- เมื่อสิ้นสุดวัน ปิดไฟ เพลง โทรทัศน์
- ล็อคพื้นที่ที่ไม่เปิดให้แขกใช้งานในช่วงกลางคืน
6. เช็คลิสต์ภายนอกโรงแรมและทางเข้า
ภายนอกของโรงแรมและทางเข้าต้องได้รับการดูแลให้สะอาดอยู่เสมอและดูน่าเข้าพักสำหรับแขก บ่อยครั้งที่พวกเขาเดินทางมาไกลและตั้งตารอที่จะเห็นโรงแรมที่สว่างและสะอาดรอพวกเขาอยู่ และความประทับใจแรกของที่พักนี้จะมีบทบาทในประสบการณ์โดยรวมของพวกเขา
การใช้เช็คลิสต์สามารถช่วยให้มั่นใจได้ว่าหน้าที่พื้นฐานได้รับการดำเนินการทั้งรายวันหรือรายสัปดาห์เพื่อรักษาสภาพภายนอกและทางเข้าให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์
- ติดตั้งป้าย เช็คว่าสะอาดและอยู่ในสภาพดี (ไม่มีตัวอักษรลอกหรือรอยสกปรก)
- เช็คว่าไฟทั้งหมดทำงานอย่างถูกต้อง
- กวาดหรือดูดฝุ่นพื้นทุกวัน
- ถูพื้นภายในทุกวัน
- เช็ดรอยนิ้วมือออกจากกระจกหน้าต่าง/ประตู
- ฆ่าเชื้อที่มือจับประตูและพื้นที่ที่มีการสัมผัสบ่อย
- รดน้ำและดูต้นไม้
- เช็คว่าทางออกฉุกเฉินและทางหนีไฟมีการทำเครื่องหมายอย่างชัดเจน
7. เช็คลิสต์ห้องน้ำล็อบบี้โรงแรม
ห้องน้ำในล็อบบี้เป็นจุดที่มีคนใช้บริการเยอะที่สุดแห่งหนึ่งของโรงแรม แขกหลายคนมักต้องเข้าห้องน้ำทันทีที่มาถึง หรืออาจแวะใช้ระหว่างรอเพื่อนหรือคนในกรุ๊ปเตรียมตัว
พนักงานจึงควรใส่ใจดูแลพื้นที่ส่วนนี้เป็นพิเศษ เพื่อให้มั่นใจว่าห้องน้ำยังคงสะอาดและได้มาตรฐานสูงตามภาพลักษณ์ของโรงแรม
- ทำความสะอาดห้องน้ำอย่างน้อยวันละครั้ง
- ตรวจสอบปริมาณกระดาษชำระ
- เช็ดอ่างล้างมือและเคาน์เตอร์
- เติมสบู่และกระดาษเช็ดมือตามที่จำเป็น
- กวาดและถูพื้นทุกวัน
- เช็คว่าไฟทั้งหมดทำงานได้ปกติดี
- ตรวจสอบเครื่องเป่ามืออัตโนมัติ เครื่องจ่ายสบู่ ฯลฯ ทำงานได้เต็มที่
- ใช้น้ำยาเช็ดกระจกกับกระจก
- เทถังขยะ
- ฆ่าเชื้อที่มือจับประตูและพื้นที่ที่มีการสัมผัสบ่อย
เคล็ดลับปรับปรุงทำงานของแผนกฟร้อนโรงแรม
การพัฒนางานแผนกต้อนรับส่วนหน้าควรเป็นเป้าหมายที่ต้องทำอย่างต่อเนื่องสำหรับพนักงานต้อนรับทุกคน เนื่องจากมีหน้าที่และความรับผิดชอบมากมาย จึงมีหลายวิธีที่จะช่วยพัฒนางานฟร้อนโรงแรมให้ดีขึ้น บางอย่างสามารถนำไปใช้ได้ทันที ในขณะที่บางอย่างต้องค่อยๆ พัฒนาอย่างต่อเนื่องในระยะยาว
การฝึกอบรม
- จัดอบรมพนักงานแผนกต้อนรับส่วนหน้าอย่างครบถ้วน พร้อมส่งเสริมการพัฒนาวิชาชีพอย่างต่อเนื่อง ทั้งการอบรมแบบพบหน้าและคอร์สเกี่ยวกับฟร้อนโรงแรมออนไลน์เพื่อยกระดับคุณภาพการบริการ
- อัปเดตข้อมูลให้พนักงานอยู่เสมอ ให้ทีมงานรับทราบปัญหาที่กำลังเกิดขึ้น และเปิดช่องทางการสื่อสารให้พนักงานสามารถถามคำถามและให้ข้อเสนอแนะได้ตลอดเวลา
- สอนพนักงานให้ใส่ใจแขกที่อยู่ตรงหน้าเป็นอันดับแรก และชี้แจงให้ทุกคนทราบว่างานใดสำคัญที่สุดและควรจัดลำดับการทำงานอย่างไรเพื่อบริการได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
- หมั่นสำรวจแหล่งท่องเที่ยวและบริการในท้องถิ่น แล้วนำความรู้มาถ่ายทอดให้พนักงาน
- เข้าร่วมงานสัมมนาด้านโรงแรมและการบริการ สังเกตบริการในโรงแรมคู่แข่งเพื่อนำมาปรับใช้กับที่ของเรา
การรับฟังความคิดเห็น
- พยายามเข้าใจความต้องการและจุดที่แขกมักไม่พอใจ เพื่อให้บริการได้ตรงใจมากขึ้น
- รวบรวมความคิดเห็นของแขก ทั้งข้อติชมที่ดีและไม่ดี ทั้งแบบพูดคุยโดยตรงและจากรีวิวออนไลน์ แล้วนำมาปรับปรุงการบริการในทุกด้าน
- พนักงานคือทรัพยากรที่มีคุณค่า อย่าลืมสอบถามความคิดเห็นจากพวกเขา บางคนอาจเคยทำงานที่อื่นมาก่อนและมีวิธีการทำงานที่น่าสนใจซึ่งอาจเหมาะกับโรงแรมของเราด้วย
กระบวนการทำงาน
- วางแนวทางปฏิบัติงานเป็นลำดับขั้นที่ชัดเจนสำหรับทุกหน้าที่ในแผนกบริการส่วนหน้า และดูแลให้พนักงานทุกคนรู้ว่าจะหาข้อมูลเหล่านี้ได้ที่ไหน ครอบคลุมตั้งแต่การเลือกห้องและการทำคีย์การ์ด ไปจนถึงการทักทายแขกและขั้นตอนการเช็คอิน
- จัดทำเช็คลิสต์ประจำวันสำหรับพนักงาน เพื่อตรวจสอบว่าทุกงานได้รับการดูแลอย่างครบถ้วน และเว้นพื้นที่สำหรับบันทึกในแต่ละหน้าเพื่อช่วยในการส่งมอบงานให้กะถัดไป
- คนในวงการโรงแรมย่อมรู้ดีว่าคืนวันศุกร์และเช้าวันอาทิตย์มักวุ่นวายที่สุดในสัปดาห์ และช่วงวันหยุดสำคัญยิ่งเพิ่มความกดดันให้ทุกฝ่าย ควรจัดตารางพนักงานโดยพิจารณาจากสถิติการเช็คอิน/เช็คเอาท์ และแนวโน้มในอดีตของช่วงเวลานั้นๆ เพื่อให้มีพนักงานเพียงพอดูแลแขกและแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เทคโนโลยี
- ปรับการทำงานของฟร้อนโรงแรมให้คล่องตัวยิ่งขึ้นด้วยการใช้ซอฟต์แวร์และเทคโนโลยีสำหรับโรงแรมโดยเฉพาะ เช่น ระบบจัดการโรงแรม (PMS) ที่มีฟีเจอร์สำหรับแผนกต้อนรับส่วนหน้า
- นำระบบอัตโนมัติมาใช้เพื่อประหยัดเวลาและลดข้อผิดพลาดจากมนุษย์ เช่น ระบบจัดการช่องทางการขาย(channel manager) ที่อัปเดตห้องว่างในทุกเว็บไซต์จองที่พักโดยอัตโนมัติทันทีที่มีการจองใหม่
แล้วเทคโนโลยีที่ดีที่สุดสำหรับแผนกต้อนรับส่วนหน้าคืออะไร? คำตอบสำหรับเจ้าของโรงแรมอิสระหลายพันแห่งทั่วโลกคือ Little Hotelier
By Dean Elphick
คณบดีเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดเนื้อหาอาวุโสของ Little Hotelier ซึ่งเป็นโซลูชันซอฟต์แวร์แบบ All-in-One ที่สร้างขึ้นเพื่อให้ชีวิตของผู้ให้บริการที่พักขนาดเล็กง่ายขึ้น คณบดีได้สร้างการเขียนและสร้างเนื้อหาความหลงใหลของเขาที่มีต่อชีวิตการทำงานทั้งหมดของเขาซึ่งรวมถึงกว่าหกปีที่ Little Hotelier ผ่านเนื้อหาคณบดีมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้การศึกษาแรงบันดาลใจความช่วยเหลือและในที่สุดความคุ้มค่าสำหรับธุรกิจที่พักขนาดเล็กที่ต้องการปรับปรุงวิธีการดำเนินงานของพวกเขา (และใช้ชีวิต)
Table of contents
Craig Fisher,
ผู้จัดการบริษัท
Sun Worship Eco Villas