ประเภทห้องพักโรงแรม คืออะไร?

ห้องพัก ถือเป็นหน้าด่านสร้างแรงดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมที่พักของคุณ พวกเขาต้องการรู้รายละเอียดที่ชัดเจนว่าพวกเขากำลังจองที่พักแบบไหนอยู่ และห้องพักโรงแรม สามารถแบ่งได้หลายประเภท อิงได้จากขนาดห้อง ผังห้อง จำนวนเตียง หรือบริการพิเศษ ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะอธิบายแต่ละห้องของคุณอย่างไร และการให้คำจำกัดประเภทห้องพักนี่แหละ จะส่งผลต่อประเภทของแขกที่จะเข้าชมห้องพักและเลือกจองในที่สุด

เหตุผลที่โรงแรมควรจัดประเภทห้องพัก

หากคุณมีประเภทห้องพักแค่ 1-2 แบบในที่พักของคุณ ก็เปรียบเสมือนคุณจำกัดประเภทของแขกด้วยเช่นกัน ผู้บริหารโรงแรมที่เก่ง จะมีข้อเสนอห้องพักหลายๆ ประเภทเพื่อดึงดูดความสนใจผู้ที่มีโอกาสเป็นแขกได้มากขึ้น เรียกว่าเป็นเส้นทางสู่ความสำเร็จรูปแบบหนึ่งก็ว่าได้

จำนวนผู้ที่มีโอกาสเป็นแขกมากขึ้น = จำนวนผู้ที่มีโอกาสจองห้องพักมากขึ้น แลด้วยประเภทห้องพักที่หลากหลาย คุณจึงมีโอกาส Upsell ต่อยอดได้อีกมากมาย และข้อเสนอที่มากขึ้น จะช่วยให้คุณใช้กลยุทธ์ตั้งราคาอย่างสร้างสรรค์และเหมาะสม โดยรวมแล้วการมีห้องพักที่หลากหลายอาจหมายถึงเงินในกระเป๋าของคุณเพิ่มมากขึ้นไปด้วย

5 ประเภทห้องพักแบ่งตามเตียงนอน

ประเภทห้องพักเบสิกที่ทุกโรงแรมมี คือ การจัดประเภทห้องพักตามรูปแบบที่นอน มาดูห้องพัก 5 ประเภทที่แบ่งตามรูปแบบเตียงในโรงแรมกัน

ห้องเดี่ยว (Single Room)

ความหมายก็ตามชื่อเลย 1 ห้องพักพร้อมกับเตียงเดี่ยว

ห้องเตียงคู่ (Twin Room)

ห้องเตียงคู่ คือ มีเตียงเดี่ยว 2 เตียงใน 1 ห้อง และส่วนใหญ่จะสามารถขยับมาชิดกันได้เพื่อรองรับแขกที่มาพร้อมกับคู่รัก

ห้อง Double Room

ห้อง Double room คือห้องเตียงเดี่ยวขนาดใหญ่ 1 เตียง สามารถนอนได้ 2 คน เหมาะสำหรับรองรับคู่รักโดยเฉพาะ ส่วนใหญ่จะมีขนาด Queen Size แต่ถ้าเป็นโรงแรมหรูอาจจะใช้เตียง King Size เลยก็ได้

ห้องสามเตียง (Triple Room)

เป็นห้องนอนสำหรับแขก 3 คน ที่อาจจะมีเตียงเดี่ยว 3 เตียง หรือ เตียงควีนไซซ์ 1 เตียงสำหรับนอน 2 คน และเตียงเดี่ยว 1 เตียงก็ได้

ห้องสี่เตียง (Quad Room)

ห้องสี่เตียง เน้นรับแขกที่มากับครอบครัว ส่วนใหญ่จะมีเตียงใหญ่ (ควีนไซซ์หรือคิงไซซ์) 1 เตียง และเตียงเดี่ยว 2 เตียง หรือบางครั้งก็จัดเตียงสองชั้น และยังมีบางที่ที่ใช้เตียงควีนไซซ์คู่ 2 เตียง แต่ก็พบได้น้อยมาก

วิธีแบ่งประเภทห้องพักโรงแรมตามผังห้อง

อีกหนึ่งวิธีแบ่งประเภทห้องพักโรงแรมจากรูปแบบของผังห้อง มีอะไรบ้าง มาดูกันเลย 

ห้องธรรมดา (Standard Room)

โดยทั่วไปแล้ว Standard Room จะเป็นห้องพักเดี่ยว มี 1 เตียงนอนพร้อมห้องน้ำในตัว (โดยปกติจะเป็นเตียงขนาดควีนไซซ์)

ห้องดีลักซ์ (Deluxe Room)

ห้องดีลักซ์ จะมีขนาดใหญ่กว่า ตกแต่งดีกว่า และอยู่ในตำแหน่งที่ดีกว่าห้องสแตนดาร์ด ในห้องสามารถจัดเตียง Double, Triple หรือ Quad ได้เลย

ห้องเอกซ์คลูซีฟ (Executive Room)

ห้องเอกซ์คลูซีฟมีขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อย (หรือที่เรียกว่า ห้องเอกซ์คลูซีฟสวีท) มักจะมีห้องนั่งเล่นหรือห้องรับแขกแยกจากห้องนอน

ห้องที่มีประตูเชื่อมต่อกัน (Connecting Rooms)

ส่วนใหญ่แล้วครอบครัว กลุ่มเพื่อน หรือ กลุ่มนักท่องเที่ยวใหญ่ๆ มีกจะจองห้องพักที่มีประตูเชื่อมต่อกัน – หมายถึงห้องแยกกันแต่มีประตูที่สามารถเปิดเชื่อมไปยังอีกห้องหนึ่งได้ แขกสามารถใช้พื้นที่เหมือนแยกเป็น 2 ห้อง หรือ 1 ห้องใหญ่ที่เป็นสัดส่วนได้เลย

ห้องสวีท (Suite)

ห้องสวีทจะมีลักษณะผสมกันระหว่างห้องพักในโรงแรมกับอพาร์ตเมนต์ โดยมักจะมีพื้นที่นั่งเล่น 1 ห้องนอน (หรือห้องนอนหลายห้อง) แยกเป็นสัดส่วน และห้องครัวขนาดเล็ก ห้องสวีทมีให้เลือกหลายรูปแบบ: จูเนียร์, เพรสซิเดนเชียล, เพนต์เฮาส์, ไบรดัล, ฮันนีมูน และอื่นๆ

ห้องพักพิเศษสำหรับผู้พิการ (Accessible Room)

Accessible room ออกแบบมาสำหรับผู้พิการโดยเฉพาะ มักจะอยู่ชั้นล่างของโรงแรม มีห้องน้ำขนาดใหญ่ ความสูงเตียงระดับต่ำ และราวจับจำนวนมาก มีกฎหมายในหลายๆ ประเทศที่กำหนดให้โรงแรมระบุจำนวนห้องพักขั้นต่ำประเภทนี้ด้วย

เคล็ดลับการยกระดับห้องพักโรงแรมให้เกิดประโยชน์สูงสุด

เรียนรู้วิธีจัดประเภทห้องพักโรงแรมกันไปเรียบร้อยแล้ว มีเพิ่มระดับให้แอดวานซ์ ด้วยวิธีการเพิ่มเสน่ห์ห้องพักให้น่าประทับใจมากขึ้น เรารวบรวม 5 วิธีง่ายๆ ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับห้องพักในโรงแรมคุณ

ใช้พื้นที่ผนังห้อง

เพราะห้องพักในโรงแรมส่วนใหญ่จะมีพื้นที่จำกัด เพิ่มประโยชน์ของผนังเปล่าๆ ด้วยชั้นวางติดผนัง ติดตะขอแขวน และสิ่งของที่แบบพับเก็บได้ เช่น โต๊ะและโต๊ะรีดผ้า

จัดที่วางกระเป๋าเดินทาง

จัดที่วางกระเป๋าเดินทาง เพื่อเพิ่มพื้นที่ห้อง อีกทั้งยังช่วยให้แขกไม่ต้องวางเสื้อผ้าลงบนผ้าปูพรมอีกด้วย

ติดกระจก

การติดกระจกในตำแหน่งที่ถูกต้องรอบๆ ห้องพักในโรงแรมของคุณ สามารถสร้างภาพลวงตาของมีพื้นที่เพิ่มขึ้นได้ ตัวอย่างเช่น ตู้เสื้อผ้าติดกระจกสามารถทำให้แขกรู้สึกเหมือนได้ห้องพักเพิ่มสองเท่าของราคาที่จ่ายไป!

ตกแต่งสไตล์มินิมอล

Less is more คือคอนเซ็ปต์ที่เหมาะสำหรับการตกแต่งห้องพัก เป็นเหตุผลที่โรงแรมใหญ่ๆ หลายแห่งเลือกตกแต่งห้องสไตล์มินิมอล – เพราะความน้อยแต่ลงตัว จะทำให้รู้สึกว่าพื้นที่ห้องพักดูกว้างและใหญ่ขึ้น เพราะฉะนั้น เลือกการตกแต่งที่มีทั้งรูปแบบและฟังก์ชันดีๆ 

เก็บสายเคเบิลให้เรียบร้อย

ไหนๆ ก็พูดถึง Minimal แล้ว หากเจอสายไฟหลวมๆ ไม่เป็นที่ จะทำให้ห้องดูรกแทน แนะนำว่าควรติดตั้งสายไฟสายเคเบิลต่างๆ ไว้ในผนังหากเป็นไปได้ ซ่อนไว้ในที่หุ้มสายเคเบิลและท่อเปล่า

ไม่ว่าคุณจะมีจำนวนห้องพักและประเภทห้องมากน้อยขนาดไหน หรือ โปรโมทกับเว็บไซต์จองห้องพักออนไลน์กี่ช่องทาง Little Hotelier คือโซลูชันแบบครบวงจรที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารโรงแรมของคุณให้เกิดประโยชน์สูงสุด

Little Hotelier เป็นระบบจัดการโรงแรม all-in-one สร้างขึ้นมาเพื่อช่วยดูแลงานบริหารสำหรับธุรกิจที่พักขนาดเล็กโดยเฉพาะ แน่นอนว่าสามารถช่วยสร้างประสบการณ์ในห้องที่ถูกออกแบบมาอย่างดี ดึงดูดกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น และขยายรายได้ให้สูงขึ้นในที่สุด

  • จัดการห้องพักทั้งหมดจากหลายๆ เว็บไซต์ในที่เดียว: Little Hotelier ทำงานร่วมกับเว็บไซต์ OTA กว่า 450+ แพลตฟอร์ม เปรียบเสมือนศูนย์ควบคุมที่รวบข้อมูลรายชื่อและข้อมูลที่พักทุกแพลตฟอร์มมาไว้ในที่เดียว ทำให้คุณสามารถอัปเดตราคา ห้องว่าง ประเภทห้องได้หลายๆ เว็บไซต์เพียงไม่กี่คลิก!
  • ระบบงานหน้าเคาน์เตอร์ที่รวดเร็ว: ด้วยระบบแอดมินอัตโนมัติ ฟีเจอร์สำหรับแผนกหน้าเคาน์เตอร์ของเรา สามารถช่วยประหยัดเวลาสูงสุดถึง 35 นาทีต่อการจอง!
  • รับการจองตรงมากขึ้น: หาเงินเข้ากระเป๋าแบบเต็มหน่วยด้วยระบบจองห้องพัก Little Hotelier ที่จะช่วยให้คุณวิ่งหนีค่าคอมมิชชันจากเว็บไซต์ OTA ได้ง่ายๆ ผ่านการจองโดยตรงผ่านเว็บไซต์โรงแรมของคุณ

By Dean Elphick

คณบดีเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดเนื้อหาอาวุโสของ Little Hotelier ซึ่งเป็นโซลูชันซอฟต์แวร์แบบ All-in-One ที่สร้างขึ้นเพื่อให้ชีวิตของผู้ให้บริการที่พักขนาดเล็กง่ายขึ้น คณบดีได้สร้างการเขียนและสร้างเนื้อหาความหลงใหลของเขาที่มีต่อชีวิตการทำงานทั้งหมดของเขาซึ่งรวมถึงกว่าหกปีที่ Little Hotelier ผ่านเนื้อหาคณบดีมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้การศึกษาแรงบันดาลใจความช่วยเหลือและในที่สุดความคุ้มค่าสำหรับธุรกิจที่พักขนาดเล็กที่ต้องการปรับปรุงวิธีการดำเนินงานของพวกเขา (และใช้ชีวิต)