ข้อกำหนดและเงื่อนไขฉบับนี้ใช้กับบริการ SiteMinder Pay ที่ให้บริการโดย SiteMinder

1. คำนิยามและการตีความ

1.1   คำนิยาม

ในข้อกำหนดและเงื่อนไขเหล่านี้ เว้นแต่บริบทจะกำหนดให้เป็นอย่างอื่น:

บัญชี หมายถึง บัญชีบนแพลตฟอร์มบริการใดๆ ของ Stripe ที่เปิดโดย SiteMinder ในนามของลูกค้า

ข้อตกลง หมายถึง ข้อตกลงที่ทำขึ้นระหว่าง SiteMinder กับลูกค้า อันประกอบด้วยแบบฟอร์มการลงทะเบียน ข้อกำหนดและเงื่อนไข ตลอดจนข้อตกลงสำหรับบริการของ Stripe

บัญชีธนาคาร หมายถึง บัญชีที่ลูกค้าเป็นผู้ถือกับธนาคารหรือสถาบันการเงินที่รับเงินฝากโดยได้รับอนุญาต

วันทำการ หมายถึง วันที่ไม่ใช่วันเสาร์ วันอาทิตย์ หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์ในสถานที่ซึ่งต้องปฏิบัติตามพันธกรณีหรือต้องได้รับหนังสือแจ้งให้ทราบ

การปฏิเสธการชำระเงิน หมายถึง การปฏิเสธการชำระเงิน การคืนเงิน การให้ส่วนลด การจ่ายเงินกลับ และเงินที่เรียกชำระ ค่าธรรมเนียม ค่าปรับ หรือเบี้ยปรับที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเกิดขึ้นหรือเรียกเก็บจากลูกค้าหรือ SiteMinder อันเป็นผลมาจากธุรกรรม การใช้งานบริการ หรือกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับบัญชีทั้งหมด

วันที่เริ่มต้น หมายถึง วันที่เกิดขึ้นก่อนระหว่าง:

  1. วันที่ลูกค้าส่งแบบฟอร์มการลงทะเบียนที่กรอกข้อมูลเรียบร้อยให้ SiteMinder รวมถึงยอมรับทั้งข้อกำหนดและเงื่อนไขและข้อตกลงสำหรับบริการของ Stripe
  2. วันแรกที่ลูกค้าใช้บริการ

ข้อมูลลับเฉพาะของคู่สัญญา หมายถึง ข้อมูลใดๆ ที่มีการทำเครื่องหมายว่าลับเฉพาะ หรือมีลักษณะที่คู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งทราบหรือควรทราบว่าเป็นข้อมูลลับเฉพาะ (ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลที่อยู่ในรูปแบบใดและได้รับข้อมูลนั้นมาเมื่อใดก็ตาม) โดยรวมถึงความลับทางการค้า ความรู้ด้านเทคนิค แนวคิด การออกแบบ แผนการ แบบอย่าง ขั้นตอน วิธีการ เทคนิค ความรู้เชิงปฏิบัติการ นวัตกรรม ความคิด กระบวนการ ข้อมูลวิจัย ข้อมูลการเงิน ฐานข้อมูล ข้อมูลบุคลากร ซอฟต์แวร์และโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ข้อมูลลูกค้าและซัพพลายเออร์ ข้อมูลการติดต่อและจดหมาย ตลอดจนเอกสารคำอธิบายทุกประเภท รวมถึงสำเนาหรือส่วนที่คัดลอกมาทั้งหมดของข้อมูลลักษณะเดียวกันอันเกี่ยวข้องกับงานหรือธุรกิจของคู่สัญญา อย่างไรก็ตาม ข้อมูลลับเฉพาะไม่ได้หมายรวมถึงข้อมูลใดๆ ดังกล่าวข้างต้นในขอบเขตที่ข้อมูลนั้นเป็นสาธารณสมบัติซึ่งไม่ใช่การได้มาจากการละเมิดข้อตกลงของคู่สัญญาหรืออยู่ในขอบเขตที่ผู้รับครอบครองข้อมูลนั้นอยู่แล้วโดยไม่ได้เป็นผลมาจากการล่วงละเมิดความลับ

การสูญเสียที่เป็นผลสืบเนื่อง หมายถึง

  1. การสูญเสียรายได้ ผลกำไร หรือเงินออม (ที่เกิดขึ้นจริงหรือที่คาดการณ์)
  2. การสูญเสียสัญญาหรือโอกาส
  3. การสูญเสียหรือความเสียหายต่อค่าความนิยมหรือชื่อเสียง
  4. การสูญเสียที่เกิดจากความเสียหายต่ออันดับความน่าเชื่อถือหรือต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้น
  5. การสูญเสียข้อมูลหรือความเสียหายของข้อมูล
  6. การสูญเสียที่เกิดจากการหยุดชะงักของธุรกิจ หรือการสูญเสียหรือความเสียหายอันเป็นผลจากความเสียเวลาในการจัดการ และ
  7. การสูญเสียหรือความเสียหายโดยอ้อม พิเศษ ทางเศรษฐกิจ โดยบังเอิญ หรือสืบเนื่องใดๆ ไม่ว่าจะเกิดขึ้นอย่างไร ไม่ว่าจะอยู่ในสัญญา (รวมถึงภายใต้การชดใช้ค่าสินไหมทดแทนใดๆ) ในการละเมิด (รวมถึงความประมาทเลินเล่อ) ในความเสมอภาค ภายใต้ข้อกำหนดของกฎหมายใดๆ หรืออื่นๆ หรือไม่ก็ตาม

การควบคุม ที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงาน หมายถึง ความสามารถในการกำหนดผลลัพธ์ของการตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายทางการเงินหรือการดำเนินงานของหน่วยงาน

ลูกค้า หมายถึง บุคคล หน่วยงาน หรือองค์กรที่ระบุในแบบฟอร์มลงทะเบียน

ผู้ดูแลระบบของลูกค้า หมายถึง บุคคลที่จัดการสิทธิ์การเข้าใช้งานบริการในนามของลูกค้า

ฮาร์ดแวร์ของลูกค้า หมายถึง ฮาร์ดแวร์ อุปกรณ์ โครงสร้างพื้นฐาน หรือระบบใดๆ ที่ใช้ในการเข้าใช้งานบริการ

ซอฟต์แวร์ของลูกค้า หมายถึง ซอฟต์แวร์ใดๆ ที่ใช้งานโดยลูกค้าในการจัดการการจองและ/หรือสิทธิ์การเข้าใช้งานบริการ รวมถึงระบบการบริหารจัดการสถานที่ให้บริการที่พักหรือระบบการจองส่วนกลางทั้งหมด แต่ไม่รวมบริการและซอฟต์แวร์อื่นใดที่จัดให้ลูกค้าโดย SiteMinder

ผู้ใช้งานของลูกค้า หมายถึง ผู้อำนวยการ เจ้าหน้าที่ พนักงาน เอเยนต์ ผู้รับเหมา หรือผู้แทนของลูกค้า รวมถึงผู้ดูแลระบบของลูกค้า

ข้อมูล หมายถึง ข้อมูล เนื้อหา หรือสารสนเทศใดๆ ที่เก็บรวบรวม ใช้งาน จัดการ แบ่งปัน เปิดเผย หรือจัดเก็บผ่านทางหรือโดยเกี่ยวข้องกับบริการ บัญชี หรือธุรกรรมทั้งหมด รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อกำหนดในการคุ้มครองข้อมูล หมายถึง กฎหมาย ข้อบังคับ พระราชบัญญัติ หรือคำสั่งใดๆ ซึ่งอาจใช้บังคับเป็นครั้งคราว อันเกี่ยวข้องกับการรวบรวม การจัดเก็บ หรือการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งรวมถึง (แต่ไม่จำกัดเพียง) Australian Privacy Act 1988 (Cth), Australian Privacy Principles, UK Data Protection Act 2018, European Union General Data Protection Regulation, Privacy and Electronic Communications (EC Directive) Regulations 2003 และ Data Protection (Processing of Sensitive Personal Data) Order 2000

ข้อบกพร่อง หมายถึง ข้อบกพร่องใด ที่ส่งผลเสียต่อการทำงานของบริการอย่างมีนัยสำคัญ

ค่าธรรมเนียม หมายถึง ค่าธรรมเนียมที่ระบุในแบบฟอร์มการลงทะเบียนหรือตามที่ SiteMinder แจ้งแก่ลูกค้าเป็นครั้งคราว

เหตุสุดวิสัย หมายถึง สิ่งใดก็ตามที่ทำให้คู่สัญญาไม่สามารถดำเนินการ หรือหน่วงเวลาการดำเนินการตามข้อผูกมัดใดๆ ภายใต้ข้อตกลงฉบับนี้ และอยู่นอกเหนือการควบคุมของฝ่ายที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งรวมถึง (แต่ไม่จำกัดเพียง):

  1. กำลังแรงธรรมชาติ (เช่น อัคคีภัย พายุ หรือการระเบิด) หรือปรากฏการณ์ธรรมชาติ
  2. การหยุดงานประท้วง การปิดโรงงาน การนัดหยุดงาน สงคราม การก่อวินาศกรรม การจลาจล การก่อการร้าย การโจมตีโดยปฏิเสธการให้บริการ การก่อการกบฏ ความวุ่นวายในบ้านเมือง ภาวะฉุกเฉินแห่งชาติ โรคระบาด การกักกันโรค การแผ่รังสี หรือการเปื้อนสารกัมมันตรังสีใดๆ;
  3. การดำเนินการหรือการไม่ดำเนินการใดๆ โดยหน่วยงานรัฐ
  4. การเปลี่ยนแปลงกฎหมาย
  5. การชำรุดเสียหายของโรงงาน เครื่องจักร อุปกรณ์ หรือโทรคมนาคม หรือการขาดแคลนแรงงาน การขนส่ง เชื้อเพลิง พลังงาน โรงงาน เครื่องจักร อุปกรณ์ หรือวัสดุ (ซึ่งรวมถึงการขาดแคลนจากแหล่งที่มาหรือซัพพลายเออร์ประจำ)
  6. การไม่สามารถให้บริการได้ของซัพพลายเออร์

การฉ้อโกงและ/หรือการฉ้อฉล หมายถึง สิ่งใดก็ตามที่เป็นไปอย่างไม่สุจริตใจ หลอกลวง ไม่ได้รับอนุญาต ผิดกฎหมาย เป็นอาชญากรรม ผิดศีลธรรม เป็นเท็จ หรือไม่ถูกต้อง

สินค้า หมายถึง สินค้าหรือบริการใดๆ ก็ตามที่ลูกค้าจำหน่ายผ่านทางบริการ

หน่วยงานรัฐ หมายถึง กลุ่ม หน่วยงาน แผนก หรือฝ่ายบริหารของรัฐบาลหรือสาธารณะ ที่จัดตั้งโดยกฎหมาย ของรัฐบาล เหนือรัฐบาล กึ่งรัฐบาล หรือตุลาการใดๆ และรวมถึงองค์กรกำกับดูแลตนเองใดๆ ที่ก่อตั้งขึ้นภายใต้บทกฎหมาย

GST หมายถึง ภาษีสินค้าและบริการ ยอดขายที่เปรียบเทียบได้ ภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือภาษีลักษณะเดียวกันใดๆ ที่เรียกเก็บจากยอดขายหรือสิ่งที่จัดหาให้ในเขตอำนาจศาลที่เกี่ยวข้อง

ผู้เข้าพัก หมายถึง ลูกค้าของลูกค้า

ข้อมูลผู้เข้าพัก หมายถึง ข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับผู้เข้าพัก

การจ่ายค่าชดเชย หมายถึง การจ่ายค่าชดเชย การปกป้อง และการรับชดใช้

เหตุล้มละลาย หมายถึง ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับคู่สัญญา ที่ซึ่ง:

  1. ผู้รับ ผู้จัดการ ทรัสตี ผู้บริหาร ผู้ควบคุมอื่นๆ หรือเจ้าหน้าที่ลักษณะเดียวกันได้รับการแต่งตั้งให้ดูแลสินทรัพย์ใดๆ หรือรับภาระของคู่สัญญา;
  2. คู่สัญญาระงับการชำระหนี้ของตน
  3. คู่สัญญาไม่สามารถชำระหนี้ของตนได้เมื่อถึงกำหนด
  4. คู่สัญญาเข้าสู่หรือตัดสินใจที่จะเข้าสู่การจัดชำระหนี้ การประนอมหนี้ หรือการตกลงใดๆ กับเจ้าหนี้
  5. คู่สัญญาหยุดการดำเนินธุรกิจ
  6. มีการดำเนินการใดๆ เพื่อแต่งตั้งผู้บริหาร
  7. มีการยื่นคำขอ คำสั่ง หรือการดำเนินการเพื่อการเลิกกิจการหรือการยุบกิจการของคู่สัญญา ที่ไม่ใช่เพื่อวัตถุประสงค์ในการรวมบริษัทหรือการฟื้นฟู หรือ
  8. คู่สัญญาได้รับการสันนิษฐานว่าล้มละลายภายใต้บทกฎหมายใดๆ ที่มีผลบังคับใช้ หรือขู่ว่าจะกระทำการใดๆ ในข้อ (a) – (g)
  9. มีการจัดทำ วางแผน หรือข่มขู่ต่อคำขอหรือกระบวนการใดๆ ในลักษณะเดียวกันหรือสอดคล้องกันในเขตอำนาจศาลอื่นใดที่มีการนำเสนอบริการหรือลูกค้ามีถิ่นที่อยู่

สิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญา หมายถึง สิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาทุกประเภท ได้แก่

  1. สิทธิบัตร ลิขสิทธิ์ สิทธิ์ในผังวงจร การออกแบบที่จดทะเบียนและไม่ได้จดทะเบียน เครื่องหมายการค้า ชื่อโดเมน ชื่อธุรกิจ และสิทธิ์ใดๆ ในการเก็บข้อมูลลับเฉพาะไว้เป็นความลับ และ
  2. การขอหรือสิทธิ์ใดๆ ในการขอจดทะเบียนสิทธิ์ใดๆ ที่อ้างถึงในย่อหน้า (a)

อัตราดอกเบี้ย หมายถึง 9% ต่อปี

การสูญเสีย หมายถึง การสูญเสีย ความเสียหาย ต้นทุน ค่าใช้จ่าย หรือการรับผิด

มัลแวร์ หมายถึง มัลแวร์ สปายแวร์ บัก ไวรัส ม้าโทรจัน หนอน รหัสอันตราย ช่องโหว่ การโจมตีระบบ หรือภัยคุกคามด้านความปลอดภัย

ผู้ให้บริการการชำระเงิน หมายถึง ธนาคาร เครือข่ายการชำระเงิน หรือสถาบันการเงินอื่นๆ ทั้งหมดที่เกี่ยวกับข้องการนำเสนอบริการหรือบริการของ Stripe

PCI DSS หมายถึง มาตรฐานความปลอดภัยข้อมูลของอุตสาหกรรมบัตรชำระเงิน (Payment Card Industry Data Security Standard) ที่ออกโดยสภาความปลอดภัยของอุตสาหกรรมบัตรชำระเงิน (Payment Card Industry Security Council) เป็นครั้งคราว โดยสามารถดูข้อมูลในส่วนนี้ได้ที่ https://www.pcisecuritystandards.org/document_library?document=pci_dss.

ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับบุคคลธรรมดาที่มีการระบุตัวหรือสามารถระบุตัวได้

นโยบายความเป็นส่วนตัว หมายถึง นโยบายความเป็นส่วนตัวของ SiteMinder ซึ่งมีรายละเอียดอยู่ที่ www.siteminder.com/legal

การประมวลผล หมายถึง การดำเนินการหรือชุดการดำเนินการ ไม่ว่าจะด้วยวิธีการแบบอัตโนมัติหรือไม่ก็ตาม เช่น การเก็บรวบรวม การบันทึก การจัดทำโครงสร้าง การจัดเก็บ การดัดแปลงหรือการเปลี่ยนแปลง การสืบค้น การศึกษาอ้างอิง การใช้งาน การจัดการ การเปิดเผยโดยการส่ง การเผยแพร่ หรือการจัดหา การปรับให้ตรงกันหรือการรวมกัน การถ่ายโอน การจำกัด การลบหรือการทำลาย

แบบฟอร์มการลงทะเบียน หมายถึง แบบฟอร์มการลงทะเบียนที่ SiteMinder จัดเตรียมให้ลูกค้าใช้ลงทะเบียนเพื่อขอรับบริการ

นิติบุคคลที่เกี่ยวข้อง ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานใดๆ หมายถึง บริษัทที่ควบคุมหน่วยงาน บริษัทที่อยู่ภายใต้การควบคุมของหน่วยงาน หรือถูกควบคุมโดยบริษัทเดียวกันกับที่ควบคุมหน่วยงาน

บริการ หมายถึง บริการการดำเนินการชำระเงินที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถรับการชำระเงินผ่านบัตรเครดิตและบัตรเดบิตจากผู้เข้าพัก ตลอดจนดำเนินการในส่วนของการปฏิเสธการชำระเงินกับผู้เข้าพักได้ด้วย

SiteMinder หมายถึง:

  1. สำหรับลูกค้าใดๆ ที่ก่อตั้งธุรกิจอยู่ในยุโรป ตะวันออกกลาง หรือแอฟริกาเป็นหลัก – SiteMinder Distribution Limited (บริษัทที่ก่อตั้งในอังกฤษและเวลส์ หมายเลข 07242801) ณ Waterfront, Hammersmith Embankment, Manbre Road, London W6 9RH, United Kingdom;
  2. สำหรับลูกค้าซึ่งมีถิ่นที่อยู่ในสหรัฐอเมริกาหรือแคนาดาเป็นหลัก – SiteMinder Hospitality Corporation (บริษัทในรัฐเดลาแวร์) มีสถานที่ประกอบธุรกิจหลักตั้งอยู่ที่ The Colonnade, Tower 1, Suite 350, 15301 North Dallas Parkway, Addison TX 75001, USA และ
  3. สำหรับลูกค้าอื่นใด – SiteMinder Limited (บริษัทที่ก่อตั้งขึ้นในออสเตรเลีย ACN 121 931 744) ณ Bond Store 3, 30 Windmill Street, Millers Point, NSW 2000, Australia

Stripe หมายถึง

  1. สำหรับลูกค้าซึ่งมีถิ่นที่อยู่ในยุโรป ตะวันออกกลาง หรือแอฟริกาเป็นหลัก – Stripe Payments Europe, Ltd. (บริษัทเอกชนที่บริหารจัดการภายใต้กฎหมายของไอร์แลนด์) มีสำนักงานตั้งอยู่ที่ The One Building, 1 Grand Canal Street Lower, Dublin 2, Ireland and Stripe Payments UK, Ltd. (บริษัทของอังกฤษ) มีสำนักงานตั้งอยู่ที่ 211 Old Street, The Warehouse, 7th Floor, London EC1V 9NR
  2. สำหรับลูกค้าซึ่งมีถิ่นที่อยู่ในสหรัฐอเมริกาเป็นหลัก – Stripe Inc. (บริษัทในรัฐเดลาแวร์) มีสำนักงานตั้งอยู่ที่ 185 Beery Street, San Francisco, CA 94107
  3. สำหรับลูกค้าซึ่งมีถิ่นที่อยู่ในแคนาดาเป็นหลัก – Stripe Payments Canada, Ltd และ
  4. สำหรับลูกค้าซึ่งมีถิ่นที่อยู่ในภูมิภาคอื่นๆ – Stripe Payments Australia Pty Ltd A.C.N. 160 180 343

บริการของ Stripe หมายถึง บริการใดๆ ที่ Stripe ให้ภายใต้ข้อตกลงสำหรับบริการของ Stripe

ข้อตกลงสำหรับบริการของ Stripe หมายถึง

  1. สำหรับลูกค้าซึ่งมีถิ่นที่อยู่ในยุโรป ตะวันออกกลาง หรือแอฟริกาเป็นหลัก – ข้อตกลงสำหรับบัญชี Stripe Connect (ดูรายละเอียดได้ที่ https://stripe.com/gb/connect-account/legal) และข้อตกลงสำหรับบริการของ Stripe (ดูรายละเอียดได้ที่ https://stripe.com/gb/ssa)
  2. สำหรับลูกค้าซึ่งมีถิ่นที่อยู่ในสหรัฐอเมริกาเป็นหลัก – ข้อตกลงสำหรับบัญชี Stripe Connect (ดูรายละเอียดได้ที่ https://stripe.com/us/connect-account/legal) และข้อตกลงสำหรับบริการของ Stripe – United States (ดูรายละเอียดได้ที่ https://stripe.com/us/ssa) และ
  3. สำหรับลูกค้าซึ่งมีถิ่นที่อยู่ในภูมิภาคอื่นๆ – ข้อตกลงสำหรับบัญชี Stripe Connect (ดูรายละเอียดได้ที่ https://stripe.com/au/connect-account/legal) และข้อตกลงสำหรับบริการของ Stripe – Australia (ดูรายละเอียดได้ที่ https://stripe.com/au/ssa)

โดยจะมีการปรับเปลี่ยนข้อมูลเป็นระยะ

การไม่สามารถให้บริการได้ของซัพพลายเออร์ หมายถึง ความขัดข้องของอุปกรณ์ ผลิตภัณฑ์ หรือบริการใดๆ ที่ให้แก่ SiteMinder โดยบุคคลที่สาม (รวมถึง Stripe) และมีความจำเป็นต้องดำเนินการตามพันธกรณีของ SiteMinder ภายใต้ข้อตกลง

ระยะเวลา มีความหมายตามที่ระบุไว้ในข้อ 3

ข้อกำหนดและเงื่อนไข หมายถึง ข้อกำหนดและเงื่อนไขฉบับนี้

ธุรกรรม หมายถึง การซื้อ การขาย การสั่งซื้อ การชำระเงิน หรือธุรกรรมอื่นๆ ที่ดำเนินการโดยหรือในนามของลูกค้าหรือผู้เข้าพักผ่านทางบริการหรือบัญชี

1.2   การตีความ

หัวเรื่องมีไว้เพื่อความสะดวกเท่านั้นและไม่มีผลต่อการตีความ กฎการตีความต่อไปนี้มีผลบังคับใช้ เว้นแต่บริบทจะกำหนดให้เป็นอย่างอื่น:

  1. เอกพจน์หมายรวมถึงพหูพจน์ และพหูพจน์ก็หมายรวมถึงเอกพจน์ด้วยเช่นกัน
  2. การอ้างอิงถึงบุคคลหมายรวมถึงนิติบุคคล คณะบุคคลที่ไม่ได้จดทะเบียนเป็นบริษัท องค์กร บริษัท ทรัสต์ บริษัทร่วมทุน สหการ หรือบุคคลอื่น และในทางกลับกัน;
  3. การอ้างอิงถึงข้อหรือกำหนดการคือข้อหรือกำหนดการตามข้อกำหนดและเงื่อนไขฉบับนี้
  4. “หมายรวมถึง” หรือ “รวมถึง” หรือคำที่มีผลในลักษณะเดียวกันไม่ใช่คำที่แสดงความจำกัด
  5. การอ้างอิงถึงสิ่งใด บริการใด หรือสิทธิ์ใด หมายรวมถึงการอ้างอิงถึงส่วนหนึ่งของสิ่งนั้น บริการนั้น หรือสิทธิ์นั้นด้วย
  6. การอ้างอิงถึงคู่สัญญาฝ่ายใดในข้อตกลงหรือข้อตกลงหรือเอกสารอื่นใด หมายรวมถึงผู้สืบทอดหรือผู้รับโอนที่ได้รับอนุญาตของคู่สัญญาฝ่ายนั้นด้วย
  7. การอ้างอิงถึงกฎหมายใดๆ หรือบทบัญญัติแห่งกฎหมายใดๆ หมายรวมถึงการแก้ไขเพิ่มเติม การรวมเข้าเป็นฉบับเดียวกัน หรือการแทนที่ใดๆ ของกฎหมายหรือบทบัญญัตินั้นๆ ตลอดจนระเบียบข้อบังคับและกฎหมายลำดับรองทั้งหมดที่ออกไว้ภายใต้กฎหมายหรือบทบัญญัติดังกล่าว
  8. การอ้างอิงถึงความประพฤติหมายรวมถึงการละเว้น คำแถลง หรือการรับหน้าที่ใดๆ ไม่ว่าจะเป็นลายลักษณ์อักษรหรือไม่ก็ตาม
  9. การอ้างอิงถึงคู่สัญญาคือคู่สัญญาในข้อตกลงหรือบุคคลใดก็ตามที่เข้าเป็นภาคีในข้อตกลง
  10. หากการชำระเงินใดๆ โดยคู่สัญญาภายใต้ข้อตกลงครบกำหนดในวันที่ไม่ใช่วันทำการ วันครบกำหนดจะเป็นวันทำการถัดไปในเดือนเดียวกันตามปฏิทิน หรือหากไม่มี ก็จะเป็นวันทำการก่อนหน้า และ
  11. หากพันธกรณีหนึ่งๆ ต้องดำเนินการโดยบุคคล 2 คนขึ้นไป พันธกรณีดังกล่าวจะผูกมัดบุคคลทั้งเข้าด้วยกันโดยแยกจากกัน

2. ข้อตกลง

  1. เมื่อมีการส่งแบบฟอร์มการลงทะเบียนหรือใช้งานบริการ ลูกค้ารับทราบว่าตนได้อ่าน ตลอดจนยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไขฉบับนี้ รวมถึงข้อกำหนดสำหรับบริการของ Stripe
  2. หากมีความไม่สอดคล้องกันระหว่างข้อกำหนดและเงื่อนไขฉบับนี้กับข้อกำหนดสำหรับบริการของ Stripe ให้ยึดตามข้อกำหนดและเงื่อนไขฉบับนี้

3. ระยะเวลา

ข้อตกลงฉบับนี้เริ่มต้น ณ วันที่เริ่มต้น และดำเนินต่อไปจนกว่าจะมีการยุติโดยคู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตามข้อ 15 (ระยะเวลา)

4. บัญชี

4.1   การเปิดบัญชี

ลูกค้า:

  1. อนุญาตให้ SiteMinder เปิดบัญชีสำหรับลูกค้าและติดต่อกับบุคคลคนที่สามในการตรวจสอบหรือเก็บรวบรวมข้อมูลใดๆ ที่จำเป็นโดย SiteMinder, Stripe หรือผู้ให้บริการการชำระเงินในการดำเนินการดังกล่าว
  2. ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าข้อมูลทั้งหมดที่ให้ไว้กับ SiteMinder นั้นถูกต้องและครบถ้วน
  3. ต้องแจ้ง SiteMinder โดยทันที หากมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลที่ลูกค้าได้ให้ไว้ตามข้อ 4.2 และแจ้งข้อมูลที่อัปเดตแก่ SiteMinder โดยไม่ล่าช้า
  4. รับทราบและยอมรับว่า
    1. ลูกค้าจะไม่สามารถใช้งานบริการได้จนกว่า SiteMinder จะเปิดบัญชีให้ลูกค้า
    2. SiteMinder อาจเปลี่ยนแปลงกระบวนการยอมรับสำหรับการเปิดบัญชี อันเป็นผลมาจากข้อกำหนดใดๆ จากทาง Stripe และ
    3. SiteMinder อาจไม่สามารถเปิดบัญชีให้ลูกค้าได้ หากเป็นเช่นนั้น ข้อตกลงจะยุติลงทันที

4.2   การเข้าใช้งานบัญชี

ลูกค้า:

  1. ให้สิทธิ์แก่ SiteMinder โดยไม่อาจเพิกถอนได้ในการดำเนินการต่อไปนี้
    1. เข้าใช้งานรวมถึงจัดการบัญชีและข้อมูล
    2. รวมบัญชีเข้ากับบริการ
    3. แบ่งปันข้อมูลกับ Stripe และ/หรือผู้ให้บริการการชำระเงินเพื่อรักษาบัญชีและเป็นไปตามความจำเป็นสำหรับการใช้งานบริการของลูกค้า
    4. เริ่มต้น ดำเนินการ สร้าง และจัดการธุรกรรมใดๆ ที่ลูกค้าได้ระบุว่าควรดำเนินการผ่านทางบัญชี รวมถึงการหักบัญชีสำหรับการปฏิเสธการชำระเงิน
    5. ดำเนินการใดๆ ตามที่ระบุไว้ในข้อตกลงสำหรับบริการของ Stripe และ
    6. ร้องขอให้ Stripe หักบัญชีตามยอดเงินที่ค้างชำระกับ SiteMinder จากบัญชีหรือจากยอดเงินที่ค้างจ่ายแก่ลูกค้าจากธุรกรรมหรือการปฏิเสธการชำระเงินใดๆ ซึ่งประมวลผลโดยใช้งานบริการหรือผ่านทางบัญชีของลูกค้า และ
  2. รับทราบและยอมรับว่ามีการควบคุมดูแลบัญชีตามกฎเกณฑ์และกระบวนการที่กำหนดไว้ในข้อตกลง

5. บริการ

5.1   การนำเสนอบริการ

  1. SiteMinder ต้องนำเสนอบริการแก่ลูกค้าเป็นระยะเวลาตามข้อตกลง
  2. เงื่อนไขสำหรับผู้รับบริการคือต้องเป็นลูกค้าที่มีเข้าเกณฑ์ต่อไปนี้
    1. ส่งแบบฟอร์มการลงทะเบียนที่กรอกข้อมูลเรียบร้อยแล้วแก่ SiteMinder
    2. รักษาบัญชีธนาคารที่มีคุณสมบัติเข้าเกณฑ์โดยมียอดเงินเพียงพอตามพันธกรณีภายใต้ข้อตกลง และ
    3. ปฏิบัติตามข้อตกลงอยู่ตลอดเวลา

5.2   การใช้งานบริการ

  1. บริการนี้มีไว้เฉพาะเพื่อการใช้งานของลูกค้าและต้องใช้งานตามข้อตกลงเท่านั้น
  2. ลูกค้าเป็นผู้รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวสำหรับกรณีต่อไปนี้
    1. การใช้งานบริการโดยผู้ดูแลระบบของลูกค้าและผู้ใช้งานของลูกค้า และ
    2. สินค้า รวมถึงการจัดส่ง การให้บริการช่วยเหลือ การคืนสินค้า และการคืนเงิน
  3. ลูกค้าต้องดำเนินการดังนี้
    1. รักษาระบบเทคโนโลยีและบริการที่จำเป็นต่อการเข้าใช้งานบริการ
    2. ปฏิบัติตามขั้นตอนการปฏิบัติงาน ข้อกำหนดทางเทคนิค และแนวทางที่เหมาะสมทั้งหมดซึ่งกำหนดโดย SiteMinder หรือ Stripe ในการปกป้องและดูแลความปลอดภัยสำหรับบริการ
    3. ไม่พยายามหลีกเลี่ยงข้อจำกัดทางเทคนิค เปิดฟังก์ชันการทำงานที่ปิดใช้งานอยู่หรือห้ามใช้งาน หรือแทรกแซงการทำงานตามปกติของบริการ
    4. เผยแพร่ซ้ำ โพสต์ ส่ง อัปโหลด ขายต่อหรือแจกจ่าย ทำซ้ำหรือคัดลอกบริการหรือเอกสารใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่กล่าวมาข้างต้น ไม่ว่าจะทั้งหมดหรือบางส่วน ยกเว้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการสำรองข้อมูลและการเก็บถาวร
    5. ให้สิทธิ์การเข้าถึงด่วนด้านบุคลากร อุปกรณ์ ข้อมูลและสารสนเทศของลูกค้าตามความจำเป็นโดยสมควรเพื่อให้ SiteMinder นำเสนอบริการได้
    6. ไม่ทำหรือละเว้นที่จะทำสิ่งใดก็ตามที่ลูกค้าทราบหรือมีเหตุผลให้ควรทราบว่าอาจส่งผลเสียต่อการทำงานหรือการบำรุงรักษาบริการ
    7. เปิดเผยข้อมูลผู้บริโภคทั้งหมดตามที่กำหนดโดยกฎหมายที่บังคับใช้
    8. รักษานโยบายที่เป็นธรรมในการคืนสินค้า คืนเงิน ยกเลิก หรือปรับเปลี่ยน โดยอธิบายกระบวนการที่ผู้เข้าพักจะได้รับประโยชน์จากนโยบายเหล่านี้อย่างชัดเจน
    9. ปฏิบัติตามพันธกรณีทั้งหมดในข้อตกลงสำหรับบริการของ Stripe อย่างไรก็ตาม หากลูกค้าไม่ปฏิบัติตามพันธกรณีของตนในข้อตกลงสำหรับบริการของ Stripe ลูกค้า
      1. อนุญาตให้ SiteMinder ปฏิบัติตามพันธกรณีในนามของลูกค้า
      2. จะให้ความช่วยเหลือ ความร่วมมือ หรือข้อมูลที่ร้องขอโดย SiteMinder เพื่อให้ SiteMinder สามารถปฏิบัติตามพันธกรณีเหล่านั้น และ
      3. จะจ่ายค่าชดเชยแก่ SiteMinder บริษัทที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนผู้อำนวยการ เจ้าหน้าที่ พนักงาน และผู้แทนสำหรับและกรรมการ เจ้าหน้าที่ พนักงาน และตัวแทนสำหรับการสูญเสียทั้งหมดที่เกิดขึ้นโดย SiteMinder ซึ่งเกี่ยวข้องกับ SiteMinder ในการปฏิบัติตามพันธกรณีเหล่านั้น
    10. แจ้ง SiteMinder โดยทันทีในกรณีที่ข้อตกลงสำหรับบริการของ Stripe สิ้นสุดลงไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม
    11. ให้ข้อมูล ความช่วยเหลือ และความร่วมมือทั้งหมดแก่ SiteMinder ตามที่ร้องขออย่างสมเหตุสมผลโดย SiteMinder เพื่อให้ SiteMinder สามารถดำเนินการตามพันธกรณีของตนภายใต้ข้อตกลงได้
    12. ใช้งานบริการตามกฎหมายหรือคำสั่งของหน่วยงานภาครัฐทั้งหมด และ
    13. ไม่ใช่บริการในกรณีต่อไปนี้
      1. จำหน่ายสินค้าในลักษณะที่เป็นการฉ้อโกง
      2. เพื่อวัตถุประสงค์ที่ไม่เหมาะสมหรือผิดกฎหมาย รวมถึงเพื่อประโยชน์ของหน่วยงาน บุคคล ประเทศ หรือองค์กรที่มีการสั่งห้ามหรือปิดกั้นโดยหน่วยงานภาครัฐ
      3. เริ่มต้นหรืออำนวยความสะดวกให้ธุรกรรมที่เป็นการฉ้อโกง หรืออนุญาตให้ผู้อื่นดำเนินการในลักษณะเดียวกัน หรือใช้งานบริการเพื่อวัตถุประสงค์ที่ไม่ใช่เชิงพาณิชย์ วัตถุประสงค์ส่วนบุคคล หรือวัตถุประสงค์ในครัวเรือน
      4. เริ่มต้นหรืออำนวยความสะดวกให้การส่งเงินระหว่างบุคคลหรือธุรกรรมระหว่างบริษัท
      5. ดำเนินการเป็นตัวแทนคนกลางสำหรับบริการโดยไม่มีการเพิ่มมูลค่าใดๆ ให้ผู้เข้าพัก
      6. โฮสต์หรือส่งข้อมูลที่มีไวรัสหรือรหัสหรือข้อมูลซึ่งออกแบบมาเพื่อขัดขวาง สร้างความเสียหาย ทำลาย หรือจำกัดการทำงานของซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ หรืออุปกรณ์ใดๆ
      7. เพื่อวัตถุประสงค์ในการเปรียบเทียบสมรรถนะหรือการแข่งขัน รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริการ หรือฟังก์ชันการทำงานที่แข่งขันกับบริการไม่ว่าจะทั้งหมดหรือบางส่วน

5.3   ฟังก์ชันการทำงาน

  1. ลูกค้าเป็นผู้รับผิดชอบแต่ผู้เดียว โดยที่ SiteMinder จะไม่รับผิดในส่วนของเรื่องต่อไปนี้
    1. ธุรกรรมทั้งหมด (รวมถึงการตรวจสอบความน่าเชื่อถือและความถูกต้อง) และ
    2. การยืนยันตัวตนของผู้เข้าพักและการรับความยินยอม ตลอดจนข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการประมวลผลธุรกรรมที่เกี่ยวข้อง
  2. ลูกค้า ผู้ดูแลระบบของลูกค้า และผู้ใช้งานของลูกค้าต้องดำเนินการดังนี้
    1. เริ่มต้นธุรกรรมที่ผู้เข้าพักอนุญาตเท่านั้น
    2. ให้คำแนะนำแก่ผู้เข้าพักด้านข้อกำหนดและเงื่อนไขเกี่ยวกับธุรกรรม
    3. จัดเตรียมใบเสร็จหรือใบกำกับภาษีที่ถูกต้องและละเอียดสำหรับการทำธุรกรรมแต่ละรายการให้ผู้เข้าพักและเก็บบันทึกระเบียนข้อมูลของรายการดังกล่าว และ
    4. ปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับ กฎเกณฑ์ และกระบวนการการชำระเงินด้วยบัตรทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรม
  3. SiteMinder อาจปฏิเสธหรือระงับธุรกรรมใดๆ ที่เชื่อว่าละเมิดข้อตกลงหรือก่อให้เกิดความเสี่ยงที่ผิดปกติหรือไม่อาจยอมรับได้

5.4   การปฏิเสธการชำระเงิน

  1. ลูกค้าเป็นผู้รับผิดชอบแต่ผู้เดียวต่อการปฏิเสธการชำระเงินโดยที่ SiteMinder จะไม่รับผิดในกรณีดังกล่าว
  2. ลูกค้าอาจคัดค้านการปฏิเสธการชำระเงินได้โดยการส่งหลักฐานที่เหมาะสมให้ SiteMinder โดย SiteMinder อาจช่วยเหลือลูกค้าโดยการประสานงานกับ Stripe หรือผู้ให้บริการการชำระเงินรายใดก็ตามเพื่อโต้แย้งการปฏิเสธการชำระเงิน แต่ SiteMinder ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผลการพิจารณาในขั้นตอนสุดท้ายของการร้องขอ และไม่อาจรับประกันได้ว่าการร้องขอนั้นๆ จะดำเนินการสัมฤทธิ์ผลหรือไม่
  3. ลูกค้าต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าบัญชีมียอดเงินเพียงพอและครอบคลุมการปฏิเสธการชำระเงินทั้งหมด ตลอดจนรับทราบและเห็นชอบให้ SiteMinder สามารถจัดเตรียมเงินสำรองในส่วนของรายได้จากการทำธุรกรรมที่ค้างชำระแก่ลูกค้าเพื่อนำมาใช้เมื่อเกิดการปฏิเสธการชำระเงิน
  4. SiteMinder มีสิทธิ์ระงับบริการได้หากลูกค้ามียอดเงินไม่เพียงพอในกรณีที่เกิดการปฏิเสธการชำระเงิน

5.5   ความปลอดภัย

  1. SiteMinder ต้องดำเนินการและรักษาไว้ซึ่งการควบคุม ขั้นตอน ระบบ และกระบวนการด้านความปลอดภัยอย่างเหมาะสม เพื่อปกป้องบริการจากมัลแวร์และการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต
  2. ลูกค้าเป็นผู้รับผิดชอบแต่ผู้เ้ดียวต่อความปลอดภัยในส่วนฮาร์ดแวร์ของลูกค้าและซอฟต์แวร์ของลูกค้าทั้งหมดที่ใช้สำหรับการเข้าใช้งานบริการ
  3. ลูกค้ามีหน้าที่รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวในการรักษาความปลอดภัยของบัญชีอีเมลใดๆ ที่ใช้สำหรับการเข้าใช้งานบริการหรือใช้ในการสื่อสารกับ SiteMinder ตลอดจนยอมรับว่า SiteMinder สามารถส่งหรือแบ่งปันข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับลูกค้าและ/หรือบริการ รวมถึงข้อมูลธุรกรรม ข้อมูลการเรียกชำระเงิน และข้อมูลทางการเงินผ่านทางบัญชีอีเมลเดียวกันนี้ได้โดยไม่ต้องอ้างอิงหรือคำนึงถึงบุคคลที่อาจมีสิทธิ์เข้าถึงบัญชีอีเมลดังกล่าวได้
  4. ลูกค้าต้องดำเนินการและรักษาไว้ซึ่งการควบคุม ขั้นตอน ระบบ และกระบวนการด้านความปลอดภัย (รวมถึงทุกสิ่งที่ได้รับจาก SiteMinder หรือ Stripe) อย่างเหมาะสม เพื่อปกป้องฮาร์ดแวร์ของลูกค้าและซอฟต์แวร์ของลูกค้าจากมัลแวร์
  5. SiteMinder อาจใช้มาตรการใดๆ ที่เห็นว่าจำเป็น รวมถึงการระงับบัญชี เพื่อรักษาความปลอดภัยของบริการและข้อมูล หรือเพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้นต่อ SiteMinder ลูกค้าของ SiteMinder ตลอดจน Stripe รวมถึงบุคคลหรือองค์กรอื่นใด

5.6   การปฏิบัติตาม PCI DSS

SiteMinder ต้องจัดเก็บ ประมวลผล และส่งข้อมูลให้สอดคล้องตาม PCI DSS โดยยังคงปฏิบัติตาม PCI DSS อยู่เสมอตลอดระยะเวลาตามข้อกำหนด

5.7   ความร่วมมือด้านการปฏิบัติตามกฎระเบียบ

ลูกค้าต้องให้ข้อมูลใดๆ ที่ร้องขอโดย SiteMinder, Stripe หรือผู้ให้บริการการชำระเงินซึ่งมีความจำเป็นในการปฏิบัติตามข้อกำหนดในระเบียบข้อบังคับหรือตามการร้องขอของหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับบริการ

5.8   การระงับ

  1. SiteMinder อาจระงับบริการในกรณีต่อไปนี้
    1. ลูกค้า ผู้ดูแลระบบของลูกค้า หรือผู้ใช้งานของลูกค้าได้ละเมิดหรือมีเหตุผลอันควรสงสัยว่าได้ละเมิดข้อตกลง
    2. ข้อตกลงสำหรับบริการหรือบัญชี Stripe ถูกยกเลิกหรือระงับ
    3. SiteMinder หรือ Stripe กำหนดว่าลูกค้าไม่มีสิทธิ์ใช้งานบริการหรือบัญชี หรือ
    4. เป็นไปตามข้อกำหนดทางกฎหมาย
  2. หาก SiteMinder ระงับบริการตามข้อ 5.8 SiteMinder ต้องแจ้งให้ลูกค้าทราบภายใน 24 ชั่วโมง

6. ค่าธรรมเนียม

6.1   ค่าธรรมเนียม

  1. ลูกค้าต้องชำระค่าธรรมเนียมแก่ SiteMinder สำหรับธุรกรรมแต่ละรายการ
  2. SiteMinder อาจปรับค่าธรรมเนียมได้ตลอดเวลาโดยต้องแจ้งให้ลูกค้าทราบเป็นลายลักษณ์อักษรล่วงหน้า 30 วัน

6.2   พันธกรณีด้านการชำระเงิน

  1. SiteMinder (และ/หรือ Stripe ในนามของ SiteMinder) สามารถดำเนินการได้ดังนี้
    1. หักค่าธรรมเนียมจากยอดเงินที่มีการหักบัญชีในส่วนของธุรกรรมก่อนมีการจ่ายรายได้จากการทำธุรกรรมแก่ลูกค้า
    2. หักค่าธรรมเนียมจากบัญชี และ/หรือ
    3. หักค่าธรรมเนียมจากบัญชีธนาคาร
  2. นอกจากนี้ ลูกค้ายังต้องชำระเงินแก่ SiteMinder และ SiteMinder (และ/หรือ Stripe ในนามของ SiteMinder) อาจหักบัญชีและ/หรือบัญชีธนาคารตามข้อ 6.7 ในส่วนต่อไปนี้
    1. ยอดเงินที่ชำระในนามของลูกค้าโดยเกี่ยวข้องกับการปฏิเสธการชำระเงิน และ
    2. ภาษี ค่าธรรมเนียม หรือยอดเงินอื่นๆ ที่กำหนดโดยหน่วยงานภาครัฐโดยเกี่ยวข้องกับธุรกรรม การปฏิเสธ การชำระเงิน หรือการใช้งานบริการของลูกค้า

6.3   รายการเดินบัญชีประจำเดือน

SiteMinder ต้องแจ้งให้ลูกค้าทราบรายการเดินบัญชีประจำเดือนในส่วนของเดบิตและเครดิตที่ดำเนินการผ่านบัญชีและบัญชีธนาคารที่เกี่ยวข้องกับบริการตลอดระยะเวลาตามข้อกำหนด (รายการเดินบัญชีประจำเดือน)

6.4   รายการเดินบัญชีประจำเดือนที่มีข้อพิพาท

  1. หากลูกค้าโต้แย้งส่วนใดๆ ของรายการเดินบัญชีประจำเดือน ลูกค้าต้องแจ้ง SiteMinder เป็นลายลักษณ์อักษรภายใน 10 วันทำการนับตั้งแต่ได้รับรายการเดินบัญชีโดยระบุเหตุผลของการโต้แย้งดังกล่าว หากไม่สามารถดำเนินการตามเงื่อนไขดังกล่าวได้ จะถือว่าลูกค้ายอมรับว่ารายการเดินบัญชีดังกล่าวถูกต้องแล้ว
  2. คู่สัญญาต้องพยายามระงับข้อพิพาทใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับรายการเดินบัญชีประจำเดือนระหว่างกันภายใน 10 วันทำการหลังจากที่ลูกค้าได้แจ้งตามข้อ 6.4(a) หากไม่สามารถดำเนินการตามเงื่อนไขดังกล่าวได้ จะมีการใช้กระบวนการการระงับข้อพิพาทตามที่กำหนดไว้ในข้อ 19
  3. SiteMinder ปรับยอดในบัญชีและ/หรือบัญชีธนาคาร (ตามความเหมาะสม) เนื่องจากเกิดข้อผิดพลาดในการลงบัญชีสำหรับส่วนใดก็ตามของรายการเดินบัญชีประจำเดือนที่คู่สัญญาเห็นชอบหรือที่กำหนดไว้ภายใต้ข้อ 19

6.5   GST

  1. ค่าธรรมเนียมทั้งหมดไม่รวม GST เว้นแต่จะระบุเป็นลายลักษณ์อักษรไว้เป็นอย่างอื่นโดย SiteMinder
  2. หาก GST มีผลบังคับใช้กับสิ่งใดก็ตามที่ SiteMinder จัดหาภายใต้ข้อตกลง SiteMinder อาจเรียกเก็บค่าธรรมเนียมตามจำนวนที่เท่ากับ GST
  3. ลูกค้าต้องชำระ GST ที่เรียกเก็บแก่ SiteMinder ในลักษณะและเวลาเดียวกันกับการชำระค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้อง
  4. SiteMinder จะออกใบกำกับภาษีให้แก่ลูกค้าตามวัตถุประสงค์ของ GST ในส่วนของค่าธรรมเนียม
  5. หากกฎหมายที่บังคับใช้กำหนดไว้ SiteMinder จะให้ใบปรับแก้แก่ลูกค้า ซึ่งเกิดจากการปรับแก้อันเกี่ยวข้องกับสิ่งที่จัดหาซึ่งต้องมีการเสียภาษีซึ่งดำเนินการภายใต้ข้อตกลงหรือเกี่ยวข้องกับข้อตกลงภายใน 30 วัน หลังจากวันที่ SiteMinder ทราบถึงการปรับแก้ดังกล่าว

6.6   การอนุญาตให้หักบัญชี

  1. ลูกค้าอนุญาตให้ดำเนินการดังนี้
    1. SiteMinder และ/หรือ Stripe สามารถหักบัญชีธนาคาร รวมถึงดำเนินการผ่านระบบการหักบัญชีอิเล็กทรอนิกส์จำนวนมาก (Bulk Electronic Clearing System – BECS) ตามข้อ 6.2 หากกิจกรรมสุทธิหรือยอดเงินคงเหลือในบัญชีเป็นลบอยู่ตลอดเวลา หรือหาก SiteMinder กำหนดให้ลูกค้าจัดเตรียมเงินในบัญชี และ
    2. สถาบันการเงินที่ออกบัญชีธนาคารสามารถยอมรับเดบิตด้งกล่าว
  2. ลูกค้าต้องตรวจดูให้แน่ใจว่าบัญชีธนาคารมีลักษณะดังนี้
    1. สามารถยอมรับเดบิตและเครดิตที่ดำเนินการโดย SiteMinder และ Stripe และ
    2. มียอดเงินเพียงพอให้สามารถดำเนินการในส่วนเดบิตได้ทั้งหมดตามข้อ 6.6
  3. ลูกค้ามีหน้าที่รับผิดชอบและต้องชำระค่าธรรมเนียมและค่าบริการที่เรียกเก็บทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับ SiteMinder แก่ SiteMinder อันเป็นผลมาจากการหักบัญชีธนาคารตามข้อ 6.6
  4. หากธุรกรรมใดๆ ในส่วนของเดบิตซึ่งประมวลผลโดย SiteMinder ตามข้อ 6.6 นี้ได้รับการส่งคืนอันเนื่องมาจากมียอดเงินไม่เพียงพอ ลูกค้าต้องจัดเตรียมเงินตามต้องการในบัญชีธนาคารทันทีเพื่อให้ SiteMinder สามารถประมวลผลธุรกรรมเดบิตอีกครั้งได้สำเร็จ
  5. หากลูกค้าเชื่อว่าเกิดข้อผิดพลาดเกี่ยวกับธุรกรรมเดบิตจากบัญชีธนาคาร ลูกค้าต้องแจ้ง SiteMinder และธนาคารโดยไม่ล่าช้า SiteMinder จะร่วมมือกับธนาคารในการปรับบัญชีธนาคารหากมีกรณีที่เกิดข้อผิดพลาด หากไม่พบข้อผิดพลาด SiteMinder จะแจ้งให้ลูกค้าทราบถึงผลการพิจารณาลงความเห็น ตลอดจนเหตุผลประกอบการพิจารณาดังกล่าว

6.7   การไม่สามารถชำระเงินได้

หากลูกค้าไม่สามารถชำระเงินที่ครบกำหนดภายใต้ข้อตกลงเมื่อได้รับคำขอให้ดำเนินการหรือเมื่อ SiteMinder พยายามหักบัญชีหรือบัญชีธนาคาร SiteMinder อาจดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดต่อไปนี้ ไม่ว่าจะการดำเนินการทดแทนหรือการดำเนินการเพิ่มเติมจากการยุติข้อตกลงตามข้อ 15.1 ดังนี้

  1. เรียกเก็บดอกเบี้ยสำหรับจำนวนเงินที่ค้างชำระจากลูกค้าโดยนับจากวันครบกำหนดการชำระเงินไปจนถึงวันที่ชำระเงินจริงหรือหักบัญชีตามอัตราดอกเบี้ย
  2. ระงับบริการจนกว่าจะชำระเงินหรือมีการหักเงินตามจำนวนทั้งหมด (รวมถึงดอกเบี้ยใดๆ ที่มี) หรือ
  3. ใช้งานหรือเปิดเผยข้อมูลใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า (ต่อ Stripe หน่วยงานภาครัฐ หรือผู้ให้บริการการชำระเงิน) ตามที่อาจมีความจำเป็นหรือมีความสมควรเพื่อช่วยเหลือให้ช่วยในขั้นตอนการติดตามหนี้

7. การรับรองและการรับประกันของลูกค้า

ลูกค้ารับรองและรับประกันว่าดังนี้

  1. ผู้ดูแลระบบของลูกค้าได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องในการให้ข้อมูลที่ร้องขอโดย SiteMinder เพื่อลงทะเบียนและใช้งานบริการในนามของลูกค้าและผูกพันลูกค้ากับข้อตกลง
  2. ลูกค้ามีอำนวจในการใช้และดำเนินการตามพันธกรณ๊ภายใต้ข้อตกลง และ
  3. ลูกค้าสามารถชำระหนี้ได้ในเวลาที่ทำข้อตกลง โดยยังจะเป็นเช่นนั้นตลอดเวลาระยะเวลาตามข้อตกลง และจะแจ้ง SiteMinder หากลูกค้าประสบกับเหตุการณ์ล้มละลาย

8. การฉ้อโกง

  1. ลูกค้า ผู้ดูแลระบบของลูกค้า และผู้ใช้งานของลูกค้าต้องไม่ใช้งานบริการหรือบัญชีเพื่อเริ่มต้น ยอมรับ อำนวยความสะดวก หรือสนับสนุนธุรกรรมหรือกิจกรรมที่เป็นการฉ้อโกง รวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะการรับชำระเงินค่าสินค้าที่ไม่ได้จัดส่งหรือไม่สามารถจัดส่งได้
  2. ลูกค้าเป็นผู้รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวสำหรับการสูญเสียใดๆ ที่เกิดขึ้นหรือเกี่ยวข้องกับธุรกรรมที่เป็นการฉ้อโกง (รวมถึงที่เกิดขึ้นโดยมีความเกี่ยวข้องกับการสูญหายหรือการขโมยข้อมูลประจำตัวหรือข้อมูลที่ใช้เข้าสู่ระบบ) หรือกิจกรรมผ่านทางหรือเชื่อมโยงกับบัญชี รวมถึงค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นกับ SiteMinder ในการตรวจสอบ การวิเคราะห์ และการแก้ไขปัญหาที่เกิดจากเหตุการณ์การฉ้อโกง
  3. SiteMinder อาจเสนอหรือแนะนำกระบวนการ ขั้นตอน การตั้งค่า และการควบคุมเพื่อลดความเสี่ยงต่อการฉ้อโกง (การควบคุมการฉ้อโกง) ได้ ลูกค้าต้องตรวจสอบและดำเนินการควบคุมการฉ้อโกงตามที่ SiteMinder กำหนด
  4. ลูกค้าต้องแจ้งให้ SiteMinder ทราบเกี่ยวกับกิจกรรมที่น่าสงสัยใดๆ ซึ่งเป็นการฉ้อโกง ตลอดจนให้ความช่วยเหลือและแจ้งข้อมูลทั้งหมดอย่างเหมาะสมตามที่ SiteMinder, Stripe หรือผู้ให้บริการการชำระเงินร้องขอเพื่อตรวจสอบกิจกรรมที่เป็นการฉ้อโกงซึ่งดำเนินการผ่านทางหรือโดยมีความเกี่ยวข้องกับบัญชี
  5. SiteMinder และ/หรือ Stripe อาจปฏิเสธ กำหนดเงื่อนไข ชะลอ ระงับ หรือย้อนกลับธุรกรรมใดๆ ที่มีข้อสงสัยหรือพิสูจน์ได้ว่าเป็นการฉ้อโกง (รวมถึงธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน การหนีภาษี การจัดหาเงินทุนสนับสนุนการก่อการร้าย หรือทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำความผิด)
  6. SiteMinder และ/หรือ Stripe อาจแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับธุรกรรมที่เป็นการฉ้อโกงกับผู้ให้บริการการชำระเงินหรือหน่วยงานภาครัฐ รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับลูกค้า ผู้ดูแลระบบของลูกค้า และผู้ใช้งานของลูกค้า ตลอดจนข้อมูลอื่นใดที่มีความเกี่ยวข้อง
  7. หากมีการใช้งานบริการเพื่อวัตถุประสงค์ใดๆ ที่เป็นการฉ้อโกง หรือโปรแกรมการตรวจสอบการฉ้อโกงและความเสี่ยงด้านเครดิตของ SiteMinder เห็นว่าลูกค้า ผู้ดูแลระบบของลูกค้า ผู้ใช้งานของลูกค้า หรือบัญชีก่อให้เกิดความเสี่ยงหรือภัยคุกคามต่อ SiteMinder, Stripe หรือบุคคลที่สามอย่างไม่อาจยอมรับได้ SiteMinder อาจระงับและ/หรือยุติบริการและสิทธิ์การเข้าใช้งานบัญชีโดยทันที
  8. ลูกค้ายินยอมที่จะจ่ายค่าชดเชยให้แก่ SiteMinder นิติบุคคลของ SiteMinder ตลอดจนผู้อำนวยการ เจ้าหน้าที่ พนักงาน และผู้แทนสำหรับข้อเรียกร้องและการสูญเสียทั้งหมดในทุกลักษณะ ไม่ว่าจะเป็นผลที่เกิดขึ้นหรือมีความเกี่ยวข้องกับข้อ 8 ก็ตาม

9. การบำรุงรักษาและการระงับ

9.1   การบำรุงรักษา

  1. SiteMinder อาจดำเนินการบำรุงรักษา (รวมถึงการอัปเดต) ทั้งที่ได้กำหนดเวลาและไม่ได้กำหนดเวลาไว้เป็นครั้งคราว
  2. SiteMinder ต้องใช้ความพยายามตามสมควรในการแจ้งให้ลูกค้าทราบก่อนที่จะดำเนินการบำรุงรักษาตามที่ได้กำหนดเวลาหรือที่ไม่ได้กำหนดเวลาไว้ อย่างไรก็ตาม ลูกค้ายอมรับว่าในบางกรณีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้าเป็นสิ่งที่ไม่สามารถกระทำได้

9.2   การระงับ

SiteMinder อาจระงับบริการโดยไม่ต้องรับผิดและมีผลในทันทีเป็นระยะเวลานานเท่าที่ SiteMinder ซึ่งดำเนินการอย่างสมเหตุสมผลแล้วได้พิจารณาเห็นว่ามีความจำเป็นต่อการปฏิบัติตามกฎหมาย ปกป้องบุคคลหรืออุปกรณ์ ทำให้บุคคลที่ได้รับอนุญาตสามารถเข้าดูแลภาวะฉุกเฉินได้ หรือป้องกันความขัดข้องที่จะเกิดขึ้นกับบริการ

10. บริการสนับสนุน

10.1   พันธกรณีด้านบริการสนับสนุนของ SiteMinder

ทีมบริการสนับสนุนของ SiteMinder จะดำเนินการดังนี้

  1. ประสานงานโดยตรงกับหน่วยงานด้านบริการสนับสนุนของลูกค้าเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงการกำหนดค่าและให้บริการสนับสนุนพื้นฐานสำหรับการสอบถามข้อมูลระหว่างเวลาทำการท้องถิ่น
  2. ประสานงานเกี่ยวกับปัญหาที่ได้รับรายงานจากลูกค้าเกี่ยวกับบริการใดๆ ของ Stripe กับผู้ให้บริการการชำระเงินที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม SiteMinder ไม่มีหน้าที่รับผิดชอบในการให้การสนับสนุนหรือแก้ไขปัญหาที่ได้รับรายงานเกี่ยวกับบริการใดๆ ของ Stripe รวมถึงในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการไม่สามารถให้บริการได้ของซัพพลายเออร์

10.2   พันธกรณีด้านบริการสนับสนุนของลูกค้า

  1. ลูกค้าเป็นผู้รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวในการให้บริการสนับสนุนแก่ผู้เข้าพักหรือลูกค้ารายอื่นๆ ของลูกค้า รวมถึงในส่วนที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรม การปฏิเสธการชำระเงิน ใบเสร็จรับเงิน หรือปัญหาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าทั้งหมด
  2. ลูกค้าต้องไม่ส่งเสริมให้ผู้เข้าพักขอรับบริการสนับสนุนจาก SiteMinder

11. การรายงานข้อบกพร่องและการกู้คืน

  1. ลูกค้าต้องรายงานข้อบกพร่องทั้งหมดต่อ SiteMinder โดยไม่ล่าช้า ทันทีที่ทราบว่าเกิดข้อบกพร่องขึ้น SiteMinder ต้องแก้ไขข้อบกพร่องและใช้ความพยายามอย่างเหมาะสมในการลดความขัดข้องที่เกิดขึ้นกับบริการให้เหลือน้อยที่สุด
  2. ก่อนที่จะรายงานข้อบกพร่อง ลูกค้าควรตรวจสอบว่าข้อบกพร่องนั้นไม่ได้มีสาเหตุมาจากฮาร์ดแวร์ของลูกค้าหรือซอฟต์แวร์ของลูกค้า
  3. SiteMinder ไม่มีหน้าที่รับผิดชอบในการแก้ไขข้อบกพร่องในกรณีที่ข้อบกพร่องดังกล่าวมีสาเหตุมาจากตัวลูกค้า ผู้ดูแลระบบของลูกค้า ผู้ใช้งานของลูกค้า ตลอดจนฮาร์ดแวร์ของลูกค้าหรือซอฟต์แวร์ของลูกค้า
  4. ลูกค้าเป็นผู้รับผิดชอบแต่ผู้เดียวต่อข้อบกพร่องที่เกิดขึ้นกับฮาร์ดแวร์ของลูกค้าหรือซอฟต์แวร์ของลูกค้า

12. การรายงานข้อบกพร่องและการกู้คืน

12.1   ข้อมูลส่วนบุคคล

ในส่วนของข้อมูลส่วนบุคคลใดๆ ที่ประมวลผลโดยมีความเกี่ยวข้องกับข้อตกลง คู่สัญญาแต่ละฝ่ายจะต้องดำเนินการดังนี้

  1. ประมวลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ตามที่ระบุไว้ในข้อตกลงหรือตามคำสั่งหรือตามที่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของข้อมูลเท่านั้น และ
  2. ปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านการคุ้มครองข้อมูลที่บังคับใช้ตลอดเวลา (รวมถึงมีฐานด้านกฎหมายสำหรับการประมวลผลดังกล่าว)

12.2   ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า

ในส่วนของข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า ลูกค้ายินยอมให้ SiteMinder ดำเนินการดังนี้

  1. ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามนโยบายความเป็นส่วนตัวและเพื่อวัตถุประสงค์ในการนำเสนอบริการและ/หรือบริการของ Stripe อันได้แก่
    1. การเรียกเก็บเงินและการจัดการบัญชี
    2. การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ
    3. การบริหารความสัมพันธ์ของลูกค้ากับ SiteMinder และ
    4. การจำหน่ายผลิตภัณฑ์และบริการของ SiteMinder แก่ลูกค้า
  2. การแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลกับฝ่ายต่อไปนี้
    1. Stripe ผู้ให้บริการการชำระเงิน และผู้ให้บริการรายอื่นๆ ตามที่จำเป็นสำหรับการให้บริการ
    2. หน่วยงานภาครัฐเพื่อช่วยในการสืบสวนกรณีเกิดอาชญากรรมหรือการบังคับใช้กฎหมาย และ
    3. บุคคลที่สามตามที่กฎหมายกำหนด

12.3   ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เข้าพัก

ในส่วนของข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับผู้เข้าพัก SiteMinder ต้องดำเนินการดังนี้

  1. ปรับใช้มาตรการเชิงเทคนิคและมาตรการเกี่ยวกับองค์กรที่เหมาะสมเพื่อให้แน่ใจว่ามีระดับการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสมกับความเสี่ยงของการประมวลผลข้อมูล ทั้งนี้โดยคำนึงถึงความทันสมัย ค่าใช้จ่ายในการปรับใช้ รวมถึงลักษณะ ขอบเขต บริบท และวัตถุประสงค์ของการประมวลผล
  2. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าบุคคลที่ตนอนุญาตให้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลอยู่ภายใต้พันธกรณีด้านการรักษาความลับที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล
  3. แจ้งให้ลูกค้าทราบอย่างทันการหลังจากที่ตระหนักถึงการเจาะระบบความปลอดภัยอันนำไปสู่การทำลาย การสูญเสีย การเปลี่ยนแปลง การเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่เจตนาหรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย และ SiteMinder และลูกค้าต้องดำเนินการโดยสุจริตใจในการสร้างคำแถลงต่อสาธารณะที่เห็นพ้องกัน รวมถึงการแจ้งเตือนที่จำเป็นใดๆ ต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ใดๆ ที่ได้กล่าวมาก่อนหน้านี้ โดยมีเงื่อนไขว่าไม่มีสิ่งใดในย่อหน้านี้ที่ป้องกันไม่ให้คู่สัญญาปฏิบัติตามข้อผูกมัดของตนภายใต้บังคับแห่งข้อกำหนดในการคุ้มครองข้อมูล
  4. บันทึกข้อมูลส่วนบุคคลเฉพาะในขอบเขตที่กฎหมายกำหนด และหลังจากการหมดอายุหรือการยุติข้อตกลง จะส่งคืนข้อมูลดังกล่าวแก่ลูกค้าหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดที่อยู่ในความครอบครองหรือที่อยู่ภายใต้การควบคุมของ SiteMinder
  5. ให้ข้อมูลดังกล่าวแก่ลูกค้าตามความจำเป็นอันสมเหตุสมผลเพื่อแสดงให้เห็นว่า SiteMinder ปฏิบัติตามข้อ 12.3
  6. อนุญาตให้ลูกค้าแต่งตั้งผู้ตรวจสอบอิสระเพื่อสำรวจตรวจสอบการปฏิบัติตามข้อ 12.3 ของ SiteMinder การตรวจสอบดังกล่าวอาจเกิดขึ้นหนึ่งครั้งต่อปีปฏิทิน เว้นแต่ข้อกำหนดในการคุ้มครองข้อมูลที่บังคับใช้กับลูกค้าจะกำหนดให้ดำเนินการตรวจสอบบ่อยครั้งกว่านั้น การตรวจสอบดังกล่าวต้องดำเนินการระหว่างเวลาทำการ และลูกค้าต้องแจ้งให้ทราบเกี่ยวกับการตรวจสอบดังกล่าวล่วงหน้าอย่างน้อย 30 วัน เว้นแต่ลูกค้าจะสามารถแสดงให้เห็นได้ว่าลูกค้ามีความสงสัยอย่างแท้จริงว่า SiteMinder ได้ละเมิดพันธกรณีของตนในข้อ 12.3 โดยในกรณีนี้ลูกค้าต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้าเป็นลายลักษณ์อักษรอย่างน้อย 5 วันทำการ
  7. ไม่ถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังประเทศที่อยู่นอกสหภาพยุโรปโดยไม่ได้รับการอนุญาตจากลูกค้า หรือตามที่ระบุไว้เป็นอย่างอื่นในข้อตกลง เว้นแต่ดินแดนที่เกี่ยวข้องจะสามารถรับรองได้ว่ามีระดับการคุ้มครองที่เพียงพอ หรือมีข้อสัญญามาตรฐานที่เหมาะสมที่ได้รับอนุมัติโดย EU หรือมีการปรับใช้การป้องกันที่เหมาะสมอื่นๆ และ

12.4   ผู้ประมวลผลช่วง

SiteMinder อาจร่วมมือกับบุคคลที่สามในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า (รวมถึงข้อมูลผู้เข้าพัก) เพื่อดำเนินการตามพันธกรณีของ SiteMinder ภายใต้ข้อตกลง (ผู้ประมวลผลช่วง) โดยมีเงื่อนไขว่าสัญญากับผู้ประมวลผลช่วงต้องรวมข้อกำหนดซึ่งมีสาระสำคัญเหมือนกับที่กำหนดไว้ในข้อ 12.4 และรวมพันธกรณีที่อ้างถึงในมาตรา 28(3) ของระเบียบการคุ้มครองข้อมูลทั่วไปของสหภาพยุโรป (General Data Protection Regulation) โดย SiteMinder ต้องแจ้งให้ลูกค้าทราบเกี่ยวกับผู้ประมวลผลช่วงในกรณีที่มีการแต่งตั้งหรือการเปลี่ยนแปลงผู้ประมวลผลช่วง

13. การรักษาความลับ

13.1   ข้อผูกมัดในการรักษาความลับ

คู่สัญญาแต่ละฝ่าย (ผู้รับ) ที่ได้รับข้อมูลลับเฉพาะของคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่ง (ฝ่ายที่ถูกเปิดเผยข้อมูล) ภายใต้ข้อตกลงฉบับนี้รับทราบว่าข้อมูลลับเฉพาะทั้งหมดที่มอบให้ตน หรือที่ตนได้รับการเปิดเผยนั้นเป็นความลับต่อฝ่ายที่ถูกเปิดเผยข้อมูล

13.2   ความสูญเสียที่ได้รับ

ผู้รับรับทราบและยอมรับว่าข้อมูลลับเฉพาะ โดยลักษณะพิเศษในตัวแล้วนั้น เป็นทรัพย์สินที่มีค่าของฝ่ายที่ถูกเปิดเผยข้อมูล และฝ่ายที่ถูกเปิดเผยข้อมูลอาจได้รับความเสียหายหรือความสูญเสียจากการเปิดเผยข้อมูลลับเฉพาะใดๆ โดยผู้รับ

13.3   การไม่เปิดเผยข้อมูล

ผู้รับต้อง:

  1. ถือว่าข้อมูลลับเฉพาะทั้งหมดเป็นความลับ และไม่ทำให้ข้อมูลลับเฉพาะนั้นเป็นที่ทราบต่อสาธารณะหรือเปิดเผยต่อบุคคลอื่นใด เว้นแต่จะได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากฝ่ายที่ถูกเปิดเผยข้อมูลก่อนให้ดำเนินการเช่นนั้นได้;
  2. ป้องกันไม่ให้บุคคลที่สามเข้าถึงข้อมูลลับเฉพาะ และ
  3. จัดส่งหรือส่งมอบให้ฝ่ายที่เปิดเผยข้อมูลเมื่อมีการร้องขอระเบียนข้อมูลลับเฉพาะที่อยู่ในครอบครองทั้งหมด

13.4   ความจำเป็นในการเปิดเผยข้อมูล

ผู้รับอาจเปิดเผยข้อมูลลับเฉพาะได้หากจำเป็นต้องกระทำตามหน่วยงานรัฐ หรือกฎหมาย หรือคำสั่งศาลใดๆ หรือตามกฎของตลาดหลักทรัพย์ใดๆ ที่มีผลบังคับใช้ หลังจากที่แจ้งให้ฝ่ายที่ถูกเปิดเผยข้อมูลทราบก่อน และหลังจากที่ได้ดำเนินการตามขั้นตอนที่เหมาะสมทั้งหมดเพื่อร่วมมือกับฝ่ายที่ถูกเปิดเผยข้อมูลในการจำกัดการเปิดเผยข้อมูลตามขอบเขตสูงสุดที่กฎหมายอนุญาต

13.5   การเปิดเผยข้อมูลที่ได้รับอนุญาต

  1. คู่สัญญาแต่ละฝ่ายอาจเปิดเผยข้อมูลลับเฉพาะแก่พนักงาน ผู้รับจ้าง หรือที่ปรึกษาใดๆ ของตนเมื่อมีความจำเป็นต้องทราบ ตราบใดที่ผู้รับดังกล่าวแต่ละรายอยู่ภายใต้ข้อผูกมัดในการรักษาความลับที่มีสาระสำคัญเหมือนกับที่ระบุไว้ในข้อตกลงฉบับนี้
  2. SiteMinder อาจเปิดเผยข้อมูลลับเฉพาะต่อ Stripe หรือผู้ให้บริการการชำระเงินใดๆ ในขอบเขตที่จำเป็นสำหรับการนำเสนอบริการหรือตามที่อนุญาตภายใต้ข้อตกลง

14. สิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา

14.1   การมอบสิทธิ์ใช้งาน

SiteMinder มอบสิทธิ์ใช้งานแบบไม่ผูกขาด ไม่สามารถถ่ายโอน ไม่สามารถให้สิทธิ์ใช้งานช่วง เพิกถอนได้ ไม่มีค่าลิขสิทธิ์ และมีข้อจำกัดแก่ลูกค้าในการเข้าใช้งานบริการตลอดระยะเวลาตามข้อตกลง

14.2   กรรมสิทธิ์

  1. คู่สัญญารับทราบและยอมรับว่าสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาทั้งหมดซึ่งเป็นของคู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ณ วันที่บังคับใช้ข้อตกลงและตลอดระยะเวลาตามข้อตกลงจะยังคงเป็นของคู่สัญญาฝ่ายดังกล่าวแต่เพียงผู้เดียวตลอดเวลา และไม่มีสิ่งใดในข้อตกลงฉบับนี้ที่อาจตีความได้ว่าเป็นการถ่ายโอนกรรมสิทธิ์ของสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาของคู่สัญญาฝ่ายหนึ่งให้แก่อีกฝ่ายหนึ่ง
  2. ยกเว้นตามที่ระบุไว้ในข้อ 14.1 ไม่มีสิ่งใดในข้อตกลงที่เป็นการให้สิทธิ์ สิทธิ์ครอบครอง หรือผลประโยชน์ใดๆ สำหรับทรัพย์สินทางปัญญาของ SiteMinder แก่ลูกค้า

14.3   ข้อจำกัดการใช้งาน

ลูกค้าต้องไม่ดำเนินการดังต่อไปนี้

  1. พยายามกำหนด จำหน่าย ถ่ายโอน ปล่อยเช่า ให้เช่า หรือจัดการกับบริการ
  2. พยายามดำเนินการแก้ไข ดัดแปลง ปรับปรุง เพิ่มประสิทธิภาพ แปล หรือลอกเลียนแบบจากบริการ
  3. ลบ ดัดแปลง หรือปิดบังลิขสิทธิ์ เครื่องหมายการค้าใดๆ หรือประกาศเกี่ยวกับสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของทรัพย์สินอื่นๆ ที่มีอยู่ในหรือบนบริการ
  4. แปลกลับ ย้อนรอยทางวิศวกรรม ถอดประกอบ ถอดรหัส หรือพยายามให้เข้าถึงโค้ดต้นฉบับ แนวคิดพื้นฐาน อัลกอริธึม โครงสร้าง หรือองค์ประกอบของบริการ และลูกค้าจ่ายค่าชดเชยให้แก่ SiteMinder สำหรับข้อเรียกร้องทั้งหมดไม่ว่าในลักษณะใดก็ตามและไม่ว่าจะเกิดขึ้นจากการละเมิดของลูกค้าตามข้อ 14.3 หรือไม่ก็ตาม หรือการใช้งานหรือการจัดการใดๆ ที่ไม่เหมาะสม ผิดกฎหมาย หรือไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ดูแลระบบของลูกค้าหรือจากผู้ใช้ของลูกค้าที่มีสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาของ SiteMinder

15. การยุติ

15.1   การยุติโดยคู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

คู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งสามารถยุติข้อตกลงฉบับนี้ได้:

  1. หากคู่สัญญาอีกฝ่ายได้กระทำการละเมิดสาระสำคัญของข้อตกลงฉบับนี้ และในกรณีต่อไปนี้อย่างใดอย่างหนึ่ง:
    1. การละเมิดไม่ได้รับการแก้ไขให้ถูกต้องภายใน 14 วันนับจากวันที่มีหนังสือบอกกล่าวเป็นลายลักษณ์อักษรเกี่ยวกับการละเมิดถึงฝ่ายที่ละเมิด หรือ
    2. การละเมิดไม่สามารถเยียวยาได้ (ตามวัตถุประสงค์ข้อ 15.1(a) ที่ว่าการไม่สามารถชำระเงินในวันครบกำหนดได้ถือเป็นการละเมิดประการสำคัญ)
  2. หากคู่สัญญาอีกฝ่ายประสบเหตุล้มละลาย
  3. ตามข้อ 16.2 หากเกิดเหตุสุดวิสัย หรือ
  4. ในเวลาใดก็ตามที่มีการแจ้งให้อีกฝ่ายหนึ่งทราบเป็นลายลักษณ์อักษรล่วงหน้า 30 วัน ซึ่งในกรณีของลูกค้า จะยุติการใช้งานบริการนับจากวันที่แจ้งเป็นลายลักษณ์อักษร โดยมีเงื่อนไขว่าหากลูกค้าเริ่มใช้งานบริการใหม่อีกครั้ง ณ จุดเวลาใดก็ตาม การแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรดังกล่าวจะไม่มีผลใดๆ และลูกค้าจะยังคงผูกพันตามข้อตกลงต่อไป

15.2   การยุติโดย SiteMinder

SiteMinder อาจยุติข้อตกลงได้ทันทีในกรณีต่อไปนี้

  1. ข้อตกลงสำหรับบริการของ Stripe หรือสิทธิ์การเข้าใช้งานบริการของ Stripe ยุติลง หรือ
  2. สิทธิ์การเข้าถึงบัญชียุติลง หรือหากลูกค้าพยายามเพิกถอนการอนุญาตใดๆ ที่ให้มอบให้แก่ SiteMinder ภายใต้ข้อ 4

15.3   ผลของการยุติข้อตกลง

SiteMinder อาจยุติข้อตกลงได้ทันทีในกรณีต่อไปนี้

  1. ในการยุติข้อตกลงฉบับนี้:
    1. ยอดรวมที่ยังไม่ได้ชำระทั้งหมด (รวมค่าธรรมเนียม) ที่ลูกค้าค้างชำระต่อ SiteMinder จะครบกำหนดและต้องชำระในทันที
    2. นอกจากสิทธิ์อื่นใดที่อาจมี SiteMinder อาจออกใบเรียกเก็บเงินหรือหักบัญชีลูกค้าในส่วนของบริการใดๆ ที่ได้นำเสนอ ธุรกรรมใดๆ ที่ได้ดำเนินการ หรือการปฏิเสธการชำระเงินที่เกิดขึ้นก่อนวันที่ยุติข้อตกลงซึ่งยังไม่ได้มีการออกใบเรียกเก็บเงินหรือหักบัญชี
    3. ลูกค้าต้องยกเลิกธุรกรรมใดๆ ที่รอดำเนินการอยู่ทั้งหมด
    4. ลูกค้าต้องยุติการใช้งานบริการเพื่อยอมรับธุรกรรมใหม่
    5. ลูกค้าต้องยุติการใช้เครื่องหมายการค้า เนื้อหา หรือโลโก้ที่เกี่ยวข้องกับบริการหรือ SiteMinder
    6. SiteMinder อาจลบข้อมูลใดๆ ที่จัดเก็บอยู่ในบริการได้ และ
    7. ลูกค้าต้องส่งข้อมูลลับเฉพาะทั้งหมดของ SiteMinder รหัสการเข้าถึงและคีย์ทุกประเภท ตลอดจนสื่ออื่นใดในความครอบครองของลูกค้าที่เกี่ยวข้องกับบริการคืนแก่ SiteMinder โดยทันที
  2. SiteMinder จะไม่รับผิดชอบต่อการสูญหายที่เกี่ยวข้องกับการลบข้อมูลตามข้อ 15.3(a)(vi)
  3. ลูกค้าจะยังคงต้องรับผิดต่อค่าธรรมเนียม การปฏิเสธการชำระเงิน และพันธกรณีทางการเงินอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับบริการก่อนหรือหลังการยุติข้อตกลง

16. เหตุสุดวิสัย

16.1   การไม่ต้องรับผิด

ในกรณีที่เกิดความล้มเหลวหรือความล่าช้าใดๆ ของคู่สัญญาฝ่ายหนึ่ง (ฝ่ายที่ได้รับผลกระทบ) ในการดำเนินการตามพันธกรณีของตนภายใต้ข้อตกลง (ไม่รวมพันธกรณีด้านการชำระเงิน) ไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อม อันเนื่องมาจากเหตุสุดวิสัย จะมีผลดังนี้

  1. ฝ่ายที่ได้รับผลกระทบต้องแจ้งให้คู่สัญญาอีกฝ่ายทราบถึงข้อเท็จจริงดังกล่าวเป็นลายลักษณ์อักษรทันทีที่สามารถทำได้
  2. ฝ่ายที่ได้รับผลกระทบไม่ต้องรับผิดต่อความล้มเหลวหรือความล่าช้าดังกล่าว และ
  3. พันธกรณีของฝ่ายที่ได้รับผลกระทบภายใต้ข้อตกลงจะถูกระงับในขอบเขตที่ตนได้รับผลกระทบจากเหตุสุดวิสัยที่เกี่ยวข้องตลอดระยะเวลาของเหตุสุดวิสัยดังกล่าว

16.2   การยุติเนื่องจากเหตุสุดวิสัย

หากเหตุสุดวิสัยดำเนินต่อไปเป็นเวลานานกว่า 30 วันติดต่อกัน ขณะที่เหตุสุดวิสัยยังดำเนินต่อไปนั้น คู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งสามารถยุติข้อตกลงโดยการแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรให้อีกฝ่ายทราบได้ตลอดเวลา

17. ข้อสงวนสิทธิ์และข้อจำกัดการรับผิด

17.1   ข้อสงวนสิทธิ์

  1. SiteMinder นำเสนอบริการในรูปแบบ “ตามที่เป็น” และ “ตามที่พร้อมใช้งาน” โดยไม่มีการรับประกัน เงื่อนไข หรือการรับรองใดๆ ไม่ว่าจะโดยชัดแจ้งหรือโดยนัย และขอสงวนสิทธิ์เป็นการเฉพาะต่อการรับประกันเรื่องกรรมสิทธิ์ ความสามารถในการค้าขายได้ ความเหมาะสมตามวัตถุประสงค์เฉพาะ และการไม่ละเมิดลิขสิทธิ์ตามขอบเขตสูงสุดที่กฎหมายอนุญาต
  2. ในขอบเขตที่ถือว่าการนำเสนอบริการแก่ลูกค้าเป็นการจัดหาสินค้าและบริการสำหรับลูกค้าที่มีการรับประกันโดยนัยสำหรับผู้บริโภคภายใต้กฎหมายที่บังคับใช้ ความรับผิดทั้งหมดของ SiteMinder ในส่วนที่เกี่ยวกับความบกพร่องประการสำคัญในการปฏิบัติตามการรับประกันโดยนัยสำหรับผู้บริโภคจะจำกัดอยู่ที่การนำเสนอบริการให้ใหม่หรือการคืนเงินค่าธรรมเนียม (แต่ละครั้งจำกัดระยะเวลาอยู่ที่ 30 วันและตามที่ SiteMinder กำหนดตามดุลยพินิจของตนแต่เพียงผู้เดียว)
  3. การนำเสนอบริการเป็นไปตามลักษณะและข้อจำกัดของบริการของ Stripe และข้อกำหนดใดๆ ที่วางไว้ในข้อตกลงสำหรับบริการของ Stripe
  4. SiteMinder ไม่ให้การรับประกันหรือการรับรองในส่วนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องต่อไปนี้
    1. ความพร้อมใช้งาน ความถูกต้อง หรือความสมบูรณ์ของบริการหรือข้อมูล
    2. บริการตอบสนองความต้องการหรือความคาดหวังของลูกค้า
    3. บริการทำงานในความเร็วระดับหนึ่ง โดยเป็นไปตามมาตรฐานหนึ่ง หรือทำงานในลักษณะหนึ่ง
    4. ลูกค้าได้รับผลกำไรหรือผลลัพธ์อื่นๆ จากการใช้งานบริการ
    5. การนำเสนอบริการเป็นไปอย่างปลอดภัยโดยไม่ติดขัดหรือมีข้อผิดพลาด
    6. การแก้ไขข้อบกพร่องหรือข้อผิดพลาดใดๆ ในบริการหรือข้อมูล
    7. บริการหรือข้อมูลปราศจากไวรัสหรือรหัสอันตรายใดๆ หรือ
    8. เวลาที่ต้องใช้ในการดำเนินธุรกรรมหรือการจ่ายเงินที่เกี่ยวข้องกับบริการ

17.2   ข้อจำกัดการรับผิด

  1. SiteMinder จะไม่รับผิดต่อการสูญเสียที่เกิดขึ้นจากลูกค้าโดยมีความสัมพันธ์หรือความเกี่ยวข้องกับเรื่องต่อไปนี้
    1. ธุรกรรมที่เป็นการฉ้อโกงหรือการฉ้อโกงที่กระทำโดยบุคคลที่สาม
    2. การเข้าถึงหรือการใช้งานที่ไม่ได้รับอนุญาต การแฮ็กหรือการแก้ไขข้อมูลโดยประสงค์ร้าย ซึ่งดำเนินการต่อบริการ บัญชี หรือข้อมูล
    3. การใช้งานบริการหรือบริการของ Stripe โดยลูกค้า ผู้ดูแลระบบของลูกค้า หรือผู้ใช้งานของลูกค้าในลักษณะที่เป็นการละเมิดหรือไม่สอดคล้องกับข้อตกลง
    4. มัลแวร์ใดๆ ที่อาจมีการส่งถึงหรือส่งผ่านทางบริการหรือบริการของ Stripe หรือ
    5. ข้อผิดพลาดใดๆ ในข้อมูลหรือการสูญเสียที่เกิดขึ้นต่อข้อมูล
  2. ในขอบเขตสูงสุดที่กฎหมายอนุญาตและอยู่ภายใต้ข้อ 17.1(b) ลูกค้ายอมรับว่าการรับผิดรวมทั้งหมดของ SiteMinder ในส่วนที่เกี่ยวกับการเรียกร้องทั้งหมดที่ดำเนินการภายใต้ข้อตกลงนั้นจำกัดอยู่ที่ 0.1% ของปริมาณธุรกรรมทั้งหมดที่ประมวลผลโดย SiteMinder ในนามของลูกค้าตลอดช่วง 12 เดือนก่อนเกิดเหตุการณ์ซึ่งก่อให้เกิดการรับผิด หักด้วยการปฏิเสธการเรียกเก็บที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมเหล่านั้น

17.3   การไม่มีการสูญเสียที่เป็นผลสืบเนื่อง

นอกเหนือจากกรณีที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดข้อ 13 (การรักษาความลับ) หรือข้อ 14 (สิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญา) และภายใต้ข้อ 18 (การจ่ายค่าชดเชย) แล้ว คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายจะไม่ต้องรับผิดต่อการสูญเสียที่เป็นผลสืบเนื่องใดๆ ไม่ว่าจะเกิดขึ้นโดยสัมพันธ์หรือเกี่ยวข้องกับข้อตกลงหรือบริการก็ตาม

17.4   การไม่มีข้อกำหนดโดยนัย

ข้อกำหนด เงื่อนไข หรือการรับประกันทั้งหมดที่อาจบ่งนัยถึงข้อตกลงนั้น ไม่รวมอยู่ในขอบเขตสูงสุดที่กฎหมายอนุญาต

18. การจ่ายค่าชดเชย

18.1   การจ่ายค่าชดเชย

ลูกค้ายินยอมที่จะจ่ายค่าชดเชยแก่ SiteMinder สำหรับข้อเรียกร้องและการสูญเสียทั้งหมดที่เกิดขึ้น (รวมถึงค่าใช้จ่ายทางกฎหมายอย่างสมเหตุสมผล) ที่เกิดขึ้นจากหรือเกี่ยวข้องกับเรื่องต่อไปนี้

  1. สินค้า
  2. การที่ลูกค้าละเมิดข้อตกลง
  3. ธุรกรรมและการปฏิเสธการชำระเงิน:
  4. การใช้งานบริการโดยลูกค้า ผู้ดูแลระบบของลูกค้า และผู้ใช้งานของลูกค้า
  5. การกระทำผิดโดยประมาทหรือโดยเจตนาของลูกค้า ผู้ดูแลระบบของลูกค้า หรือผู้ใช้งานของลูกค้า ตลอดจนบริษัทที่เกี่ยวข้อง ผู้อำนวยการ เจ้าหน้าที่ พนักงาน ผู้รับเหมา เอเยนต์ และผู้ให้บริการ และ
  6. ข้อมูลและสื่ออื่นใดที่ลูกค้ามอบให้แก่ SiteMinder หรือ Stripe หรือการอัปโหลดโดยการใช้งานบริการที่ละเมิดสิทธิ์ของบุคคลที่สาม รวมถึงสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญา สิทธิ์ในทรัพย์สิน หรือสิทธิ์ด้านความเป็นส่วนตัว (การเรียกร้องค่าชดเชยแต่ละรายการ)

18.2   เงื่อนไขของการจ่ายค่าชดเชย

ลูกค้าจะไม่มีพันธกรณีในการจ่ายค่าชดเชยแก่ SiteMinder ในส่วนของการเรียกร้องค่าชดเชยตามข้อ 18.1 เว้นแต่ SiteMinder

  1. ได้แจ้งให้ลูกค้าทราบถึงการเรียกร้องค่าชดเชยเป็นลายลักษณ์อักษรทันทีที่สามารถดำเนินการได้ตามสมควรหลังจากรับทราบถึงการเรียกร้องค่าชดเชยภายใน 20 วันทำการในทุกกรณี
  2. ไม่ประกาศยอมรับผิด และ
  3. กำหนดสิทธิ์ให้ลูกค้าในการแก้ต่างหรือประนีประนอมกับการเรียกร้องค่าชดเชยในกรณีที่ลูกค้าร้องขอเป็นลายลักษณ์อักษร

19. ข้อพิพาท

19.1   การระงับข้อพิพาทก่อนการดำเนินคดี

  1. คู่สัญญาต้องดำเนินการตามข้อกำหนดต่อไปนี้ให้ครบทุกข้อก่อนที่จะเริ่มกระบวนพิจารณาตามกฎหมายใดๆ
  2. เมื่อมีข้อพิพาทเกิดขึ้น ฝ่ายที่โต้แย้งต้องส่งหนังสือบอกกล่าวเป็นลายลักษณ์อักษรให้อีกฝ่ายหนึ่งทราบโดยระบุรายละเอียดตามสมควรเกี่ยวกับลักษณะของข้อพิพาท
  3. คู่สัญญาต้องใช้ความพยายามตามสมควรและดำเนินการโดยสุจริตใจในการระงับข้อพิพาทที่แจ้งไว้ภายใต้ข้อย่อย (a) โดยการเจรจาระหว่างผู้จัดการอาวุโสของแต่ละฝ่าย
  4. หากผู้จัดการอาวุโสของทั้งสองฝ่ายไม่สามารถระงับข้อพิพาทใดๆ ได้ภายใน 20 วันทำการหลังจากที่ได้รับแจ้งข้อพิพาท คู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งสามารถดำเนินการเพิ่มเติมตามที่เห็นว่าจำเป็นเพื่อระงับข้อพิพาทดังกล่าวได้ ซึ่งรวมถึงการเริ่มต้นกระบวนพิจารณาตามกฎหมาย

19.2   คำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวระหว่างพิจารณา

ไม่มีสิ่งใดในข้อ 19 ที่ห้ามไม่ให้คู่สัญญาส่งคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวระหว่างพิจารณาด่วนจากศาล

20. ทั่วไป

20.1   ไม่มีการกำหนด

คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายไม่สามารถกำหนดสิทธิ์และพันธกรณีภายใต้ข้อกำหนดโดยไม่ได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งก่อนได้

20.2   การเปลี่ยนแปลงการควบคุม

หากเกิดการเปลี่ยนแปลงการควบคุมในส่วนที่เกี่ยวกับลูกค้า หรือลูกค้าจำหน่ายสถานที่บริการที่พักซึ่งได้รับบริการภายใต้ข้อตกลง SiteMinder อาจยุติข้อตกลงหรือการนำเสนอบริการได้ หากลูกค้าประสงค์จะถ่ายโอนข้อตกลงไปยังเจ้าของธุรกิจหรือสถานที่บริการที่พักคนใหม่ จะต้องส่งคำร้องเป็นลายลักษณ์อักษรถึง SiteMinder ให้ดำเนินการดังกล่าว โดย SiteMinder อาจยอมรับหรือปฏิเสธได้ตามดุลยพินิจของตนแต่เพียงผู้เดียว

20.3   หนังสือบอกกล่าวทวงถาม

  1. หนังสือบอกกล่าวทวงถามหรือการสื่อสารในลักษณะอื่นที่จำเป็นหรือได้รับอนุญาตให้มอบให้แก่คู่สัญญาอีกฝ่ายต้องเป็นลายลักษณ์อักษรและต้องมีลักษณะดังนี้
    1. ส่งมอบเป็นการส่วนตัว
    2. ส่งทางไปรษณีย์ที่มีการชำระค่าฝากส่งแล้วไปยังที่อยู่ซึ่งระบุไว้ในข้อตกลง หรือ
    3. ส่งทางอีเมลไปยังที่อยู่อีเมลที่คู่สัญญาอีกฝ่ายเคยใช้หรือให้ไว้ก่อนหน้านี้
  2. หนังสือบอกกล่าวทวงถามหรือการสื่อสารในลักษณะอื่นจะถือว่าได้รับแล้ว
    1. ทันทีหลังการส่งมอบสำหรับกรณีที่ส่งมอบเป็นการส่วนตัว
    2. ในวันทำการวันที่สองหลังจากที่ส่งสำหรับกรณีที่ส่งทางไปรษณีย์ หรือ
    3. ในวันที่ส่งสำหรับกรณีที่ส่งทางอีเมล เว้นแต่ผู้รับจะสามารถพิสูจน์ได้ว่าอีเมลดังกล่าวส่งไม่สำเร็จ
  3. ลูกค้ายินยอมให้มีการนำเสนอทางอิเล็กทรอนิกส์รวมถึงการจัดส่งข้อมูลสื่อสาร ประกาศ และการเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดจาก SiteMinder รวมถึงข้อมูลสื่อสาร ประกาศ หรือการเปิดเผยข้อมูลใดๆ ที่กำหนดโดยกฎหมายที่บังคับใช้
  4. คู่สัญญาสามารถเปลี่ยนแปลงที่อยู่สำหรับบริการได้โดยการแจ้งให้คู่สัญญาอีกฝ่ายทราบถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเป็นลายลักษณ์อักษร
  5. รายละเอียดการติดต่อของคู่สัญญาแต่ละฝ่ายสำหรับการแจ้งเตือนภายใต้ข้อตกลงระบุไว้ในแบบฟอร์มการลงทะเบียน

20.4  กฎหมายและเขตอำนาจศาลที่กำกับดูแล

  1. ในกรณีที่คู่กรณีฝ่าย SiteMinder คือ SiteMinder Limited ข้อตกลงฉบับนี้จะกำกับดูแลโดยกฎหมายแห่งรัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย โดยคู่สัญญาแต่ละฝ่ายต้องปฏิบัติตามเขตอำนาจเฉพาะของศาลแห่งรัฐนิวเซาท์เวลส์โดยไม่อาจเพิกถอนได้
  2. ในกรณีที่คู่กรณีฝ่าย SiteMinder คือ SiteMinder Distribution Limited ข้อตกลงฉบับนี้จะกำกับดูแลโดยกฎหมายแห่งอังกฤษและเวลส์ โดยคู่สัญญาแต่ละฝ่ายต้องปฏิบัติตามเขตอำนาจเฉพาะของศาลแห่งอังกฤษและเวลส์โดยไม่อาจเพิกถอนได้
  3. ในกรณีที่คู่กรณีฝ่าย SiteMinder คือ SiteMinder Hospitality Corporation ข้อตกลงฉบับนี้จะกำกับดูแลโดยกฎหมายแห่งรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา โดยคู่สัญญาแต่ละฝ่ายต้องปฏิบัติตามเขตอำนาจเฉพาะของศาลแห่งรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกาโดยไม่อาจเพิกถอนได้

20.5   คำรับรองเพิ่มเติม

คู่สัญญาแต่ละฝ่ายต้องดำเนินการทุกสิ่ง (รวมถึงจัดทำเอกสารทั้งหมด) ที่จำเป็นหรือพึงกระทำเป็นครั้งคราว เพื่อให้ข้อตกลงฉบับนี้มีผลบังคับใช้อย่างสมบูรณ์ คู่สัญญาแต่ละฝ่ายรับทราบว่าตนได้รับคำแนะนำทางกฎหมายหรือมีโอกาสรับคำแนะนำทางกฎหมายอันเกี่ยวข้องกับข้อตกลงได้

20.6   การเปลี่ยนแปลง

SiteMinder อาจแก้ไขข้อตกลงหรือเงื่อนไขใดๆ ในการใช้งานบริการได้ตลอดเวลาไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม โดย SiteMinder จะแจ้งให้ลูกค้าทราบถึงการแก้ไขดังกล่าว ลูกค้ายอมรับว่าการแก้ไขนั้นจะมีผลผูกพันกับลูกค้าในกรณีที่ลูกค้ายังคงใช้งานบริการต่อไปหลังจาก 7 วันนับจากวันที่แจ้งลูกค้าทราบ (หรือนานกว่านั้นหากกฎหมายที่บังคับใช้กำหนดไว้)

20.7   ผู้รับมอบอำนาจ

แต่ละบุคคลที่ดำเนินการตามข้อตกลงฉบับนี้ในนามของคู่สัญญา รวมถึงผู้ดูแลระบบของลูกค้า รับประกันว่าตนมีอำนาจโดยสมบูรณ์และถูกต้องในการดำเนินการดังกล่าว และไม่ทราบถึงการเพิกถอนหรือการระงับใดๆ ของหนังสือมอบอำนาจที่เกี่ยวข้องหรือการอนุญาตอื่นๆ

20.8   การรับผิดร่วมกัน หากลูกค้าทำข้อตกลงในนามของคู่สัญญามากกว่าหนึ่งฝ่าย คู่สัญญาหลายฝ่ายดังกล่าวจะได้รับบริการภายใต้ข้อตกลง โดยคู่สัญญาแต่ละฝ่ายจะต้องรับผิดร่วมกันในส่วนของบริการทั้งหมดที่นำเสนอให้

20.9   ข้อตกลงที่สมบูรณ์

ข้อตกลงฉบับนี้

  1. เป็นข้อตกลงที่สมบูรณ์ระหว่างคู่สัญญา และ
  2. ใช้แทนการสื่อสารทางวาจาและลายลักษณ์อักษรทั้งหมดโดยหรือในนามของคู่สัญญาฝ่ายใดก็ตามในส่วนที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาของข้อตกลง

20.10   การไม่ขึ้นกับการรับประกันและการรับรอง

ในการทำข้อตกลงฉบับนี้ คู่สัญญาแต่ละฝ่ายรับทราบเงื่อนไขต่อไปนี้

  1. ไม่ได้อาศัยการรับประกันหรือการรับรองใดๆ (ไม่ว่าทางวาจาหรือลายลักษณ์อักษร) ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาของข้อตกลง นอกเหนือจากที่ระบุไว้อย่างชัดแจ้งในข้อตกลง และ
  2. อาศัยการสอบถามของตนเองโดยสิ้นเชิงในส่วนที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาของข้อตกลง

20.11   ความผูกพันเมื่อข้อตกลงสิ้นสุดลง

นอกเหนือจากข้อกำหนด เงื่อนไข และบทต่างๆ ซึ่งสามารถมีผลบังคับใช้หลังจากการหมดอายุหรือการยุติข้อตกลงฉบับนี้แล้ว การชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแต่ละรายการจะยังคงมีผลบังคับใช้ได้อย่างสมบูรณ์

20.12   การแยกออกจากกัน

หากส่วนใดของข้อตกลงไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่สามารถบังคับใช้ได้ เนื้อหาส่วนนั้นจะแยกออกจากข้อตกลง โดยเนื้อหาส่วนที่เหลือของข้อตกลงจะยังคงมีผลบังคับใช้อย่างสมบูรณ์ต่อไป

20.13   การไม่รวมเข้าด้วยกัน

ไม่มีสิ่งใดในข้อตกลงนี้ที่ควบรวม ยุติ เลื่อนเวลา ลดอำนาจ หรือส่งผลเสียต่อสิทธิ์ อำนาจ หรือการเยียวยาใดๆ ที่ SiteMinder อาจมีต่อลูกค้าหรือบุคคลอื่นใดทุกเมื่อ

20.14   ความสัมพันธ์

ข้อตกลงนี้ไม่ได้สร้างความสัมพันธ์ใดๆ ของความเป็นหุ้นส่วนหรือการจ้างงาน การเป็นแฟรนไชส์ การร่วมทุน หรือการเป็นตัวแทนระหว่างคู่สัญญาหรือหน่วยงานอื่นใดที่อ้างถึงกับ SiteMinder และผู้ให้บริการการชำระเงินแต่ละรายเป็นผู้รับเหมาอิสระ

20.15   การตีความ

บทบัญญัติของข้อตกลงจะต้องไม่ได้รับการตีความให้คู่สัญญาเสียประโยชน์เพียงเพราะฝ่ายนั้นมีหน้าที่รับผิดชอบในการจัดทำข้อตกลงหรือการรวมบทบัญญัติไว้ในข้อตกลง

20.16   การไม่อนุญาตให้สละสิทธิ์

ความล่าช้าหรือความล้มเหลวของคู่สัญญาในการใช้สิทธิ์ อำนาจ หรือการแก้ไขความเสียหายที่เกิดขึ้นภายใต้หรือเกี่ยวข้องกับข้อตกลงฉบับนี้ จะไม่ถือว่าเป็นการสละสิทธิ์ อำนาจ หรือการแก้ไขความเสียหายของคู่สัญญาดังกล่าว การสละสิทธิ์ใดๆ ต้องดำเนินการเป็นลายลักษณ์อักษรและลงนามโดยคู่สัญญาที่อนุญาตการสละสิทธิ์ และจะมีผลเฉพาะในขอบเขตที่กำหนดไว้ในการสละสิทธิ์ดังกล่าวเท่านั้น