นี่เป็นอีกครั้งที่เราได้มีโอกาสพูดคุยกับผู้ประกอบโฮสเทลในกรุงเทพฯ จากการแนะนำของโฮมเทล ณ ตะนาว 1969 สู่ “Double B Hostel” ที่พักอบอุ่นที่ตั้งอยู่ในใจกลางย่านเก่าเสาชิงช้า เกิดจากการรีโนเวทตึกแถวเก่าของคุณเบนซ์-ปริญ จิวารุ่งเรือง เจ้าของโฮสเทลและคาเฟ่ Bite and Bond ที่พูดแล้วทุกต้องรู้จัก

“แรงบันดาลใจในการทำโฮสเทลของเบนซ์ เกิดจากที่เบนซ์เคยทำงานเกี่ยวกับการท่องเที่ยวมาก่อน แล้วมันทำให้เบนซ์รู้ว่าเราชอบงานบริการมากๆ รักที่จะได้ช่วยเหลือคนอื่น ได้พูดคุยกับชาวต่างชาติ จนวันนึงได้ตัดสินใจลาออก แล้วมาทำในสิ่งที่ตัวเองรักดีกว่า”

จากประสบการณ์ของการทำงานด้านท่องเที่ยวไปสู่เจ้าของธุรกิจ Double B Hostel คุณเบนซ์ตั้งใจสร้างที่พักในแนวคิดที่ยั่งยืนที่ผสมผสานองค์ประกอบของความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมไม่ว่าจะเป็นการใช้ช่องแสงธรรมชาติ ช่องลมที่หมุนเวียนในอาคาร นอกจากนี้ยังรับแรงบันดาลใจจากโลกอันน่าหลงใหลของแฮร์รี่ พอตเตอร์ และผสมผสานกับสุนทรียศาสตร์ไม้แบบญี่ปุ่นและที่สำคัญตรงตามหลักฮวงจุ้ย ทุกอย่างทุกโค้งต้องมน ไม่มีมุมแหลม เหล่านี้รวมเป็นเอกลักษณ์ที่แขกจะได้เข้ามาสัมผัสประสบการณ์การเข้าพักที่ไม่เหมือนใคร

การบริการที่ดีต้องครอบคลุมทั้งออนไลน์และออฟไลน์

Double B Hostel เปิดดำเนินการมาเกือบ 2 ปีแล้ว ทุกๆวันคือการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆสำหรับคุณเบนซ์และทีมงาน โฮสเทลแห่งนี้ต้อนรับลูกค้าจากหลากหลายประเทศซึ่งแต่ละคนมีความต้องการและความคาดหวังที่แตกต่างกัน 

“เบนซ์จะบอกน้องๆทีมงานเสมอว่า ลูกค้าทุกท่านที่เข้าพักเรา เค้าเปรียบเสมือนญาติหรือพี่น้องเรา งั้นเวลาเค้ามาเยี่ยมบ้านเรา มาพักบ้านเรา เราต้องดูแลเค้าให้ดี กินอิ่ม นอนหลับ กลับบ้านพร้อมกับรอยยิ้ม feedback จากลูกค้าที่เข้าพักคือกำลังใจ คุ้มกับความเหนื่อยที่เราลงแรงกันเต็มที่ ดีใจที่ลูกค้าทุกท่านจะชมพวกเราเสมอก่อนกลับบ้านกัน มันดีต่อใจมากจริงๆค่ะ”

นอกจากความใส่ใจในหน้างานแล้วคุณเบนซ์ยังให้ความสำคัญกับการกระจายการขายห้องพักออนไลน์เป็นอย่างมาก เพื่อให้ได้มาซึ่งลูกค้าตรงเป้าหมายและกำไรสูงสุด

“เรามีห้องพักหลากหลายประเภท รวมถึงเตียงสองชั้นในหอพัก เตียงสองชั้นส่วนตัว และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งทำให้ยากต่อการกำหนดกลยุทธ์การจัดจำหน่าย เราเชื่อมต่อและขายผ่านช่องทาง OTA มากกว่า 10 ช่องทาง ซึ่งต้องใช้เวลาจำนวนมากสำหรับพนักงานของเราในการจัดการในแต่ละวัน”

Little Hotelier คือตัวช่วยเสริมพลังโฮสเทลที่มาพร้อมกับความเรียบง่าย

“ ในตอนแรกพนักงานของเราจัดการทุกอย่างด้วยตนเอง แต่ความซับซ้อนที่เพิ่มขึ้นจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีเข้าช่วย เราได้ลองใช้ระบบเจ้าหนึ่ง แต่พบว่ามีฟังก์ชันค่อนข้างซับซ้อนและไม่ได้ใช้หลายส่วน อีกการซัพพอร์ตนี้หายไปพร้อมกับการจากไปเซลคนไทยจึงปรึกษาได้ยาก เราจึงหันไปหาทางเลือกอื่น ซึ่งเพื่อนที่ทำโฮสเทลที่แนะนำ Little Hotelier ซึ่งเราพบว่าระบบตอบโจทย์ ใช้งานง่าย ราคาสมเหตุสมผล และมีซัพพอร์ตที่เป็นกันเองเสมอ ”

เมื่อถามคุณเบนซ์ว่าอะไรคือส่วนที่ชอบที่สุด คุณเบนซ์บอกเราว่า

 “ การที่เราสามารถเปิดปิด Allotment และการปรับเรทราคาอย่างง่ายดายด้วย Little Hotelier คือหนึ่งในเคล็ดลับความสำเร็จของการขายห้องพักขายเรา ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหนก็สามารถบริหารและดูรายละเอียดการจองแบบ real time ได้ทั้งบนมือถือ แท็บเลต และคอมพิวเตอร์ “

“ ปัจจุบันเราได้ลูกค้าต่างชาติกับคนไทยสัดส่วนครึ่งๆ โดยต่างชาติส่วนใหญ่จะมาจากช่องทาง OTA อย่าง Booking.com Expedia น่าแปลกใจที่ว่าเรามองเห็นการจองตรงเกือบ 50% จากคนไทย ซึ่งเบนซ์ว่าเทรนด์ Staycation ยังฮิตอยู่ อีกเหตุผลอาจเป็นเพราะเราให้บริการ Bite and Bond Café ที่ลูกค้าสามารถมาพักผ่อน Explore เมือง พร้อมกับทานกาแฟอร่อยๆของเราได้อีกด้วย”

เช่นเดียวกับเสียงของผู้ใช้ Little Hotelier คนอื่นๆที่บอกต่อ มีอีกหลายเหตุผลที่ Double B Hostel เลือกใช้ระบบ All-in-one ในการจัดการการขายห้องพักอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ

  • การซัพพอร์ตที่ยอดเยี่ยมด้วยใจบริการ: ทีมงาน Little Hotelier ขับเคลื่อนโดยแนวทางการบริการที่เอาใจใส่ มอบความช่วยเหลือตลอดให้กับที่พัก
  • ใช้งานง่าย: ระบบที่เข้าใจง่ายช่วยให้พนักงานของเธอจัดการการจัดสรรห้องและราคาได้รวดเร็วประหยัดเวลา ทำให้การดำเนินงานในแต่ละวันง่ายขึ้น 
  • รูปแบบราคาที่ให้บริการแบบยืดหยุ่น: Little Hotelier คิดค่าบริการที่สอดคล้องกับความต้องการของคุณเบนซ์ ซึ่งสมเหตุสมผลกับการตั้งราคาห้องพัก จึงทำให้ Double B Hostel คุ้มค่าที่สุด
  • ตัวระบบและการเชื่อมต่อคุณภาพสูง: Little Hotelier มีการพัฒนาระบบอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีคุณภาพสูงที่สุดในกลุ่มผู้ให้บริการเทคโนโลยีที่พัก พร้อมกับการเชื่อมต่อไปยังเทคโนโลยีพาร์ทเนอร์ที่ราบรื่น จึงอุ่นใจได้ว่าบุ้คกิ้งทุกที่จะไม่ทับซ้อน ไม่ตกหล่น
  • แอปมือถือ: ส่วนที่มีบทบาทสำคัญสำหรับคุณเบนซ์และพนักงานโฮสเทล เพราะช่วยให้สามารถควบคุมแบบเรียลไทม์ผ่าน iPad โดยผู้บริหารสามารถติดตามผลลัพธ์ได้ตลอดเวลาบน Dashboard ที่สรุปการเช็คอิน เช็คเอาท์ การเข้าพัก การยกเลิก และการจองใหม่ในแต่ละวัน

ขอบคุณคุณเบนซ์และ “Double B Hostel” ที่มาร่วมแชร์ประสบกาณ์ที่น่าสนใจกับเรา เราหวังว่าเรื่องราวนี้จะเป็นตัวอย่างให้กับอีกหลายผู้ประกอบการรายย่อยที่อยากพัฒนาหรือเพิ่มศํกยภาพการบริหารและขายห้องพักทางออนไลน์ให้ดียิ่งขึ้น Little Hotelier ขอเป็นส่วนหนึ่งที่สนับสนุนทั้งระบบที่ทันสมัยและความรู้เทรนด์ต่างๆให้ผู้บริการโฮสเทล โฮมสเตย์ วิลล่าและที่พักอีกหลากหลายประเภทในประเทศไทย

แบ่งปันกับชุมชนของคุณ